Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

จะออกจากงานมาเลี้ยงลูกเองเลยดีไหมนะ

ทันทีที่รู้ว่ากำลังจะมีลูก โน้ตและสามีดีใจมาก เรียกได้ว่า “เห่อ” เลยด้วยซ้ำค่ะ แต่…อีกหนึ่งประเด็นที่ตามมาก็คือ ตอนนั้นโน้ตยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ เงินเดือนก็ถือว่าโอเคเลยแหละ แต่มาวันนี้เราต้องตัดสินใจว่าถ้าคลอดลูกแล้ว ใครจะเลี้ยง?

ถ้ามองดูความเป็นไปได้ของทั้งสองครอบครัวแล้ว โน้ตเลี้ยงเองดีกว่า เพราะว่าแต่ละครอบครัวเราอยู่กันคนละทิศเลยส่วนเรื่องรายรับของสามีก็พอที่จะใช้ได้อยู่ แต่ก็ต้องอยู่กันแบบประหยัด ส่วนโน้ตตอนนี้ก็รับงานเขียนทุกประเภทบวกกับในมุมมองของสามีก็เห็นด้วยว่าเลี้ยงเองดีกว่า จึงไม่ได้มีปัญหาอะไรในเรื่องนี้

การเลี้ยงลูกเองมีข้อดีอะไรบ้าง? ไปดูกันค่ะ

เลี้ยงลูกเองดีอย่างไร?

พัฒนาทักษะด้านการเรียนรู้

ในช่วง 3 ปีแรกสมองของลูกจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นนับเป็น 2 เท่า และจะมีการเรียนรู้ในสิ่งใหม่รอบตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซลล์สมองมีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ซึ่งคุณแม่จะสามารถวางแผนในการช่วยกระตุ้นพัฒนาการในด้านต่างๆ ของลูกได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เซลล์ประสาท

เมื่อเซลล์ประสาทถูกกระตุ้นในทุกๆ วัน จะทำให้เซลล์ประสารทส่วนนั้นๆ พัฒนาและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ ลูกๆ จะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวว่าสิ่งนั้นคืออะไร สิ่งนี้คืออะไร มีการทำงานอย่างไร เป็นต้น

“จะทำอย่างไรถ้าต้องการช่วยกระตุ้นเซลล์ประสาทลูก?”

วิธีที่ง่ายที่สุดและเริ่มได้จากคุณพ่อคุณแม่เลยนั่นก็คือ การชวนลูกพูดคุย ชวนเค้าเล่น เวลาพูดให้สบตาลูกด้วยนะคะ เพื่อเป็นการสานสายใยระหว่างคุณแม่และลูก (ได้ผลมากค่ะ) หรือหากเค้าโตอีกซักหน่อย ชวนลูกเล่นจ๊ะเอ๋ ก็เป็นการฝึกพัฒนาการที่ดีได้อย่างหนึ่งค่ะ

สามารถให้นมลูกได้อย่างเต็มที่

ข้อดีอีกข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ การให้นมแม่อย่างได้อย่างเต็มที่ เพราะนมแม่เป็นแหล่งอาหารที่มีประโยชน์มาก มีสารอาหารที่ลูกต้องการมากมาย ช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้ดี ไม่เจ็บป่วยง่าย ลูกหิวนมเมื่อไหร่ก็พร้อมเสิร์ฟทันที สดจากเต้าทุกวัน

ความผูกพันที่แน่นแฟ้น

หากครอบครัวไหนที่คุณแม่สามารถเลี้ยงลูกได้เองที่บ้าน เมื่อวันเวลาผ่านไปลูกเติบโตขึ้น พบว่าลูกจะมีความรักและความผูกพันกับครอบครัวมาก นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะความรักความอบอุ่นในครอบครัวจะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ลูกคิดทำอะไรนอกลู่นอกทาง หรือหากลูกมีปัญหาอะไรก็จะนึกถึงครอบครัวก่อนเป็นอันดับแรก

ลูกจะมีความมั่นใจ

ความมั่นใจ” นี้เริ่มตั้งแต่การกล้าคิด กล้าถาม กล้าทำ และกล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง เพราะคุณแม่จะรู้ว่าลูกชอบทำอะไร และไม่ชอบทำอะไร ซึ่งสิ่งนี้ครอบครัวจะสามารถส่งเสริมลูกได้ เมื่อลูกได้ทำในสิ่งที่รัก เค้าจะมีความรู้และความมั่นใจ จนสามารถแสดงออกได้อย่างถูกต้อง

มีวุฒิภาวะทั้งด้านปัญญาและอารมณ์

จากการศึกษาหลายๆ กรณีที่คุณแม่เลี้ยงเองพบว่านอกจากการเจริญโตทางร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว “การเติบโต” ไม่ใช่แค่เพียงร่างกายเท่านั้น แต่หมายถึง “ด้านปัญญาและอารมณ์” อีกด้วย

รู้ข้อดีข้อด้อยของลูก

การรู้ข้อดีข้อด้อยของลูก สำคัญตรงที่ว่า เมื่อรู้ข้อด้อยแล้ว คุณแม่จะสามารถปรับพฤติกรรมของลูกได้อย่างถูกต้องซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนของดีก็จะทำให้คุณแม่รู้ว่าเค้าชอบด้านไหน เราก็จะส่งเสริมเค้าไปในทางนั้น ทำให้ลูกได้ค้นพบตัวเองได้เร็วอีกด้วยค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่ครอบครัวหนึ่งๆ จะตัดสินใจว่าจะเลี้ยงลูกเองหรือจะฝากปู่ ย่า ตา ยาย เลี้ยง เข้าใจว่าจะต้องมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาประกอบการตัดสินใจด้วยหนึ่งในปัญหาหลักก็น่าจะเป็นเรื่อง “การเงิน” ยิ่งถ้าต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยแล้ว การเลี้ยงลูกเองคงทำได้ลำบาก

หากครอบครัวไหนที่ไม่สามารถออกจากงานมาเลี้ยงลูกเองได้ ก็ “อย่าตำหนิตัวเองหรือรู้สึกผิดกับตัวเอง” นะคะ ให้เลือกทางเดินที่เหมาะสม ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อย่าลืมว่า “ลูกต้องการหลักยึดที่เข้มแข็ง” นะคะ แล้ววันหนึ่งลูกจะเข้าใจ โน้ตขอเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวนะคะ