Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

5 สิ่งที่คิด vs สิ่งที่เป็น เมื่อมีลูก

5 สิ่งที่คิด vs สิ่งที่เป็น เมื่อมีลูก

เมื่อก่อนสมัยที่ยังไม่มีลูก ก็ยังไม่เคยนึกถึงคำ ๆ นี้นะคะ “สิ่งที่คิด vs สิ่งที่เป็น” เพราะหลาย ๆ ครั้งที่ได้เห็นรูปภาพของเด็ก ๆ ที่น่ารัก ๆ มีกิจกรรมหรือมีท่าทางที่น่าเอ็นดูก็จะใจละลายตามในความน่ารักนั้น พอวันหนึ่งแต่งงานมีลูกเอง เราก็ยังคงมีภาพนั้น ๆ อยู่ในหัว แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เวลาที่ความจริงปรากฏ ทำไมไม่เห็นเหมือนที่เราเคยเห็นเลย ว่าแต่มีอะไรบ้าง ระหว่างเรื่องของแม่ ๆ ลูก ๆ ไปติดตามกันค่ะ

5 สิ่งที่คิด vs สิ่งที่เป็น เมื่อมีลูก

สิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็นมันจะต่างกันมากขนาดไหน และมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

การเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป

สิ่งที่คิด

สิ่งที่เราเคยเห็นอย่างน้อยก็ในโฆษณาผ้าอ้อมสำเร็จรูป เราจะเห็นว่าคุณแม่กำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูกน้อย ซึ่งนอนยิ้ม หน้าตาสดชื่น แจ่มใส จะมีนอนดิ้นบ้างแต่ก็เล็กน้อย แต่คุณแม่ก็ยังสามารถเปลี่ยนได้อย่างสบาย ๆ

สิ่งที่เป็น

คุณแม่บางคนเจอว่า พออาบน้ำเสร็จ เพียงแค่วางลูกบนเบาะเท่านั้น ลูกก็ร้องไห้งอแงแล้ว เพราะไม่อยากให้วางเบาะ แต่ไม่วางก็ไม่ได้ เพราะต้องใส่เสื้อผ้า ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ก็ต้องรีบใส่เสื้อผ้าอย่างเร็ว แต่เร็วเท่าไหร่ก็ยังช้ากว่าลูกที่ยกขาหนีผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ ปล้ำกันอยู่นานกว่าจะแต่งตัวเสร็จ

การป้อนข้าวลูก

สิ่งที่คิด

ลูกนั่งกินข้าวที่โต๊ะกินข้าวของเด็ก คุณแม่นั่งป้อนข้าวลูกคำต่อคำ ลูกก็กินข้าวอย่างมีความสุข เมื่อคุณแม่เห็นลูกกินข้าวได้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่อมข้าว คุณแม่ก็ดีใจ นั่งอมยิ้มตามลูก

สิ่งที่เป็น

คุณแม่ให้ลูกนั่งที่โต๊ะกินข้าวของเขาเอง เอาข้าวที่เตรียมไว้ให้ลูกใส่จาน พร้อมนั่งป้อนลูก ป้อนไปคำแรก ลูกกินบ้าง คายบ้าง ปลิ้นออกมาบ้าง เอามือคว้าชามข้าวบ้าง หันซ้าย หันขวาบ้าง สรุปกว่าจะป้อนเสร็จกินเวลาเป็นชั่วโมง

เรื่องการโพสต์ท่า

สิ่งที่คิด

สำหรับลูกที่โตขึ้นมาสักหน่อย ภาพที่เคยเห็นของคนอื่น ๆ คือ ลูกสาวที่แต่งตัวสวย ๆ ใส่กระโปรงน่ารัก ๆ มานั่งโพสต์ท่าสวย ๆ หวาน ๆ สมกับเสื้อผ้าที่เลือกใส่ ดูแล้วมันละมุนใจมาก

สิ่งที่เป็น

ลูกสาวก็แต่งตัว ใส่เสื้อแขนยาว กระโปรงอย่างงาม มีหมวกที่สีสันและสไตล์ที่แมทช์กัน พอจะถ่ายรูป นับ 1 2 3 แช๊ะ… ภาพที่ออกมา นางย่อตัว ชูมือขึ้น 2 ข้าง แล่บลิ้น สิ่งที่คิด vs สิ่งที่เป็น มันช่างแตกต่างอะไรกันขนาดนี้นะ

การเอาลูกเข้านอน

สิ่งที่คิด

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สุดจริงค่ะ เพราะสิ่งที่เราเห็นหรือที่เราเคยได้ยินมาคือ เวลาที่คุณพ่อคุณแม่หลับ ก็มักจะนอนกอดลูกที่หลับไปพร้อมกันอย่างมีความสุขบนเตียงและมีผ้าห่มอันแสนจะอบอุ่นคลุมกายทั้งพ่อแม่และลูก

สิ่งที่เป็น

เมื่อถึงเวลานอน ก็เอาลูกนอนตามปกติ โดยเอาลูกนอนที่เบาะเดียวกันกับเรา นอนอยู่ข้าง ๆ กัน พอเราแกล้งหลับ เพราะหวังว่าเมื่อลูกไม่มีใครเล่นด้วยแล้ว จะเบื่อ และจะง่วงเอง ก็จะนอนได้เอง ที่ไหนได้ พอเราหลับตาปุ๊บ ลูกก็คิดว่าเราหลับแล้ว คราวนี้ล่ะ สนุกลูกเลยค่ะ เข้าเอามือมาแหย่จมูก เปิดเปลือกตาซ้ายขวาสลับกัน บางคืนมีเอานิ้วมาแหย่ในปากอีก บางครั้งเล่นคนเดียว ก็หัวเราะคนเดียว กลายเป็นไม่ง่วงอีก

วันหยุดไม่ได้หยุด

สิ่งที่คิด

การมีลูกก็เข้าใจอยู่ค่ะว่า การได้หยุดแบบจริงจังน่ะไม่มีหรอก แต่บางครั้งวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็อยากนอนตื่นสาย ๆ บ้างไรบ้าง คือ ภาพที่เราเห็นคือ พ่อแม่และลูกนอนกอดกัน หลับไปพร้อมกัน ตื่นไปพร้อมกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เช้ามืด ก็น่าจะยังเป็นช่วงที่หลาย ๆ บ้านที่ไม่มีลูกยังได้พักกันอยู่

สิ่งที่เป็น

ตี 5 ลูกตื่นขึ้นมา พร้อมกับเสียงร้องเพลง เสียงชวนคุย บางวันก็กระโดดเล่นบนเตียง ระหว่างที่พ่อกับแม่นอน แล้วหลังจากนั้นคือ ไม่มีใครได้หลับอีกเลยทั้งวัน

จริง ๆ ก็ยังมีอีกหลายสิ่งเลยค่ะที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะต้องเจอเมื่อมีลูก โดยเฉพาะสิ่งที่คิด vs สิ่งที่เป็น เมื่อมีลูกจะทำให้เราเข้าใจชีวิตของคนที่มีลูกขึ้นเยอะเลย ถึงแม้ว่าสิ่งที่คิด vs สิ่งที่เป็นอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เพราะความไร้เดียงสาของลูกพ่อแม่ย่อมไม่ถือโทษโกรธอะไรอยู่แล้วค่ะ