เด็กๆ กับขนมเป็นของคู่กันเพราะเขาเป็นวัยอยากรู้อยากลองอยู่ตลอด แล้วขนมต่างๆ ก็ทำสีสัน รูปทรงออกมาล่อตาล่อใจ เด็กคนไหนจะไปอดใจกลั้นความอยากรู้อยากลองไว้ได้ไหวกัน แต่คนที่หนักใจก็กลายเป็นคุณพ่อคุณแม่นั่นเองที่ต้องมากังวลกับปัญหาที่ตามมาจากเจ้าขนมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟันผุ อ้วน ไม่ยอมทานข้าว และปัญหาเฉพาะตัวอีกมากมาย
เอาเป็นว่าห้ามเด็กไม่ให้ทานขนมก็เหมือนห้ามน้ำไม่ให้ไหลเรามาหาวิธีจัดการให้ขนมมันมีประโยชน์น่าจะง่ายกว่า เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของลูกและสุขภาพใจที่ดีของคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย
มาเช็ครายการของขนมที่ควรเลือกมาให้ลูกทานกัน
- หันมามองหาขนมที่ไม่ได้ให้พลังงานสูงมากนัก สัดส่วนของน้ำมันและน้ำตาลก็จะต้องไม่มากจนเกินไป อย่าง อมยิ้ม ลูกอม พยายามตัดทิ้งไปเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ และแบ่งเวลาทานขนม ของว่างให้กับลูกเป็นวันละ 2 ครั้ง ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
- อย่าลืมหาสิ่งที่มีสารอาหารให้ลูกทานร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน เหล็ก แคลเซียม วิตามิน A C B1 B2 หรือใยอาหาร เพื่อเป็นการแทรกประโยชน์เข้าไปกับการทานในแต่ละครั้งด้วย
- สีของขนมดูกันให้ดีว่าเป็นสีโดยธรรมชาติหรือมีการแต่งสี ซึ่งถ้าอยู่ในประเภทที่ใช้สีผสมอาหารนั้นถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงไปเลยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสารตกค้างในร่างกายของลูกนั่นเอง
- ถ้าขนมที่จะให้ลูกทานนั้นมีฉลากคุณพ่อคุณแม่ก็ควรต้องอ่านข้อมูลทางโภชนาการให้ละเอียดทุกครั้ง โดยปริมาณแคลลอรี่สำหรับขนมของลูกนั้นควรอยู่ไม่เกินประมาณ 100-150 กิโลแคลลอรี่ ต่อวัน
- ถ้าไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ติดหวานควรสรรหาผลไม้ที่ไม่ได้มีรสหวานจัดมาให้เขาทาน เช่น ส้ม ฝรั่ง ชมพู่ มะละกอ ส่วนผลไม้ที่มีรสหวานมากๆ เช่น เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ ควรหลีกเลี่ยงเพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้ลูกกลายเป็นคนติดหวานและเกิดปัญหาโรคอ้วนได้
- การเลือกซื้อขนมเก็บไว้ในบ้านนั้นควรเน้นขนมที่ไม่ติดไปทางรสหวานเช่นเดียวกัน เช่น นมจืด ขนมปังชนิดโฮลวีท เลี่ยงเลยกับขนมหรืออาหารที่มีกะทิ และพวกขนมถุงไม่ควรมีไว้ในบ้านเพื่อให้ลูกชินกับการทานเฉพาะขนมที่มีประโยชน์เท่านั้น น้ำอัดลมและนมเปรี้ยวก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีติดตู้เย็นที่บ้านไว้ด้วยเช่นเดียวกัน
- อย่าเผลอเอาขนมหรืออาหารมาเป็นรางวัลล่อใจให้กับลูกของคุณเพราะมันจะทำให้เขารู้สึกว่าอยากได้มันตลอดเวลา
แม้จะมีประโยชน์ขนาดไหนก็ต้องเน้นที่มื้อหลัก
เด็กๆ เป็นวัยที่ใช้พลังงานมากเลยทีเดียว จนในบางครั้งปริมาณพลังงานต่อวันที่ควรได้จากอาหารอาจจะมากกว่าผู้ใหญ่บางคนด้วยซ้ำ เพราะปริมาณพลังงานต่อวันที่เด็กๆ ควรได้รับจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 กิโลแคลลอรี่ เลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรให้ขนมเพื่อเป็นตัวให้พลังงานหลักกับเขา คุณควรทำข้าวมื้อหลักของเขาให้น่าสนใจและครบไปด้วยประโยชน์และให้เขาทานอย่างเต็มที่ ส่วนขนมควรมีข้อจำกัดเพราะถ้าคุณให้ทานข้าว 3 มื้อแถมยังมีขนมทุกมื้อลูกน้อยของคุณอาจจะกลายเป็นเจ้าหนูตุ้ยนุ้ยก็เป็นได้ แม้ว่าจะดูน่ารักแต่จริงๆ แล้วกลับเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพของเขาในอนาคตได้เลยทีเดียว
การดูแลและใส่ใจในเรื่องของขนมและอาหารการกินของลูกนั้นอาจจะมีความยากในช่วงแรกๆ แต่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องอดทนกับปัญหานี้เพื่อร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ตามวัยของลูกในอนาคตนั่นเอง
และการหมั่นฝึกในเรื่องระเบียบวินัยแม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยอย่างการทานอาหารและขนมแล้วนั้น กลับเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนานิสัยของพวกเขาให้ชินและเข้าใจกับความมีระเบียบจนกลายเป็นนิสัยที่ดีให้กับเขาได้ในอนาคตด้วยเช่นกัน