“นิทานอีสป” คำนี้คุณพ่อคุณแม่คงรู้จักกันดี เพราะเป็นนิทานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลกและได้รับการยอมรับมาเป็นเวลานาน นิทานอีสปมักจะเป็นเรื่องราวที่นำเสนอแง่มุมของการจัดการกับปัญหาที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ไม้นวมมากกว่าไม้แข็ง เน้นการใช้ปัญญาในการคิดวิเคราะห์ก่อนการลงมือทำ ซึ่งตัวละครส่วนใหญ่มักจะใช้สิงห์สาราสัตว์ในการดำเนินเรื่อง โดยตอนท้ายของเรื่องมักจะมีแง่คิดสอนใจให้เด็ก ๆ เสมอ
นิทานอีสปมีให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกมากมาย โดยเฉพาะหากต้องการปลูกฝังลูกในเรื่องภาษาอังกฤษแล้วล่ะก็ นิทานอีสปก็มีนะคะ เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่านิทานอีสปที่เอามาแนะนำกันในวันนี้มีเรื่องอะไรบ้าง
10 นิทานอีสป ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ
เด็กเลี้ยงแกะ
นิทานเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะ สอนให้รู้ว่า
ไม่มีใครเชื่อคนโกหก แม้ว่าต่อมาเขาจะพูดความจริงก็ตาม
มดกับตั๊กแตน
นิทานเรื่อง มดกับตั๊กแตน สอนให้รู้ว่า
หากคุณเป็นคนขี้เกียจและใช้ชีวิตแบบง่ายๆ สักวันคุณก็จะเจอเรื่องที่ยากลำบาก
แมลงวันกับโถน้ำผึ้ง
นิทานเรื่อง แมลงวันกับโถน้ำผึ้ง สอนให้รู้ว่า
หากเป็นคนเห็นแก่กินอาจนำมาซึ่งความทุกข์ คุณไม่ควรกินหรือดื่มมากเกินไป กินดื่มแต่พอดี
กระต่ายกับเต่า
นิทานเรื่อง กระต่ายกับเต่า สอนให้รู้ว่า
คนๆหนึ่งจะมีความสามารถ แต่หากไม่มีความกระตือรือร้นก็อาจเป็นผลเสียต่อตนเองได้ ในทางกลับกัน แม้คนๆหนึ่งจะไม่มีความสามารถ แต่ความจริงจังและความอดทนอาจเอาชนะคนเก่งได้
กากับเหยือกน้ำ
นิทานเรื่อง กากับเหยือกน้ำ สอนให้รู้ว่า
“ความจำเป็นจะเป็นแม่แบบของความสร้างสรรค์” ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนคุณก็จะประสบความสำเร็จได้ถ้าคุณพยายามต่อไป
สิงโตกับหนู
นิทานเรื่อง สิงโตกับหนู สอนให้รู้ว่า
คนที่แข็งแกร่งกว่า ก็อาจจะมีโอกาสที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนที่อ่อนแอกว่า
เทพารักษ์กับคนตัดไม้
นิทานเรื่อง เทพารักษ์กับคนตัดไม้ สอนให้รู้ว่า
พระเจ้าจะดีต่อคุณ ถ้าคุณเป็นคนซื่อสัตย์ แต่พระองค์จะลงโทษคุณถ้าคุณเป็นคนโกหก หากคุณเป็นคนโลภและโกหก คุณจะสูญเสียสิ่งที่คุณมีไป
พ่อค้าเกลือกับลา
นิทานเรื่อง พ่อค้าเกลือกับลา สอนให้รู้ว่า
คนที่ชอบคดโกง อาจจะโชคร้ายได้ แม้ครั้งหนึ่งจะทำให้เขาโชคดีก็ตาม
สุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา
นิทานเรื่อง สุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา สอนให้รู้ว่า
