Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

ทำไมต้องแยกห้องนอนกับลูก มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?

ทำไมต้องแยกห้องนอนกับลูก มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?

เป็นที่รู้กันดีว่าชาวต่างชาตินิยมแยกห้องนอนกับลูกตั้งแต่ลูกยังเล็ก ซึ่งต่างจากสไตล์การเลี้ยงแบบวัฒนธรรมไทยที่ช่วงลูกยังเล็กจะให้นอนกับคุณพ่อคุณแม่ก่อน แล้วค่อยมาแยกห้องนอนเมื่อลูกโตขึ้น ทีนี้เรากลับมาดูที่ประเด็นหลักก่อนสักหน่อยดีกว่าค่ะว่าทำไมต้องแยกห้องกับลูกด้วยล่ะ? แยกห้องนอนแล้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

แยกห้องนอนกับลูกควรแยกตั้งแต่แรกเกิดเลยหรือเปล่า?

รศ.พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า

“เมื่อลูกที่อยู่ในช่วงแรกเกิดไปจนถึง 2 – 3 เดือน ทารกจะนอนได้ไม่นาน ต้องกินนมแม่บ่อย เพราะฉะนั้นการที่ลูกได้นอนกับแม่จะสะดวกกว่า”

ถ้าลูกได้นอนห้องเดียวกันกับคุณแม่จะมีข้อดี คือ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงและลดโอกาสในการเกิดภาวะหลับไม่ตื่นในทารก (Sudden Infant Death Syndrome หรือ SIDS) ทั้งนี้ สมาคมกุมารแพทย์สหรัฐก็ได้ให้คำแนะนำไว้เช่นกันว่า

  1. ควรให้ลูกน้อยได้นอนห้องเดียวกับคุณแม่ โดยแยกพื้นที่ผิวการนอนไปจนอายุได้ 1 ปี หรืออย่างน้อย 6 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด SIDS
  2. ควรให้ลูกน้อยนอนหงายบนเบาะที่ไม่นุ่มยวบหรือแข็งจนเกินไป
  3. หากมีความจำเป็นที่จะต้องให้ลูกน้อยมานอนเตียงเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่สูบบุหรี่ ไม่ใช้ยานอนหลับหรือดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรมีผ้าห่ม ไม่ควรมีหมอนรอบตัวลูก และไม่ควรให้ลูกน้อยนอนบนที่นอนที่นุ่มเกินไป
  4. ขณะที่คุณแม่กำลังให้นมลูกก็ไม่ควรหลับ เพราะอาจไปกดทับลูกทำให้ลูกหายใจไม่ออก และเกิดภาวะ SIDS ได้

ข้อดี ข้อเสียในการแยกห้องนอนกับลูก

ข้อดีของการที่แม่นอนห้องเดียวกับลูก

  • ลูกจะนอนหลับได้ดี เพราะเขารู้สึกว่าอบอุ่นและปลอดภัย รู้สึกได้ถึงความรักของคุณพ่อคุณแม่ การได้นอนกับลูกจะทำให้ลูกเป็นเด็กที่อารมณ์ดี และไม่เป็นเด็กที่เรียกร้องความสนใจ เพราะเขาได้รับความรัก ความใกล้ชิด และความอบอุ่นอย่างเต็มที่
  • ลูกน้อยจะเป็นเด็กที่ไม่มีความวิตกกังวล หวาดกลัวในสิ่งต่าง ๆ จะต่างจากเด็กที่นอนคนเดียว เพราะเด็กที่นอนบนเตียงคนเดียว ในห้องคนเดียว เขาจะจินตนาการไปในทิศทางต่าง ๆ ตามที่เขาได้รับข้อมูลมา
  • ลูกน้อยจะเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ใจกว้าง มีความผูกพัน และรักครอบครัว การสร้างสายใยความสัมพันธ์และการเลี้ยงลูกในเชิงบวกนั้นเป็นการส่งผลดีต่อจิตใจของลูกเป็นอย่างมาก โดยมีผลการศึกษาระบุไว้ว่า การที่ลูกน้อยได้นอนห้องเดียวกับคุณพ่อคุณแม่นั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตลูก โดยเด็กที่ได้นอนห้องเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่เล็ก ๆ มักจะไม่พบปัญหาด้านสุขภาพจิต
  • มีงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า เด็กที่ได้นอนกับคุณพ่อคุณแม่นั้นจะเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดี มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ขี้วิตกกังวล ไม่หวาดกลัวต่อความผิดพลาด มีความประพฤติที่ดีครูที่โรงเรียน
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายต่อลูกเมื่อต้องอยู่ในห้องคนเดียว เนื่องจากมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ชิดตลอด
  • คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องลุกเดินไปอีกห้องเมื่อลูกร้อง

ข้อเสียของการนอนห้องเดียวกับลูก

  • หากคุณพ่อคุณแม่มีความจำเป็นที่จะต้องฝากลูกกับญาติหรือสถานเลี้ยงเด็ก ลูกจะเป็นเด็กที่หลับได้ยากมากกว่าเดิม หรืออาจเกิดความน้อยใจว่าคุณพ่อคุณแม่ทิ้งเขา
  • หากคุณพ่อคุณแม่หลับลึก หลับสนิท อาจทำให้นอนทับลูกได้ ยิ่งถ้าหากลูกถูกทับเป็นเวลานานอาจทำให้ขาดอากาศหายใจ ลูกอาจเสียชีวิตได้
  • ลูกจะกลายเป็นเด็กที่วิตกกังวล หวาดกลังกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่กล้าเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
  • คุณพ่อคุณแม่อาจนอนหลับพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ หากลูกเป็นเด็กที่ตื่นง่าย ตื่นบ่อย
  • คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเข้านอนเร็วพร้อมกับลูก ซึ่งอาจทำให้กิจกรรมบางอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำนั้นถูกตัดทิ้งไป

มาถึงตรงนี้แล้วการที่จะนอนห้องเดียวกับลูกหรือจะแยกห้องนอนกับลูกนั้น ล้วนแล้วแต่ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละครอบครัว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ควรพิจารณาที่ความพร้อมของลูกก็จะเป็นการส่งผลดีต่อทั้งลูก และคุณพ่อคุณแม่มากกว่าค่ะ