Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

เลือกเสื้อผ้าให้คุณแม่ตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม

คุณแม่ทุกคนมักจะประสบปัญหาเกี่ยวกับเสื้อผ้า เมื่อท้องเริ่มขยายขึ้นแถมอึดอัดจนต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่คุณแม่มักจะคิดว่าเสื้อผ้าที่มีอยู่ก็น่าจะยังใส่ได้ ซึ่งบางตัวในตู้เสื้อผ้าก็ไม่อาจสวมใส่ได้ แล้วอย่างนี้คุณแม่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบไหน ที่จะเหมาะสมกับการตั้งครรภ์ และยังไม่ดูเชยเกินไป

สิ่งที่ต้องเปลี่ยนและเพิ่มในตู้เสื้อผ้า

เสื้อ

  • เสื้อในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่สามารถสวมใส่แบบเดิมที่มีอยู่ได้ แต่เสื้อนั้นจะต้องไม่มีความนาน และรัดตัวจนอึดอันไป
  • เสื้อในช่วง 4 – 6 เดือน คุณแม่จะต้องเปลี่ยนไซด์แล้ว เพราะท้องจะขยายใหญ่ขึ้น และจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนที่ 7 – 9 ฉะนั้นคุณแม่จึงไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อใหม่มากนัก

กางเกง หรือ กระโปรง

มีเสื้อก็ต้องมีกางเกง หรือกระโปรง คุณแม่ต้องประเมินตัวเองว่ากางเกง หรือกระโปรงนั้น สวมใส่ไปแล้วอึดอัดท้องหรือไม่ และทางที่ดีกางเกง หรือกระโปรงควรจะเป็นแบบยางยืด เพื่อให้มีความยืดหยุ่นขณะนั่ง หรือเดิน ถ้าเป็นขอบเอวแบบตาย หรือลักษณะติดซิป ติดกระดุมจะทำให้อึดอัด หรือแน่นท้องจากการโดนกดทับได้

ชุดลำลอง

  • ชุดคลุมท้อง ชุดเดรสสั้น หรือยาว และสวมใส่ได้หลายโอกาส ซึ่งชุดเดรสจะเป็นชุดที่สวมใส่สบาย ดูสวย และยังไม่ทำให้อึดอัดท้องด้วย เนื้อผ้าควรทำจากผ้าฝ้ายธรรมชาติ เพราะเส้นใยธรรมชาติเมื่อสวมใส่แล้วจะทำให้คุณแม่สบายตัว ไม่อับลม คนท้องมักจะขี้ร้อนกว่าปกติหลายเท่า ที่สำคัญชุดจะต้องไม่มีตะเข็บ หรือขอบรอยต่อบริเวณท้อง เพราะอาจจะไปกดทับท้องได้
  • ชุดคลุมท้องไม่จำเป็นต้องซื้อเยอะ เพราะระยะ 4 – 6 และ 7 – 9 เดือน ขนาดท้องจะไม่คงขนาดเดิมเสมอ ท้องจะมีความเปลี่ยนแปลงเร็วทำให้ช่วงแต่ละเดือน คุณแม่ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่เยอะๆ

ชุดทำงาน

คุณแม่บางท่านยังคงทำงาน และชุดทำงานจะต้องมีความเรียบ สุภาพ ต่างจากชุดลำลองที่มีสีสันและลูกเล่นบนชุด ซึ่งชุดทำงานอาจจะหาเสื้อทรงสุภาพ มีเสื้อคลุมทับอีกชั้น กระโปรงเป็นขอบอยางยืด หรือเดรสยาวคลุมเข่า มีความคล่องตัว สวมใส่สบายตัว ถ้าที่ทำงานแอร์เย็นก็อาจหาเนื้อผ้าที่หนาขึ้นมาหน่อยได้

