Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

ลูกพูดไม่เป็นประโยค เพราะอะไร

ลูกพูดไม่เป็นประโยค เพราะอะไร

มีเด็กหลาย ๆ คนค่ะ ที่เมื่อถึงอายุที่ควรจะพูดเป็นประโยคได้แล้ว แต่เขากลับไม่เข้าใจ ทำไม่ได้ ซึ่งทั่วไปแล้วเด็กที่ควรจะเริ่มพูดเป็นประโยคได้แล้วจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 2 ขวบขึ้นไป ประโยคที่เด็กพอจะพูดได้แล้ว เช่น หิวข้าว ไปไหน ไม่ไป ไม่อาว หรือจะอาว เป็นต้น แต่หากลูกใกล้จะ 2 ขวบ หรือครบ 2 ขวบแล้ว ลูกยังพูดไม่เป็นประโยค พูดไม่เป็นภาษา แบบนี้คุณแม่ต้องนั่งทบทวนกันหน่อยแล้วล่ะค่ะ ว่าคุณพ่อคุณแม่เผลอเลี้ยงลูกแบบนี้หรือเปล่า

ลูกพูดไม่เป็นประโยค เพราะอะไร

สนุกกับการที่ลูกพูดไม่เป็นประโยค

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงเคยเห็นว่า การที่ลูกพูดไม่ชัดก็มีคุณพ่อคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่หัวเราะเพราะความน่าเอ็นดู จึงอยากเล่นกับลูกด้วยการพูดแบบเดียวกันกับลูกบ้าง ซึ่งถ้าเล่นเป็นครั้งคราว เป็นการหยอกล้อก็พอโอเค แต่ถ้าทำแบบนี้ในทุกครั้งลูกก็จะเข้าใจว่าสิ่งที่เขาสื่อสารออกไปคุณพ่อคุณแม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นเขาจะเรียนรู้ว่าแบบนี้คือ ภาษาและการสื่อสารที่ถูกต้อง ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่อันตรายค่ะ

วิธีแก้เมื่อลูกพูดไม่เป็นประโยค

เช่น

แม่ : “หิวข้าวหรือยังลูก?”
ลูก : “อู แอะ อูว”
แม่ : “หิวแล้วใช่ไหมคะ? งั้นไปกินข้าวกันนะคะ”

ให้ลูกอยู่กับหน้าจอเป็นระยะเวลานาน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้คือยุคดิจิทัล และเข้าถึงได้ง่ายมาก ซึ่งในบางครอบครัวต้องทำงานไม่มีเวลาเล่นกับลูก แต่ก็กลัวลูกจะเหงาจึงยื่นหน้าจอให้ลูก หวังเพื่อให้ลูกได้คลายเหงาโดยลำพัง ไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วย เพราะการ์ตูนในบางช่องใช้วิธีการสื่อสารหลักด้วยท่าทาง ซึ่งคำพูดก็จะมีแค่ “แอะ” “อ๊ะ” “อู” เป็นต้น ซึ่งทำให้เด็กเกิดการเลียนแบบตามการ์ตูนที่ได้ดู

วิธีแก้ไม่ให้ลูกอยู่กับหน้าจอเป็นระยะเวลานาน

  • ก่อนให้ลูกเล่น ควรทำความเข้าใจและกำหนดข้อตกลงกันก่อน โดยต้องกำหนดระยะเวลาในการเล่นว่าดูได้กี่นาที
  • จัดสรรเวลาของคุณพ่อคุณแม่เสียใหม่ เพื่อให้มีเวลาได้อยู่กับลูก เล่นกับลูกให้มากขึ้น
  • ขณะที่พูดกับลูกควรพูดให้ช้า ๆ ชัด ๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้วิธีการพูดและการออกเสียงให้ถูกต้อง
  • ถ้าจะให้ลูกเล่นหน้าจอ คุณพ่อคุณแม่ควรดูไปพร้อมลูก เพื่อให้คำแนะนำที่ถูกต้อง

คำศัพท์ในหัวน้อย

เช่น

พ่อ : “หนูอยากให้พ่อหยิบอะไรอีกลูก?”
ลูก : “บอล และก็ และก็…..อิยับปับปะ…#$%”

ที่ลูกพูดแบบนี้คือ รู้คำศัพท์บางคำ บางคำก็ไม่รู้ นั่นเป็นเพราะว่า เขาไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไร เขาจึงต้องสร้างคำศัพท์ใหม่ขึ้นมาเองในแบบที่ตัวเองเข้าใจ และเอาไว้เรียกแบบนั้นโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นการเรียกชื่อที่ผิด ซึ่งในบางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจพบว่าลูกเริ่มหงุดหงิด เนื่องจากเขาไม่รู้จะสื่อสารอย่างไรให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจตรงกันกับเขานั่นเอง