คนที่มีตำแหน่งและฐานะต่างกันทานอาหารร่วมกันพวกเขาจะไม่สนุกเพลิดเพลิน มันคงจะดีกว่าเสมอถ้าได้ร่วมทานอาหารกับเพื่อนที่ดี
สุนัขจิ้งจอกหางด้วน
นิทานเรื่อง สุนัขจิ้งจอกหางด้วน สอนให้รู้ว่า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะไม่มีใครฟังคุณ ถ้าสิ่งที่คุณแนะนำเพื่อนของคุณไม่ใช่เพื่อพวกเขา แต่เพื่อตัวคุณเอง
10 หนังสือนิทานอีสป 2 ภาษา
สองพี่น้องกับบ้านขนมปัง (The Brother and Sister and The Bread House)
ขอบคุณภาพ : se-ed.com
เป็นเรื่องราวของสองพี่น้องที่เมื่อต้องออกนอกบ้าน อยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย และได้เผชิญกับเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นต่าง ๆ มากมาย มีทั้งเรื่องราวที่สนุกสนาน รวมถึงสถานการณ์ที่คับขับ เพราะสองพี่น้องดันไปหลงเชื่อผู้อื่นอย่างง่ายดาย ซึ่งเหตุการณ์นี้เองจึงทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างมากมาย แต่เมื่อสองพี่น้องตั้งสติได้ ก็สามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
นิทานเรื่อง สองพี่น้องกับบ้านขนมปัง สอนให้รู้ว่า
เด็ก ๆ ควรเรียนรู้และฝึกในเรื่องการมีสติ รู้ตัว รู้จักคิด และรู้จักทำ เพื่อที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย
รออีกนิดนะคนดี
ขอบคุณภาพ : se-ed.com
เรื่องราวของลูกหนูนาตัวหนึ่งชื่อ “ปัน ปัน” ที่มักจะตื่นมาพร้อมกับคำถามที่คอยถามพ่อ ถามแม่ว่า “เมื่อไหร่จะถึงวันเกิดของผมครับ” วันเล่าวันเล่า ปันปัน ได้แต่เฝ้ามองใบไม้รอให้เป็นสีทองแล้วร่วงลงมา วันนั้นแหละคือวันเกิดของมัน ตามที่แม่บอก ในขณะที่แม่และปันปันก็ช่วยกันเตรียมเค้ก เตรียมของอื่น ๆ สำหรับงานเลี้ยงที่กำลังจะมาถึง โดยที่พ่อของปันปันก็กำลังเตรียมอะไรบ้างอย่างที่ต้องใช้เวลาพอสมควร เพื่อเซอร์ไพรส์ปันปันเช่นกัน
นิทานเรื่อง รออีกนิดนะคนดี สอนให้รู้ว่า
เด็ก ๆ ควรรู้จักการรอคอยอย่างใจเย็น และมีสติค่ะ บางสิ่งบางอย่างเราไม่สามารถเร่งมันได้
ลูกเป็ดขี้เหร่ (The Ugly Duckling)
ขอบคุณภาพ : se-ed.com
แม่เป็ดนั่งกกไข่รอวันให้ลูกทุกตัวฟักออกมา แต่มีอยู่ใบสุดท้ายที่แปลกประหลาดกว่าเพื่อน สีขนของมันต่างจากพี่ ๆ มันถูกพี่ ๆ ในฝูงล้อ จนเกิดความน้อยใจและท้อแท้จนต้องออกจากฝูงไป จนวันหนึ่งลูกเป็ดขี้เหร่ที่ใคร ๆ ว่ากันนี้ก็ค้นพบตัวเองว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย เพราะมันเป็นหงส์ที่สวยสง่างาม
นิทานเรื่อง ลูกเป็ดขี้เหร่ สอนให้รู้ว่า
เด็ก ๆ ไม่ควรตัดสินคนอื่นจากภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะเรียนรู้ ยอมรับในความแตกต่าง และเห็นคุณค่าของผู้อื่น
