“ปรอทวัดไข้เด็ก” เป็นอีกหนึ่งมัสแฮฟไอเทมที่ทุกบ้านที่มีลูกควรมีแต่เท่าที่เห็นปรอทวัดไข้มีหลายแบบเหลือเกิน สรุปแล้วมีกี่แบบ แต่แบบไหนแม่นยำที่สุด วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันค่ะ
การวัดไข้ลูกด้วยมือ มีโอกาสสูงมากที่จะคลาดเคลื่อน เพราะบางครั้งลูกมีไข้แต่ไม่ได้สูงมาก คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นอาการไข้หรือเปล่า หรือจะมั่นใจได้ว่ามีไข้จริงๆ ตัวก็ร้อนจัดแล้ว ซึ่งหากลูกมีไข้สูงมาก อาจเสี่ยงต่ออาการชักได้
สารบัญ
วิธีการวัดไข้ที่ถูกต้อง
ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าปรอทวัดไข้มีกี่แบบ คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนนะคะว่าการวัดไข้สามารถวัดได้กี่วิธี ทั้งหมดทำได้ 5 ด้วยกัน ดังนี้ค่ะ
- ทางปาก (Orally)โดยนำเทอร์โมมิเตอร์ไปไว้ที่ใต้ลิ้นลูก เป็นการวัดอุณหภูมิจากใต้ลิ้นค่ะ
- ทางรักแร้ (Axillary)ให้ลูกหนีบเทอร์โมมิเตอร์ที่รักแร้ แต่ค่าอุณหภูมิปกติจะต่ำกว่าการวัดทางปาก
- ทางทวารหนัก (Rectally)สอดเทอร์โมมิเตอร์เข้าทางช่องทวารหนักของลูก ค่าที่ได้จะสูงกว่าการวัดทางปาก
- ทางหู (By Ear)เป็นการวัดอุณหภูมิทางหูโดยใชเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัล
- ทางผิวหนัง (By Skin)เป็นการวัดไข้ทางหน้าผากของลูก ด้วยเทอร์โมมิเตอร์แบบแผ่น และมีตัวเลขแสดงอุณหภูมิ
เตรียมตัวก่อนการวัดไข้
หืม….ก่อนวัดไข้ต้องมีการเตรียมตัวด้วยหรอ? เตรียมตัวลูกนะคะ ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่น้า555
ก่อนวัดไข้ลูกควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างหรืออาจรอให้เวลาผ่านไปซักพักแล้วค่อยวัด เพราะมีผลอาจทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นได้ ซึ่งทำให้ได้ค่าที่เพี้ยนไป อาทิ ไม่ควรวัดไข้ทันทีหลังทานอาหารหรือเครื่องดื่ม แต่ควรทิ้งระยะห่างก่อนวัดไข้ซักประมาณ 30 นาที หรือถ้าเพิ่งอาบน้ำอุ่นมาก่อน ควรนั่งพักรอให้เวลาผ่านไปซักประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเป็นต้นค่ะ
การอ่านผล
ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีจะมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 36.5-37.2 องศาเซลเซียส แต่เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส แต่ในเด็กที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน อาจมีอุณหภูมิปกติต่างกันเล็กน้อยประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิปกติของร่างกาย แบ่งตามวิธีในการวัด ดังนี้
- วัดทางปาก อุณหภูมิปกติคือ 35.5-37.5 องศาเซลเซียส
- วัดทางทวารหนัก อุณหภูมิปกติ คือ 36.6-38 องศาเซลเซียส
- วัดทางรักแร้ อุณหภูมิปกติ คือ 34.7-37.3 องศาเซลเซียส
- วัดทางหู อุณหภูมิปกติ คือ 35.8-38.0 องศาเซลเซียส
ปรอทวัดไข้ มีกี่แบบ มีกี่ประเภท
1.ปรอทแก้ว หรือ ปรอทวัดไข้แบบธรรมดา
การใช้ปรอทแบบนี้วัดไข้ สามารถวัดได้ 2 ทางคือ ทางรักแร้ และทางปาก
วิธีวัด
ทางรักแร้ ควรดูให้แน่ใจว่าเทอร์โมมิเตอร์ไม่ยื่นไปด้านหลังมากเกินไปและควรรออย่างน้อย 4 นาที จนกว่าปรอทจะหยุดนิ่ง ซึ่งค่าอุณหภูมิปกติทางรักแร้จะต่ำกว่าการวัดจากทางปากประมาณ 0.6 องศาเซลเซียส
ทางปาก ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีเศษอาหาร ลูกอม หรือขนมในปาก
ก่อนวัด ควรดูให้แน่ใจว่าปรอทอยู่ต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส หากยังสูงกว่า ให้สะบัดให้สารปรอทลดลงมาก่อนทุกครั้ง
2.ปรอทวัดทางทวารหนัก
เหมาะสำหรับลูกวัยแรกเกิด-4 ขวบแต่ควรทำอย่างระมัดระวังหรืออยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
วิธีวัด
ทาวาสลีนที่กระเปาะเพื่อการหล่อลื่น ให้ลูกนอนตะแคงหรือคว่ำ ค่อยๆ สอดปรอทเข้าทวารหนัก ลึกประมาณ 1.25-2.5 เซนติเมตร ระวังอย่าให้ลึกเกินไป รอประมาณ 2 นาทีค่อยดึงออก
3.เครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิทัล
สามารถวัดได้ทั้งทางปากและทางรักแร้
4.แถบเทปวัดไข้
เหมาะกับเด็กทุกวัย เพราะง่าย ปลอดภัย และรวดเร็ว
วิธีวัด
ทำความสะอาดหน้าผากลูก เอาแถบแปะที่หน้าผาก กดเบาๆ รอประมาณ 15 วินาที
5.เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด สำหรับวัดทางหู/หน้าผาก
เหมาะสำหรับลูกวัย 3 ขวบขึ้นไป
วิธีวัด
ทำการดึงใบหูเบาๆ เพื่อให้เครื่องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม วัดซ้ำ 2-3 ครั้งเพื่อหาค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิ
เป็นอย่างไรบ้างคะ ลูกของคุณพ่อคุณแม่เหมาะกับแบบไหน^^