Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

เล่นกับลูกวัย 3 เดือนอย่างไรให้เสริมพัฒนาการ?

การพัฒนาสมองให้ลูกน้อยวัย 3 เดือน มีวิธีเล่นแบบง่ายๆ โดยเน้นความสนุกและปลอดภัย ทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกและพ่อแม่ ซึ่งหลายๆ ครอบครัวก็อาจจะเล่นกันเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่มีหลักการง่ายๆ ที่จะเสริมสร้างพัฒนาการให้ครบทุกด้าน นั่นก็คือการกระตุ้นร่างกายผ่านสัมผัสทั้งห้า เช่น การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส การได้กลิ่น ส่วนการรับรสนั้นในวัย 3 เดือนจะยังไม่แนะนำเพราะระบบย่อยอาหารของลูกน้อยยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ รวมไปถึงการฝึกพัฒนากล้ามเนื้อมัดต่างๆ ค่ะ

ประสบการณ์จากแม่พลอย

คุณแม่เภสัชกรลูกหนึ่งที่เคยผ่านภาวะซึมเศร้าหลังคลอดมาได้โดยไม่ต้องใช้ยา ทั้งยังเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กเล็กมาก่อน ดังนั้นการมีลูกคนแรกจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแม่คนนี้เท่าไหร่ โชคดีที่ได้เป็นคุณแม่ฟูลไทม์ไปพร้อมๆ กับการทำงานที่บ้านได้ ก็จะพยายามใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์นำมาถ่ายทอด ไม่ว่าจะทฤษฎีทางการแพทย์หรือความเชื่อโบราณทุกอย่างล้วนมีเหตุผล แต่แม่พลอยคิดว่าการเลี้ยงลูกทางสายการนั้นย่อมดีที่สุดค่ะ

พัฒนาการด้านการได้ยิน

บ้านนี้ชอบเปิดเพลงให้ลูกฟังค่ะ โดยเน้นเป็นเพลงโมสาร์ทสบายๆ ก็เปิดผ่านยูทูปนี่ละค่ะ แต่เลือกคลิปที่เป็นภาพนิ่งนะคะ จะได้ไม่รบกวนสายตาลูกน้อยรวมถึงกระตุ้นสมองมากเกินไป บางทีก็จะใช้โมบายหมุนๆ ที่มีเสียงดนตรีไปด้วย แต่สิ่งที่ลูกชอบที่สุดก็คือเสียงของพ่อกับแม่นี่ล่ะค่ะ ชอบให้ทำเสียงเล็ก เสียงน้อยคุยด้วย รวมไปถึงการเล่านิทานคำกลอนคล้องจอง อันนี้ช่วยให้นิ่งได้มากเลยค่ะ ตั้งใจฟังสุดๆ ที่บ้านมีอยู่ 5 เล่ม อ่านวนไปค่ะ ยังไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็เริ่มจดจำน้ำเสียงได้แล้ว หรือเบื่อๆ ก็ร้องเพลงแบบสมัยเด็กๆ เล่นกันก็สนุกดีนะคะ ลูกให้ความร่วมมือมากๆ เลย

พัฒนาการด้านการสัมผัส

ตอนแรกแม่ก็พยายามหาของเล่นเด็กๆ ต่างๆ ให้ โดยจะต้องเป็นของที่ไม่อันตราย ไม่มีเหลี่ยมคม เช่น ตุ๊กตาบีบมือมีเสียงปี๊บๆ จะช่วยกระตุ้นทั้งสัมผัสและการได้ยิน ถ้าให้ลูกเล่นเองก็เล่นได้ไม่นานหรอกค่ะ เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กยังไม่แข็งแรงพอที่จะจับได้นาน เพราะฉะนั้นของเล่นทุกอย่าง พ่อแม่นี่แหละค่ะที่จะต้องเป็นคนเล่นให้ดู ไม่ว่าจะกี่ครั้งลูกก็ไม่เบื่อ แต่พอเริ่มโตมาหน่อยนึงลูกจะเริ่มไขว่คว้าเองได้ อะไรที่อยู่ตรงหน้าจะอย่างคือของเล่นเขาหมดแหละ ยิ่งถ้าเป็นถุงขนมที่พอจับแล้วดังกรอบแกรบๆ จะทำให้เขาอยู่กะสิ่งนั้นได้นานกว่าเล่นกับพ่อแม่ก็ถือว่าช่วยเพิ่มสมาธิได้ค่ะ

