Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

คาร์ซีทสำคัญจนห้ามละเลย!

คำว่า “อุบัติเหตุ” คือสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดและไม่สามารถคาดการณ์ใดๆ ได้เลยและยิ่งเป็นในเรื่องของการเดินทางด้วยรถยนต์แล้วล่ะก็ย่อมมีความเสี่ยงกันตั้งแต่เริ่มออกท้องถนนกันอยู่แล้ว แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ที่สวมบทคนขับเองหรือมีคนขับรถที่ไว้ใจได้แต่อย่างไรก็ตามการไม่ตั้งอยู่บนความประมาทนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่เสมอโดยเฉพาะเมื่อมีสมาชิกใหม่เป็นลูกน้อยที่เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของพวกคุณนั่งรถยนต์คันนั้นไปด้วยการมี “คาร์ซีท” คือสิ่งที่จำเป็นและสำคัญและมันสามารถช่วยปกป้องลูกของคุณจากอันตรายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

แล้วคาร์ซีทคืออะไรกัน?

คาร์ซีทคืออุปกรณ์ที่ช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นและช่วยลดการบาดเจ็บของร่างกายลูกได้ เพียงแค่ติดตั้งให้ถูกวิธี รัดสายที่ตัวลูกให้พอดีไม่แน่นไม่หลวมจนเกินไป หากคุณมีคาร์ซีทกันแล้วก็ขอแนะนำว่าให้ติดตั้งไว้ที่เบาะหลังละพยายามให้อยู่บริเวณกลางรถมากที่สุดเพราะจะช่วยลดระดับความรุนแรงของการถูกกระแทรกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

มาเริ่มฝึกลูกให้ชินกับคาร์ซีทกัน

แน่นอนว่าเด็กๆ เมื่อต้องเข้าไปนั่งในพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัดแถมยังมีอะไรมารัดตัวด้วยแล้วล่ะก็อาจจะเป็นสาเหตุให้เขาร้องไห้งอแงได้และไม่ยอมที่จะนั่งคาร์ซีท ดังนั้นนี่คือหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องฝึกให้เขาเคยชินและไม่รู้สึกกลัวการนั่งคาร์ซีทนั่นเอง

สิ่งที่ต้องมีเป็นอับดับแรกสำหรับการฝึกลูกให้นั่งคาร์ซีทได้นั่นก็คือ “ความใจแข็งของคุณ” นี่คือจุดที่สำคัญมากเพราะอย่างไรเด็กๆ ก็น่าจะต้องงอแงฟูมฟายอยู่แล้วแต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่คิดถึงความปลอดภัยเข้าไว้ก็รับรองว่าจะสามารถผ่านจุดนี้ไปได้อย่างสบายแน่นอน

เลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับลูกกัน

เด็กๆ ที่ต่างวัยกันไปก็จะมีคาร์ซีทที่เหมาะสมกับพวกเขาแตกต่างกันไป สำหรับเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 ปีนั้นมีความเหมาะสมที่จะนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปด้านหลังรถ ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่า
และสำหรับเด็กที่โตแล้วตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปการที่ให้เข้าหันหน้าคาร์ซีทไปทางหน้ารถกลับมาความปลอดภัยมากกว่า ดังนั้นการจัดวางคาร์ซีทก็มีส่วนสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างมากไม่ใช่เพียงแค่มีคาร์ซีทแล้วจะเลือกวางไว้อย่างไรก็ได้

ต่อไปเรามาดูวิธีเลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกันดีกว่าควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

  1. ดูสรีระของลูกน้อยให้ดีว่าเหมาะกับคาร์ซีทแบบไหน
  2. เมื่อซื้อมาแล้วก็อย่าลืมตรวจเช็คการติดตั้งให้เรียบร้อยว่าคุณติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธีหรือไม่
  3. ก่อนเลือกซื้ออย่าลืมที่จะเช็คระดับความปลอดภัยในมาตรฐานสากลที่มีระบุไว้อยู่ในคาร์ซีทกันด้วย เพราะคาร์ซีทที่ผลิตจากแต่ละประเทศก็จะมีกฎของความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเช็คดูให้ดีว่าสามารถใช้ในไทยได้อย่างเหมาะสมหรือไม่
  4. คาร์ซีทมือสองคือสิ่งจำเป็นจะต้องพิจารณากันให้ดีเพราะในส่วนของมาตราฐานความปลอดภัยของตัวอุปกรณ์นั้นก็จะลดน้อยลงจากแบบมือหนึ่งแน่นอนเพราะมันมีการเสื่อมโทรมตามระยะเวลาที่ใช้งาน ต้องดูพื้นฐานของคนขายให้ดีเพราะจริงๆ แล้วคาร์ซีทแต่ละแบรนด์ก็จะมีการอบรมคนขายก่อนเป็นอย่างดี แถมการซื้อแบบมือสองมาอาจจะนำพาเชื้อโรคมาด้วย อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ใช่ข้อห้ามแต่อยากจะให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณาให้ถี่ถ้วนที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้หันไปซื้อมือหนึ่งกันจะดีกว่า

เมื่อคุณเลือกซื้อและได้ติดตั้งคาร์ซีทเรียบร้อยแล้วนั้นจนเมื่อลูกโตคุณอาจจะไม่ได้เห็นประโยชน์จากการใช้งานของมันเลยซึ่งในจุดนี้ถือว่ามันคือข้อดีเพราะแสดงว่าครอบครัวของคุณไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นเลยนั่นเอง การซื้อไม่ใช่เรื่องของความคุ้มค่าที่จะได้ใช้งานอย่างเต็มที่แต่มันเป็นเรื่องของความปลอดภัยและช่วยลดความกังวลใจของคุณพ่อคุณแม่ได้ ถ้าลูกต้องมาเป็นอะไรไปเพราะความประมาทที่สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ต้นนั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ฝั่งใจไม่น้อยเลยทีเดียว