เมื่อพูดถึงการมีสุขภาพที่ดี หลายคนอาจคิดว่าปากต้องมีสีชมพู แก้มต้องมีเลือดฝาดระเรื่อ ๆ แต่การมีเลือดฝาด บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป วันนี้เรามาคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันค่ะว่าเลือดฝาดแบบไหนดี แบบไหนต้องรีบดูแล
สารบัญ
เลือดฝาด คืออะไร?
คือรอยสีชมพูอ่อน ๆ หรือบางคนค่อนไปทางแดง มักเกิดขึ้นบริเวณแก้ม หรือที่ใดที่หนึ่งบนใบหน้า โดยมากมักเกิดจากเส้นเลือดบริเวณใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว ซึ่งมีสาเหตุของการเกิดได้หลายอย่าง เช่น อาหารที่รับประทาน โรคผิวหนัง และสภาพอากาศ เป็นต้น หลายคนชอบที่ได้เลือดฝาดขึ้นบนใบหน้า แต่ในบางกรณีเลือดฝาดที่เกิดขึ้น อาจเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างแก่ร่างกายก็ได้นะคะ ซึ่งเราควรหมั่นสังเกตสาเหตุที่เกิดเลือดฝาดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่หากเกิดจากโรค จะได้เข้ารับการดูแลรักษาจากแพทย์ได้แต่เนิ่น ๆ ค่ะ
เลือดฝาด เกิดขึ้นได้อย่างไร?
สำหรับสาเหตุของการเกิดเลือดฝาดนั้น มีหลายสาเหตุค่ะ
เป็นสิวบนใบหน้า
เนื่องจากเมื่อเราเป็นสิว ผิวหนังในบริเวณนั้น ๆ จะเกิดการอุดตันและอักเสบ ส่งผลให้บริเวณหัวสิวหรือบริเวณโดยรอบสิวเกิดรอยแดง ดังนั้น หากต้องการให้ใบหน้ากลับมาใสและเรียบเนียนเหมือนเดิม ไม่ควรเอามือไปจับใบหน้า เพราะฉะนั้นการบีบสิวคงไม่ต้องพูดถึง ห้ามเด็ดขาดเช่นกัน พร้อมกับหมั่นล้างหน้าบ่อย ๆ และซับหน้าให้แห้ง
ร่างกายไวต่ออาหารที่ทานเข้าไป
อาหารที่ส่งผลให้หน้าแดงได้แก่ อาหารที่มีรสเผ็ด เนื่องจากสารที่อยู่ในพริกนั่นเอง สารอาหารดังกล่าวจะเข้าไปกระตุ้นหลอดเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังขยายตัว เมื่อทานเข้าไปจะรู้สึกร้อนและมีเหงื่อออก
การทานยาบางชนิด
อาการใบหน้าแดงเกิดจากการที่ร่างกายมีการหลั่งสารฮีสตามีนออกมาและมาทำปฏิกิริยากับยาที่ทานเข้าไป ซึ่งยาดังกล่าว ได้แก่ มอร์ฟีน ฝิ่น ไนอาซิน บิวทิลไนไตรท์ ไนโตรกลีเซอรีนเอมิลไนไตรท์ ซิลเดนาฟิล ไวอากร้า ไรแฟมปิน และไตรแอมซิโนโลน เป็นต้น
ร้อนวูบวาบจากวัยทอง
วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน ส่วนใหญ่มักจะมีอาการร้อนวูบวาบ ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการเปลี่ยนแปลงโดยที่ไปกระทบกับความร้อนในร่างกายของเรา จึงทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบ จะเกิดขึ้นประมาณ 30 วินาที – 10 นาที จากนั้นใบหน้าจะเริ่มแดงหรืออาจเป็นสีชมพูอ่อน ๆ แนะนำหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง อากาศร้อน งดดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาหารรสเผ็ด รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสม แต่ถ้าหากลองทำทุกวิธีแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ
โรคผิวหนังอักเสบ
ผิวหนังอักเสบหรือ Rosacea ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าแดงหรือมีเลือดฝาดได้ ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีตุ่มสีแดงเล็ก ๆ คล้ายสิวบนใบหน้า แต่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ความสำคัญ เพราะคิดว่าคงเป็นแค่สิวธรรมดา เดี๋ยวก็หายเอง แต่ความจริงแล้ว หากปล่อยไว้อาจเกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้นได้ หากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ดีกว่าค่ะ ไม่ควรปล่อยให้อาการลุกลาม
