Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

ซิงเกิลมัม…ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

การมีลูกเปรียบเสมือนการมาเติมเต็มชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่งแม้ว่าคุณแม่อาจจะต้องเผชิญกับความไม่พอดีในการดำเนินชีวิตคู่แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินชีวิตต่อไปนั้นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การมีกำลังใจและแรงฮึบสู้กับความทุกข์ภายในใจนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดและเชื่อได้เลยว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้วนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดเพียงแค่แรงใจของคุณแม่พร้อมที่จะมองและก้าวไปข้างหน้าการเป็นซิงเกิลมัมก็น่าจะเป็นอีกเรื่องที่น่าสนุกและท้าทายในชีวิต

style=”display: block; text-align: center;”

เคล็ดลับง่ายๆ กับการเริ่มต้นเป็นซิงเกิลมัม

1.เวลาที่ก้าวไปข้างหน้านั่นคือเวลาที่เป็นนิรันดร์

ไม่ว่าคุณจะผ่านอะไรมานั่นคือสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนและมันจะมีความหมายและประโยชน์กับคุณเสมออย่างแน่นอน การหันไปมองข้างหลังเป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อคอยย้ำเตือนว่าคุณมาไกลถึงไหนแล้วและแน่นอนว่าคุณจะต้องไม่กลับไปจมอยู่กับมันอีก ข้างหน้ายังมีอนาคตของทั้งคุณและลูกที่ถ้าพยายามมากพอความสดใสและความสุขจะอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน อย่ากังวลว่าลูกจะขาดความอบอุ่นเพราะคุณเก่งพอที่จะทำให้เขาอุ่นใจได้ในทุกเวลาได้ย่างแน่นอน

2.ถ้ามีจุดอ่อนตรงไหนก็แค่ต้องยอมรับให้เป็น

การเข้มแข็งนั้นเป็นคุณสมบัติที่ใครๆ ก็อยากมีกันแน่นอนแต่สำหรับคนๆ หนึ่งที่กำลังจะก้าวไปสู่ความเป็นซิงเกิลมัมนั้นการมองโลกให้กว้างขึ้นและรู้จักกับการยอมรับตัวตนของตนเองอย่างแท้จริงแล้วนั้นน่าจะมีส่วนช่วยในการเริ่มต้นทัศนคติของลูกได้เหมือนกัน

อาจจะมีหลายครั้งที่คุณพยายามทำให้ได้ตั้งแต่งานบ้าน หาเงิน ไปจนถึงการใช้แรงงานในแบบที่สังคมตีความหมายว่าน่าจะเป็นงานของผู้ชายและอาจจะมีบางครั้งที่คุณไม่ถนัดและทำไม่ได้อย่าเสียใจและรู้สึกผิดหวังกับมันขนาดนั้นคุณยังสามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ได้แล้วมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาอย่าไปโฟกัสกับมันจนรู้สึกแย่กับตัวเองเลย

3.สิ่งดีๆ จะดึงดูดสิ่งดีๆ

แม้ว่าคุณจะเจ็บปวดจากสิ่งรอบตัวมากขนาดไหนแต่การพูดเรื่องดีๆ และความเป็นจริงให้ลูกฟังอย่างจริงใจนั้นจะช่วยให้ทั้งจิตใจของคุณและลูกเติบโตไปพร้อมกับความสุขพร้อมๆ กันได้เป็นอย่างดีและสิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ ทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ คุณและลูกมีความสดใสมากขึ้นด้วย และหากมีคำถามหรือความจำเป็นที่จะต้องพูดถึงสามีของคุณอย่างไรก็ตามให้พูดแต่ในแง่ดีๆ และสิ่งดีๆ เข้าไว้เพราะมันจะทำให้คุณไม่ไปจมอยู่กับความเจ็บปวดเหล่านั้นและลูกเองก็จะไม่มีความชิงชังในจิตใจอีกด้วย

4.ความเป็นพ่ออย่างไรก็ตัดไม่ขาด

แม้ว่าจะต้องแยกทางกันไปแล้วแต่อย่างไรก็ตามสถานะของความเป็นพ่อนั้นไม่มีทางตัดขาดไปจากลูกได้และลูกเองก็มีหน้าที่ที่จะต้องกตัญญูรู้คุณพ่อเช่นเดียวกัน พาลูกไปเจอให้ได้คุ้นเคยสนิทสนมกับพ่อไว้ให้เหมือนปกติ อย่างน้อยคุณก็มีเพื่อนช่วยเลี้ยงลูกเพิ่มอีกคนและก็ยังสามารถไว้ใจได้เลยว่าความรักต่อลูกคุณจากเพื่อนคนนี้จะไม่มีวันน้อยหน้าใครอย่างแน่นอน

5.ให้เวลาตัวเองบ้าง

ความเครียดในเรื่องของการดำเนินชีวิตและยังต้องพาลูกไปยังอนาคตที่สดใสด้วยแล้วนั้นอาจจะทำให้คุณแม่หลงลืมอะไรที่สำคัญไปบางอย่าง นั่นก็คือการให้เวลาตัวเองนั่นเอง คุณอาจะลองหาวันและเวลาว่างดูบ้างนั่งคิดทบทวนถึงสิ่งต่างๆ ให้ทุกอย่างได้ตกตะกอนและให้คำตอบกับคุณในเรื่องต่างๆ ที่อยู่ในใจ การคุยกับตัวเองเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อย้ำเตือนความเข้าใจและความรักในตัวเองนั่นเอง

ในเมื่อหลายๆ อย่างเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดถ้าเป็นแบบนั้นแล้วการกำหนดจิตใจของคุณแม่เองน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดายกว่า เริ่มตั้งแต่วันนี้นอกจากจะดีกับตัวคุณแล้วเชื่อได้เลยว่าลูกเองก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงความรักความจริงใจที่คุณต้องการมอบให้แล้วเขาจะสามารถตอบแทนความรู้สึกเหล่านี้กลับมาให้คุณได้ชื่นได้อย่างแน่นอน