Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

5 จุดปีนเขาในไทย สูดโอโซนให้ชุ่มปอด

5 จุดปีนเขาในไทย สูดโอโซนให้ชุ่มปอด

บางครั้งที่ชีวิตของเราถ้ามันจะราบเรียบจนเกินไป หลาย ๆ คนก็อาจรู้สึกว่าเบื่อจัง จะมีอะไรที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตรู้สึกท้าทายแตกต่างออกไปจากเดิมบ้างไหม ก็ต้องบอกเลยว่า การจัดทริปเล็ก ๆ เพื่อแพลนให้ตัวเราเองได้ออกไปสูดโอโซนให้ชุ่มปอดด้วยการไปเที่ยวจุดปีนเขาในไทยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะเราจะต้องออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเป็นเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนไปให้ดี แค่ได้เริ่มเตรียมตัวร่างกายก็หลั่งอะดรีนาลีนออกมาให้เรารู้สึกตื่นเต้นโดยอัตโนมัติแล้ว หากได้ไปเที่ยวสถานที่จริงอีก รับรองเลยว่าจะสนุกตื่นเต้นมากกว่าเดิมแน่นอน

5พิกัด จุดปีนเขาในไทย

กิ่วแม่ปาน เชียงใหม่


ขอบคุณภาพจาก FB: กิ่วแม่ปาน
ที่แห่งนี้มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ที่มีอากาศบริสุทธิ์ทำให้ได้เราได้รับโอโซนจากต้นไม้และไอหมอกอย่างเต็มที่ หายใจได้อย่างชุ่มปอดสดชื่นเอามาก ๆ ระยะเวลาเดินเท้าเพื่อขึ้นเขาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถือว่าเป็นสถานที่ ที่เหมาะกับนักปีนเขามือใหม่ที่พึ่งเริ่มหัดปีนเขา เพราะเส้นทางค่อนข้างสมบูรณ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ค้ำที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้จัดเตรียมเอาไว้ ให้เดินป่าขึ้นเขาได้ง่ายขึ้น ทางเดินบันไดสำหรับจุดที่ค่อนข้างชัน ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกกว่า ได้มีเวลาไปชื่นชมดอกไม้ป่านานาพรรณ มอสส์ เฟิร์นที่เขียวชอุ่ม ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ สวยงามจนหลงลืมเวลากันเลยทีเดียว

  • Location : เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์
  • Website : portal.dnp.go.th
  • FB: กิ่วแม่ปาน

อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เชียงใหม่


ขอบคุณภาพจาก FB: อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
ด้วยลักษณะของขุนเขาสูงสลับซับซ้อน ที่มีความสูงกว่า 2,285 เมตร ทำให้เหล่านักปีนเขาต่างเข้ามาทดสอบความท้าทายในชีวิตกันอยู่เป็นประจำ ใช้เวลาในการเดินทางขึ้นไปบนยอดประมาณ 3-4 ชั่วโมง  นอกจากจะได้สัมผัสธรรมชาติอันกว้างใหญ่จนทำให้ชีวิตได้ตกผลึกมุมมองใหม่ ๆ แล้วยังมีจุดกางเต็นท์ที่อากาศบริสุทธิ์มาก มีอากาศหนาวเย็นและลมแรงตลอดทั้งปี แค่เพียงได้ขึ้นไปหายใจบนยอดดอยนั้นก็เป็นการบำบัดปอดให้ชุ่มฉ่ำถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ แต่ต้องขอบอกว่าเส้นทางการเดินทางนั้นไม่ธรรมดาเลย ควรเตรียมร่างกายให้มีความพร้อมมาเป็นพิเศษ เพราะทางค่อนข้างชันมีการขึ้นลงตลอดเส้นทางนั่นเอง

ภูกระดึง เลย


ขอบคุณภาพจาก FB: อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park
หากใครอยากขึ้นไปชื่นชมความงามและความอุดมสมบูรณ์ของขุนเขาที่เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และยังเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้วละก็ ต้องแวะมาที่นี่เลย เที่ยวชมภูเขา ชมดอกไม้ป่าหายาก ด้วยเส้นทางที่ค่อนข้างเดินทางง่าย มีการเตรียมทางเดินหิน ทางเดินปูนเป็นระยะ ๆ สลับกับเนินดินและทางหินขรุขระ มีจุดให้พักผ่อนเป็นช่วง ๆ มีบันไดที่ค่อนข้างแข็งแรงให้ปีนขึ้นทางลาดชันได้สะดวก จึงทำให้การเดินทางไม่ได้ยากมากมาย ใช้เวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง หากใครสามารถปีนเขาไปถึงยอดได้แล้ว ก็ต้องบอกเลยว่าวิวด้านบนนี้สวยสุด ๆ อากาศก็บริสุทธิ์มาก จนไม่อยากกลับบ้านเลยทีเดียว

ผาหินกูบ จันทบุรี


ขอบคุณภาพจาก FB: จุดชมวิวผาหินกูบ จ.จันทบุรี
เป็นอีกสถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการปีนเขาเป็นพิเศษ ที่นี่จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่พาไปเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง ใช้เวลาในการเดินทาง 8 ชม. การเดินทางดูเหมือนว่าช่วงแรก ๆ นั้นจะเดินได้แบบง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ค่อยลำบากมากเท่าไหร่ แต่ในช่วงท้าย ๆ เส้นทางปีนเขาจะเริ่มชันขึ้นไปเรื่อย ๆ จนต้องหยุดพักกันเป็นระยะ ๆ และขาดน้ำไม่ได้เลย ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่านั้น เราอาจจะต้องระมัดระวังทากตามแหล่งน้ำเป็นพิเศษ เป็นอีกหนึ่งความตื่นเต้นที่เราจะได้พบเห็นความเป็นธรรมชาติของป่าใหญ่ ถึงอย่างไรก็ตามที่นี่ค่อนข้างฮอตมาก ถ้าใครอยากจะไปเที่ยวจะต้องจองคิวกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หลาย ๆ เดือน เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะอดไปปีนเขาได้เพราะว่าคิวเต็มนั่นเอง

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์


ขอบคุณภาพจาก FB: อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว – Phu soi dao National Park
ที่แห่งนี้เป็นเส้นทางปีนเขาที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,600 เมตร และมีจุดกางเต็นท์ที่มีความสูง  2,000 เมตรที่ยอดภูเขา เป็นอีกที่ที่จะต้องจองคิวก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำทางขึ้นไป ทางค่อนข้างโหด สูงชันเป็นระยะ ไม่ค่อยเหมาะกับมือใหม่มากนัก แต่เรื่องธรรมชาติอันบริสุทธิ์ อากาศที่สะอาด ต้องยกนิ้วให้กับเค้าเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-6 ชั่วโมง ถือได้ว่าคุ้มค่ามากที่ได้มาชมวิวและบรรยากาศที่สวยจนไม่อาจจะละสายตาได้ อีกทั้งกล้องตัวไหนก็ไม่อาจจะเก็บภาพประทับใจได้ดั่งตาเห็นอีกด้วย ต้องมาสัมผัสด้วยตาตัวเองเท่านั้น