วิธีแก้ลูกมีคำศัพท์ในหัวน้อย

  • สอนทันทีเมื่อรู้ว่าลูกไม่รู้คำไหน พร้อมออกเสียงช้า ๆ ชัด ๆ
  • เวลาที่ลูกถามต้องตอบทุกครั้งเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์เพิ่มเติม
  • อย่าดุลูกหากลูกพูดผิด หรือทำท่ารำคาญ

เพราะเด็กรับรู้ได้นะคะ แล้วจะทำให้ลูกไม่กล้าถามอีก ซึ่งเป็นการลดทอนพัฒนาการของลูกลงโดยที่คุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น

ไม่มีเวลาให้ลูก ให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง

มีหลายครอบครัวค่ะที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานกันทั้งคู่ จึงปล่อยให้ลูกอยู่กับญาติ ซึ่งในวันหนึ่ง ๆ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกเราได้ทำอะไร หรือคุยกับใครไปบ้าง หรืออาจไม่ได้คุยหรือสื่อสารกับใครเลย ปล่อยให้เรียนรู้เอง นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งค่ะว่าทำไมลูกพูดไม่เป็นประโยค

วิธีแก้หากไม่มีเวลาให้ลูก ให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง

  • พยายามจัดสรเวลาของตัวเองใหม่ เพื่อให้เวลากับลูกมากขึ้น
  • เตรียมตัวทุกครั้งหลังกลับจากงานว่าจะสอนอะไรลูกบ้าง เช่น วันนี้อาจเป็นเรื่องสัตว์น้ำ พรุ่งนี้ค่อยสอนเรื่องของใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
  • ขอความร่วมมือจากญาติหรือคนดูแลว่าช่วยสอนในเรื่องการพูดของเขาให้ถูกต้อง ให้เขาได้เรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ

มีปัญหาครอบครัว

การที่คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกจะส่งผลกระทบในทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องลูก ลูกจะเกิดความรู้สึกเครียดและกดดัน เวลาที่เขาอยากรู้อะไร เขาจะไม่กล้าถามเพราะกลัวถูกตวาดกลับมา จนทำให้กลายเป็นไม่ยอมพูดกับใครเลย

วิธีแก้หากมีปัญหาครอบครัว

  • หากเริ่มรู้ว่าจะมีการทะเลาะกัน คุณพ่อคุณแม่ควรแยกกันคนละมุมเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน ไม่ทะเลาะต่อหน้าลูก
  • หากบังเอิญว่าลูกมาเจอขณะที่มีการทะเลาะกัน ให้คุณพ่อคุณแม่หยุด แล้วค่อยมาอธิบายให้ลูกฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกได้เห็นไป ปลอบเขา เพื่อทำให้ลูกสบายใจขึ้น

ผิดปกติทางร่างกาย

อาทิ หูหนวก หรือลิ้นไก่สั้น หรือเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่ส่งผลให้เป็นโรคออทิสติกหรือโรคสมาธิสั้น

วิธีแก้ปัญหาเรื่องความผิดปกติทางร่างกาย

เมื่อคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าอาจมีบางสิ่งบางอย่างของลูกที่ดูไม่ปกติ ควรรีบพาลูกไปปรึกษษแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ และรับการรักษาที่ถูกต้อง

ถ่ายทอดมาจากพันธุกรรม

นับเป็นเรื่องที่แก้ยากที่สุดแต่ก็กังวลได้น้อยที่สุดเช่นกัน เพราะเป็นการถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม อาจไม่จะเป็นต้องถ่ายทอดมาจากคุณพ่อคุณแม่โดยตรงแต่อาจจะมาจากปู่น่าตายายก็ได้

วิธีแก้ไขหากถ่ายทอดมาจากพันธุกรรม

ให้คุณพ่อคุณแม่พยายามเสริมทักษะลูกอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อถึงเวลาหนึ่ง ลูกก็จะสามารถสื่อสารและพูดให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจได้เองค่ะ

การที่ลูกพูดไม่เป็นประโยคถ้ายกเว้นในเรื่องของพันธุกรรมแล้ว ก็จะเป็นเรื่องของการเลี้ยงดูจากคุณพ่อคุณแม่ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้ลูกเป็นเด็กที่มีทักษะการสื่อสารที่ดี ควรเริ่มฝึกลูกตั้งแต่วันนี้นะคะ