RSV เป็นแล้วเป็นอีกได้ ซึ่งหลอดลมจะไวต่อสิ่งเร้าได้ง่าย

ไวรัส RSV หรือมีชื่อเต็มว่า Respiratory Syncytial Virus มักระบาดในช่วงหน้าฝนหรือปลายฝนต้นหนาว ซึ่งก็คือช่วงนี้ (ส.ค.)

อาการทั่วไปคล้ายหวัด แต่ RSV จะรุนแรงกว่าเพราะเป็นไวรัสที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ร่างกายผลิตสารคัดหลั่งออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ เป็นต้น และถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้เป็นโรคหอบหืดได้

ประสบการณ์จากแม่โน้ต

ซึ่งตอนนั้นน้องมินอายุได้เพียง 1 ขวบ เท่านั้นก็ได้รับเจ้าเชื้อไวรัส RSV ซะแล้ว

ตอนนั้นพาน้องมินไปแอดมิทที่โรงพยาบาลเพราะน้องมีอาการไอมาก มีเสมหะ พ่นยา และให้น้ำเกลือ

เท่าที่ได้คัยกับคุณหมอประจำตัวน้องมิน หากเคยเป็นแล้ว สามารถเป็นซ้ำได้ เพียงแต่อาการจะไม่ได้รุนแรงเท่าครั้งแรก และผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน

ซึ่งอย่างหลังการันตีค่ะว่าเป็นได้ เพราะโน้ตติดน้องมินก็คราวที่เค้าต้องไปแอดมิทนี่แหละ แต่ว่าอาการเราน้อยกว่าลูกมาก

เด็กที่เคยติดเชื้อไวรัส RSV มาก่อน จะส่งผลต่อ “หลอดลมและระบบทางเดินหายใจ” เพราะเคยมีการพ่นยาขยายหลอดลมมาแล้ว ดังนั้น เวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงหรือเวลาที่จะเริ่มไม่สบายรอบใหม่ (รวมถึงโรคอื่นๆ ด้วย) หลอดลมก็จะไวต่อสิ่งเร้าได้ง่ายกว่าเด็กที่ไม่เคยเป็น RSV มาก่อน

ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไวรัส RSV ค่ะ หากเกิดภาวะแทรกซ้อน จะมีผลดังนี้

อย่างที่พ่อแม่หลายคนรู้กันดีค่ะ ว่า

เด็กก็คือเด็ก เล่นของเล่น แป้บๆ ก็เผลอเอามือเข้าปาก บางครั้งแม่อย่างเรานั่งอยู่ด้วยแท้ๆ ยังห้ามไม่ทันเลย โน้ตจึงพยายามใช้วิธีนี้แทน

ลูกไม่สบาย…ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้มันเกิดขึ้น เพียงแต่พ่อแม่ต้องเพิ่มความใส่ใจในการดูแลเข้าไปอีกซักนิด พยายามป้องกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เท่านี้ก็พอ เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ

ปล. รูป คือ ตอนที่น้องมินอายุ 1 ขวบ กำลังจะออกจาก รพ. หลังแอดมิทเพื่อรักษาไวรัส RSV