เพื่อนผมเป็นหนุมาน (Hanuman and I)
ขอบคุณภาพ : nanmeebooks.com
เด็กชายโปเป็นเด็กชายที่รักการอ่านหนังสือ โปเฝ้าอธิษฐานขอให้ได้เจอพญาลิงเผือกหนุมานจากเรื่องรามเกียรติ์ตัวจริงในสักวัน แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งพญาลิงก็ปรากฏตัวขึ้นจริง ๆ โปดีใจมากจึงพาไปอวดเพื่อน ๆ แต่ไม่มีใครเชื่อเขาเลยสักคน แถมยังแกล้งลิงตัวนั้นอีกด้วย แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร เพราะลิงตัวนี้คือพญาลิงเผือกหนุมานจริง ๆ
นิทานเรื่อง เพื่อนผมเป็นหนุมาน สอนให้รู้ว่า
เด็ก ๆ ควรกล้าที่จะฝัน เชื่อมั่นในฝันของตัวเอง ที่สำคัญ ควรมีความกล้าหาญในเรื่องที่ถูกต้องอีกด้วยค่ะ
โกลดิล็อกส์กับหมีสามตัว (Goldilocks and the Three Bears)
ขอบคุณภาพ : se-ed.com
หนูน้อยโกลดิล็อกส์ได้เดินเข้าไปในป่า แล้วเธอก็ไปพบบ้านหลังหนึ่ง แม้เคาะประตูแล้วแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น แล้วก็ไปหยิบข้าวของเครื่องใช้ของคนอื่น พร้อมกับทำข้าวของของคนอื่นเสียหายอีก สุดท้ายเธอก็ผล็อยหลับไปที่เตียง แล้วก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับประจันเจ้าหมีสามตัว เธอตกใจมากแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านหลังนั้นไป
นิทานเรื่อง โกลดิล็อกส์กับหมีสามตัว สอนให้รู้ว่า
เด็ก ๆ ควรรู้จักกับกฎ กติกา มารยาทของสังคม และที่สำคัญ อะไรที่ไม่ใช้ของเรา เราต้องขออนุญาตเจ้าของเสียก่อน รอให้เจ้าของอนุญาตก่อนนะคะ
แพะสองตัว
ณ ทุ่งแห่งหนึ่งมีลำธารตัดผ่าน แพะสองตัวซึ่งแต่ละตัวต่างก็เป็นหัวหน้าฝูงของแต่ละฟากฝั่ง มีสะพานเล็กๆ เชื่อมโยงที่สามารถเดินผ่านไปได้ทีละคนเท่านั้น วันหนึ่งแพะสองตัวเดินทางมาเจอกันที่สะพาน ด้วยความที่แพะทั้งสองตัวต่างก็เป็นหัวหน้าฝูง จึงทะนงตนไม่มีใครยอมถอยให้ใคร ต่อมาทั้งสองตัวต่างเดินมาถึงกลางสะพาน จึงเกิดการปะทะกำลังกัน สุดท้ายทั้งคู่จึงตกสะพาน ถูกน้ำพัดพาไปทั้งคู่
นิทานเรื่อง แพะสองตัว สอนให้รู้ว่า
การรู้จักโอนอ่อนผ่อนปรนเสียบ้าง ย่อมดีกว่าการทะนงตน เพราะสุดท้ายแล้วความทะนงตนนี้ไม่เคยส่งผลดีให้ใครเลย
อัศวินน้อยกล่อมแม่
ป๊อปโปเป็นเด็กน้อยที่คุณแม่จะเอากล่อมนอน แต่ป๊อปโปไม่ยอมนอน คุณแม่เหนื่อยมาทั้งวันจึงผลอยหลับไป แต่จู่ๆ ป๊อปโปก็มองเห็นแสงสีทองจึงเดินตามแสงสีทองนั้นไป เดินไปสู่เมืองของเล่น เป็นอัศวินน้อยเล่นสนุกอยู่ในเมืองนั้น ในขณะที่หมีน้อยในห้องป๊อปโปก็โดนแสงสีทองนั้น จึงเดินไปตามป๊อปโปกลับมา หลังจากกลับมาป๊อปโปเข้าใจว่าคุณแม่เหนื่อยมาทั้งวัน จึงอาสากล่อมให้แม่นอนเอง
