เรื่องของคนเป็นแม่ มันเป็นอะไรที่หลากหลายรสชาติมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเหนื่อย, ความเหงา, ความเพลีย, ความรัก และความสุข ลำพังพูดแค่เรื่องความเหนื่อยอย่างเดียววันเดียวก็ไม่จบแล้วค่ะ เพราะคนเป็นแม่จะเหนื่อยตั้งแต่ลืมตาตื่นทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต้องเตรียมนมให้ลูก ต้องวางแผนให้ดีว่าแม่จะอาบน้ำก่อนลูกตื่นดีไหม เพราะถ้าลูกตื่น คุณแม่ไม่สามารถกระดิกตัวไปทำอะไรได้เลย ยกเว้นว่าจะมีคนช่วยเลี้ยง และเหนื่อยต่อมาคือ เหนื่อยจากการทำงานบ้านที่ไม่รู้จบ เพิ่งเก็บกวาดบ้านไป ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ลูกผู้น่ารักทำรกอีกแล้วเป็นต้น แต่เอาเป็นว่าคนเป็นแม่ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องเจอในอีกหลายแง่มุมค่ะ วันนี้เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่า จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง
สารบัญ
เรื่องราวที่คนเป็นแม่ต้องเจอ
คนเป็นแม่มีหลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกให้เจอมากมายเลยค่ะ ไปดูกันค่ะว่าคนเป็นแม่ต้องเจอกับอะไรบ้าง
ลืมตัวอักษรบนแป้นพิมพ์
สำหรับคุณแม่บางคนที่ทำงานประจำอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาคลอดก็ต้องลาคลอด เพื่อไปคลอดลูกและดูแลลูกประมาณ 3 เดือน นิด ๆ เรียกได้ว่าหลังจากที่คุณแม่คลอดน้องแล้ว จะต้องใช้ชีวิตทั้งวันทั้งคืนในการรักษาแผลคลอดของตัวเองด้วย และดูแลลูกน้อยไปด้วย ไม่ต้องอยู่กับหน้าจอ หรือแป้นพิมพ์ สิ่งนี้เองเมื่อถึงวันที่ต้องกลับไปทำงานก็จะพิมพ์อะไรได้ช้ากว่าเดิม เพราะมัวแต่คับคล้ายคับคลา แต่จำไม่ได้ว่าตัวอักษรที่เราหานั้นอยู่ที่ไหน นั่งเกาหัวอยู่พักหนึ่ง
เพิ่งรู้ว่านมยืดได้มากขนาดนี้
“นมที่ยืดได้เยอะ” อย่าเพิ่งเข้าใจไปว่าต้องมีขนาดหน้าอกที่ใหญ่นะคะ คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกเข้าเต้า ดูด และดึงเป็นเมื่อไหร่ คุณแม่จะตกใจกับหน้าอกของตัวเองมาก เพราะไม่คิดว่าจะยืดได้มากขนาดนี้ เอาเป็นว่าคุณแม่ที่หน้าอกเล็กก็ยืดได้เยอะค่ะ^^
ความช่างสงสัยของลูก
ตั้งแต่มีลูก และเลี้ยงลูกมา เวลาที่โน้ตซื้อของเล่นให้เขา พอเล่นได้สักพักก็จะหาทางดึงส่วนนั้นออกส่วนนี้ออก แยกร่างกันเรียบร้อย และต่อมาส่วนที่จะถูกดึงแยกออกจากกันก็คือ เวลาที่ใส่ชุดบอดี้สูทให้ลูก เขาก็จะไล่แกะกระดุมชุดออก เริ่มจากตรงเป้าก่อน เพราะหยิบง่าย (มีเหมือนกันบางครั้งจิตใจจดจ่อมาก ลืมกลืนน้ำลาย น้ำลายหยดลงมาตรงเป้าพอดี) จากนั้นก็ไล่ขึ้นไปตามแขนตามขา
ความอยากสาว
ความอยากสาวที่เริ่มเห็นได้ก็คือ ลูกจะชอบใส่รองเท้าส้นสูง รองเท้าไปทำงานของแม่ แต่ก็สูงไม่มากหรอกค่ะ คือเอาจริง ๆ ตอนโน้ตยังเป็นเด็กก็เคยนะคะ ก็เลยเข้าใจความรู้สึกของเขา ปล่อยให้เขาใส่ไปโดยมีเราดูอยู่ห่าง ๆ สุดท้ายเขาก็เดินไปส่องกระจก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หมุนซ้าย หมุนขวา จ้า…แม่เข้าใจ
สุดสยอง 2 ซี่
โดยปกติแล้ว คุณแม่อาจเคยได้ยินว่า “สุดสยอง 2 ขวบ” แต่เรื่องนี้เป็น “สุดสยอง 2 ซี่” เพราะสมัยที่ลูกน้อยยังไม่มีฟัน เราก็มักจะเรียกว่า “เด็กเหงือก” เวลาที่เอาลูกเข้าเต้า เราจะรู้สึกสบายใจมาก เพราะต่อให้ลูกกัดอย่างไรเราก็ไม่เจ็บ แต่ทันทีที่เห็นลูกฟันขึ้น ความน่ากลัวเริ่มมาเยือน และเมื่อฟันขึ้น 2 ซี่ สิ่งที่เคยกลัวก็เป็นจริง เพราะเวลาที่ลูกกัดทีนั้น แสนสาหัสจริง ๆ ค่ะ แต่เราก็บอกลูกได้ค่ะว่า อย่ากัดนะ แม่เจ็บ ซึ่งก็เหมือนลูกจะเข้าใจ เค้าก็จะไม่กัด แต่พอเริ่มมื้อใหม่…เอาอีกแล้ว
จากที่ได้กล่าวไปค่ะว่าการเป็นแม่คนคือ เราต้องเจอหลากหลายรสชาติมาก งานของคนเป็นแม่ จะไม่มีวันหมด แม้ว่าวันที่เราป่วย เราก็ต้องอดทน เพราะมีลูกน้อยที่เราต้องดูแล แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว การได้เห็นรอยยิ้มของลูก เห็นลูกมีความสุข มันทำให้ความเหนื่อยล้าที่ว่ามานั้นหายเป็นปลิดทิ้งไปเลย