โรคภูมิแพ้ตัวเอง
หลายคนอาจรู้จักกันในชื่อของ “โรคพุ่มพวง” ที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อย แต่ก็มีความร้ายแรงพอควรทีเดียว เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกายถูกทำลาย รวมถึงผิวหนังด้วย ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้มักมีผิวหนังที่ออกสีน้ำตาลแดงโดยเฉพาะที่แก้มและบริเวณสันจมูก ซึ่งมองเผิน ๆ อาจคล้ายรอยไหม้จากแสงแดด
โรคกลาก
ผู้ที่เป็นโรคกลากจะมีผิวหนังที่มีสีแดงหรือดูเป็นเลือดฝาดในบริเวณที่เป็น และอาจมีอาการคัน แม้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ ดังนั้น ควรรักษาความสะอาดทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัวอย่างสม่ำเสมอนะคะ
ผิวหนังไหม้จากแสงแดด
เราอาจเคยเวลาที่กลับจากทะเล วันรุ่งขึ้นผิวหน้าและผิวตัวอาจไหม้จนแดง หากพบว่ามีอาการนี้แนะนำให้อาบน้ำเย็น เพื่อบรรเทาอาการเป็นการช่วยให้ผิวหนังเย็นลง ดื่มน้ำเยอะ ๆ หน่อยค่ะ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และใช้ครีมที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ทาผิว (ต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำมันนะคะ)
จากแอลกอฮอล์
เราอาจจะเคยเห็นเวลาที่ใครดื่มแอลกอฮอล์แล้วหน้าแดง นั่นเป็นเพราะว่าสาร “ซีตัลดีไฮด์” ที่ร่างกายหลั่งออกมาหลังจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้าไปนั่นเอง
ผลไม้บำรุงเลือด ช่วยบำรุงเลือดฝาดบนใบหน้า
สำหรับใครที่อยากมีเลือดฝาดแบบสุขภาพดี สามารถทานผลไม้ช่วยได้นะคะ
ทับทิม
จากงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาได้ทำการทดลองให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 10 คน ดื่มน้ำทับทิมคั้นสด 1 แก้วต่อวัน ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 เดือน พบว่า ระดับอินซูลินในกระแสเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย มึนงง ลดอาการผมร่วง และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสได้อีกด้วย
สตรอว์เบอร์รี
เจ้าเมล็ดเล็ก ๆ ที่อยู่บนผิวของสตรอว์เบอร์รีนี้จะทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจน เพื่อช่วยในกระบวนการขจัดของเสียออกมา โดยมีผลงานการวิจัยหนึ่งได้ระบุว่า ให้กลุ่มอาสาสมัครทานสตรอว์เบอร์รีทุกวัน วันละ 2 ถ้วย ต่อเนื่องกัน 1 เดือน ผลที่ได้คือ พบเซลล์เม็ดเลือดแดงมีปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณสดใสได้
กล้วย
กล้วยมีแมกนีเซียมที่ช่วยซ่อมแซมผิวที่ฉีกขาดให้กลับมาสมบูรณ์และมีเลือดฝาดได้ โดยให้ทานเป็นประจำ
แก้วมังกร
แก้วมังกรที่มีเนื้อแดงสด ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิตและมีธาตุเหล็กเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลให้ผิวหนังดูสมบูรณ์มีเลือดฝาดนั่นเอง
เลือดฝาดบนใบหน้าที่เกิดขึ้นล้วนมีสาเหตุค่ะ ซึ่งสาเหตุมีทั้งเหตุที่ดีและเหตุที่ต้องดูแลรักษา ทั้งนี้ให้เราหมั่นดูแลและใส่ใจกับร่างกายตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะการมีเลือดฝาดที่ดีบนใบหน้ามักมาจากการดูแลสุขภาพที่ดีจากภายในค่ะ
อ้างอิง medicalnewstoday.com, women.trueid.net