นิทานเรื่อง อัศวินน้อยกล่อมแม่ สอนให้รู้ว่า
หากเด็กไม่ยอมนอน คุณพ่อคุณแม่ก็จะไม่ได้พักผ่อน เป็นนิทานที่ส่งเสริมความรัก ความเข้าใจกันในครอบครัว
นักดนตรีสี่สหาย
เป็นเรื่องราวของสัตว์ชราอย่างลา หมา แมว และไก่ที่ทำงานไม่ไหวแล้ว ทั้งหมดได้มาเจอกันและชักชวนกันไปเล่นดนตรีที่เมืองเบรเมน ประเทศเยอรมนี เมื่อเล่นดนตรีกันจนมืดค่ำ ก็รู้สึกหิว และได้ออกเดินทางไปเรื่อย เพื่อหาอาหารและที่พัก สุดท้ายพวกเขาเหล่านี้ได้เดินทางไปพบกับบ้านโจรหลังหนึ่งที่ด้านในมีอาหารอยู่มากมาย ทั้งหมดจึงได้ออกอุบาย และลงมือทำให้โจรเกิดความตกใจ และหนีออกไปจากบ้าน ทั้งหมด 4 ตัวจึงได้กินอาหารและอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กันอย่างมีความสุข
นิทานเรื่อง นักดนตรีสี่สหาย สอนให้รู้ว่า
หากเราต้องการจำทำอะไรอย่างจริงจัง ตั้งใจแล้ว เราก็จะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้
จับฉันให้ได้สิ
หนังสือนิทานที่นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์แนะนำ เป็นเรื่องราวที่ไม่ไดมีอะไรซับซ้อน เพียงแต่เป็นการวิ่งไล่จับกันระหว่าง หมีกริซลีย์ และเพนกวินแสนซน ซึ่งทั้งสองเป็นคู่ปรับกันตลอดกาล ทั้งคู่มักจะชอบชิงไหวชิงพริบกัน เด็กๆ ต้องไปติดตามดูแล้วล่ะค่ะ ว่าสุดท้ายแล้วใครจะชนะ
นิทานเรื่อง จับฉันให้ได้สิ สอนให้รู้ว่า
จากคำแนะนำของนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ได้ระบุเอาไว้ว่า บางครั้งเด็กก็ไม่ต้องการอะไรมาก เพียงแต่ต้องการหา “ตัวตน” ให้คุณพ่อคุณแม่ได้วิ่งไล่วิ่งตามก็เท่านั้น เด็กๆ ก็จะมีความสุขแล้ว
ค้างคาวเลือกข้าง
ค้างคาวเป็นสัตว์ที่มีหูและมีปีกที่ค่อนข้างต่างจากสัตว์อื่น แต่มันก็ถือว่าตัวเองเป็นนกชนิดหนึ่งเหมือนกัน วันหนึ่งบรรดาฝูงนกในป่ากำลังจะมีเรื่องทะเลาะกับสัตว์กลุ่มอื่น ฝูงนกก็ได้ชักชวนค้างคาวไปช่วยกัน แต่ค้างคาวขอตัวไม่ไปด้วยขอทำตัวเป็นกลาง ครั้นเห็นว่าฝูงนกกำลังจะชนะมันก็ขอเข้าร่วมกลุ่มด้วย แต่พอเห็นว่านกกำลังจะแพ้มันก็ไม่เข้าร่วมอีก สุดท้ายค้างคาวไม่มีใครคบด้วยมันจึงต้องอาศัยอยู่ในถ้ำ จะออกมาก็เฉพาะหาอาหารเวลากลางคืนเท่านั้น
นิทานเรื่อง ค้างคาวเลือกข้าง สอนให้รู้ว่า
ผู้ที่ขาดความจริงใจ ก็ไม่มีใครอยากคบด้วย
ปิดเทอมยาวอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองช่วงหนึ่งนะคะ คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้สอนเด็ก และจะได้ใช้เวลาให้คุ้มค่าด้วยการหาหนังสือนิทานอีสปที่ทั้งสนุกและให้แง่คิดดี ๆ มาอ่านให้เด็ก ๆ ฟัง เป็นการปลูกฝังแง่คิดให้กับเด็ก ๆ ค่ะ