พัฒนาการด้านการมองเห็น

สำหรับเรื่องสายตาลูกนั้น ถ้าฝึกได้ก็ถือเป็นการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กไปด้วย ในวัย 3 เดือนลูกเริ่มมองระยะไกลหน่อยได้แล้วค่ะ บ้านนี้เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกตั้งแต่ตอนนี้เลย ทำให้ลูกทั้งอารมณ์ดี และทำให้รู้ถึงการหายไปแว้บเดียวของพ่อแม่ว่าเดี๋ยวก็กลับมา เลยจะไม่ค่อยร้องตาม หรือเวลาทิ้งให้อยู่คนเดียวสักพัก ส่วนโมบายนี่ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ทำให้ลูกหัดมองโฟกัสที่สิ่งของได้ สักพักก็ยื่นมือไปจับโมบายที่กำลังหมุนไว้เองได้ เรื่องหน้าจอต่างๆ ต้องระวังค่ะ ที่บ้านมีแต่คนเปิดทั้งหน้าจอโทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ถ้าเห็นรูปมองหาแสงหน้าจอพวกนี้ปุ๊บ บ้านเราจะรีบปิดทันทีค่ะ มันก็จริงที่สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กๆ นิ่งขึ้น แต่ๆๆ เสี่ยงต่อการสมาธิสั้นซึ่งแม่ก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น การหาของเล่นที่เป็นแบบมีแสงไฟวิบวับไม่แสบตา เต้นได้ ร้องเพลงได้ ก็ช่วยทุ่นแรงพ่อแม่ในช่วงที่ต้องทำอย่างอื่นได้บ้างค่ะ บางทีเล่นด้วยทั้งวันก็เหนื่อย ก็หมดมุขอะเนอะ

พัฒนาการด้านร่างกาย (กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ)

การพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ขา ตอนช่วงแรกเกิดบ้านนี้ชอบอุ้มลูกพาดบ่าค่ะ พออุ้มแล้วจะเอามือนึงรองที่ส้นเท้าน้องไว้ น้องก็จะดันขาออกเองอัตโนมัติ ราวกับยืนได้บนฝ่ามือ อย่างเวลาอาบน้ำในอ่างทุกวันนี้เริ่มนั่งได้แต่ยังไม่มั่นคง น้องก็จะพยายามเหยียดขาเองในน้ำ แม่บ้านนี้จะไม่ฝืนลูกค่ะ ก็ตีน้ำให้ดูเลย ลูกก็จะตีขาเองในน้ำได้ หรือบางครั้งก็ใช้ถังน้ำทรงสูงรองน้ำไว้แล้วจับลูกลอยคอในน้ำก็ช่วยเพิ่มความสนุกในการอาบน้ำไปอีก ส่วนช่วงแขนแม่ก็จะเอานิ้วชี้สองข้างของแม่ให้ลูกจับแล้วยกขึ้นมาเหมือนท่าซิทอัพ ก็ช่วยให้ลูกได้ออกแรงแขน ทั้งคอกับหลังก็จะแข็งไว แต่ท่านี้ต้องระวังช่วงข้อต่อหัวไหล่ให้ดีค่ะ ช่วงหัวลูกยังหนักอยู่อาจจะต้องประคองไว้หน่อย

ของเล่นไม่ว่าจะซื้อมาแพงแค่ไหน สวยแค่ไหน ดีแค่ไหน ก็ไม่สู้การเล่นกับพ่อแม่ค่ะ ถ้าอยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีและไว พ่อแม่ต้องเสียสละเวลาพอสมควร มันไม่ใช่แค่การเล่นสนุกไปวันๆ เท่านั้น แต่มันคือการเรียนการสอน พ่อแม่ที่ไม่เคยเป็นครูก็จะได้เรียนรู้ว่าการสอนคนๆ นึงให้เริ่มช่วยเหลือตัวเองเป็นอย่างไร ส่วนลูกก็จะได้รับทั้งความสุขความอบอุ่นและเติบโตสมวัยได้ค่ะ