ชุดชั้นใน

  • เสื้อชั้นในที่ดี คือ ต้องมีความกระชับ ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อไม่ให้อับเกินไปเมื่อร้อน และเนื่องจากขนาดหน้าอกของคุณแม่ตั้งครรภ์ จะเปลี่ยนแปลงตลอดการตั้งครรภ์ จึงเป็นสิ่งที่ต้องยอมซื้อใหม่ เพราะหน้าอกจะมีอาการเจ็บ เพื่อไม่ให้หน้าอกโดนกดทับ ชั้นในจึงควรจะสวมใส่ทรงปลายแหลม เพื่อหลีกเลี่ยงหัวนมโดนกดทับ
  • เสื้อชั้นในหลังคลอด คุณแม่ควรมีไว้เพื่อความสะดวกในการให้นมลูก จะมีลักษณะแบบมีฝาเปิด – ปิดด้านหน้า โดยปลดจากรอยต่อตะเข็บสายชุดชั้นใน ทั้งนี้ยังมีแผ่นซับน้ำนม เพื่อป้องกันไหลเปื้อนเสื้อผ้า และป้องกันหัวนมแตก เสื้อผ้าที่ใส่ก็ควรเป็นแบบมีกระดุมผ่าด้านหน้า
  • กางเกงใน บอกลากางเกงในเอวต่ำ เอวสูง ประดับลูกไม้ชั่วคราว คุณแม่ควรสวมกางเกงในผ้าฝ้ายเนื้อบางเบาที่คลายเหงื่อได้ดี ส่วนที่เป็นกางเกงผ้าใยสังเคราะห์จะไม่สามารถระบายความชื้นจากเหงื่อได้ อาจจะทำให้อวัยวะเพศเปียกชื้นตลอดเวลา เกิดการอักเสบจากเชื้อราได้
  • กางเกงในพยุงครรภ์ สำหรับครรภ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ในช่วง 7 – 9 เดือน การสวมใส่นี้จะช่วยรับน้ำหนักท้องที่ใหญ่ไม่ให้ถูกถ่วงมากจนเกินไป ทั้งยังช่วยให้ขยับตัวได้คล่อง และไม่ปวดหลังจากแรงโน้มถ่วง

นึกถึงชุดคลุมท้องคุณแม่มักคิดถึงชุดแบบเดิมๆ แต่ยุคสมัยนี้แฟชั่นเข้ามาเยอะ และเร็วมาก เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ และทรงหลวมก็มีมาก ยกตัวอย่าง มิแรนดา เคอร์ 1 ในนางแบบวิคตอเรีย ซีเคร็ท ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ แม้จะท้องแต่ก็ยังสวยดั่งเดิม และบวกกับเสื้อผ้าแฟชั่นก็ดึงความสวยหวานออกมา หรือจะลำลองก็ยังดูคล่องตัวและเท่ด้วยเช่นกัน
หากจะเลือกเสื้อผ้าที่ใส่ยังไงก็ดูท้องไม่ใหญ่มาก มีเพียง 3 แบบ คุณแม่ก็จะมีเสื้อผ้าแฟชั่นที่สวมใส่สบาย และยังสวยทันสมัย

ทรงเสื้อ

เสื้อทรง A Line ทรงที่เป็นได้ทั้ง เสื้อ และกระโปรง เมื่อสวมใส่จะไม่ทำให้รัดรูปจนเกินไป สบาย และยังมีสีให้เลือกตามความชอบ

ลายของผ้า

ลายผ้าที่ช่วงอัมพรางรูปร่างมีหลายลาย ทั้งลายเส้นนอน ลายพิมพ์ ลายดอก ลายเลขาคณิต ลายผ้าจะช่วยในการดึงสายตาให้ผู้อื่นมองท้องน้อยลง

เสื้อแต่งระบาย

เสื้อแต่งระบาย หรือเดรสแต่งระบายก็สวย และยังทำให้ดูอ่อนหวาน บางที่จะมักจะคิดว่าระบายจะทำให้ดูเน้นให้ชัดและดูท้องใหญ่ แต่แบบเสื้อผ้าแฟชั่นถึงจะดูทำให้ท้องใหญ่ แต่ทรงสวยผู้ที่ไม่ตั้งครรภ์ยังอยากจะใส่เลยก็ได้ค่ะ

ทั้งนี้เสื้อผ้าเป็นสิ่งช่วยปกปิดและเสริมบุคลิกภาพ ถึงกำลังตั้งครรภ์ก็ยังสามารถสวมใส่เสื้อผ้าตามแฟชั่นได้ ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดคลุมท้องแบบเดิมๆ เสมอไป ลองไปเดินห้างที่มีเสื้อผ้าแฟชั่นเยอะ คุณแม่จะเจอที่ถูกใจและราคาไม่เกินกำลังแน่นอนค่ะ