Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

ลูกติดแม่มาก รับมืออย่างไรดี

ลูกติดแม่มาก รับมืออย่างไรดี

แม่ไปอาบน้ำลูกก็ร้องหา แม่กินข้าว แม่ตากผ้า แม่เข้าห้องน้ำก็ร้องหา คุณพ่อจะอุ้มไปดูว่าคุณแม่ไม่ได้ไปไหนก็ไม่ยอม ต้องให้แม่อุ้มเท่านั้นถึงจะหยุดร้องไห้ แม่ไปไหนหนูไปด้วย มีลูกบ้านไหนเป็นแบบนี้บ้างคะ? คุณแม่หลายคนบอกว่าดีใจ ปลื้มปริ่มที่ลูกเรียกหาแต่แม่ แต่หากปล่อยให้เป็นแบบนี้คงไม่ดีแน่ เพราะคุณแม่คงไม่ได้ไปทำธุระหรือจะปลีกตัวพักผ่อนได้เลย

ลูกติดแม่มาก

ลูกติดแม่ เชื่อว่าคุณแม่หลาย ๆ คนดีใจ ปลื้มปริ่ม ที่ลูกเรียกหาแต่คุณแม่ เข้าห้องน้ำก็จะขอเข้าด้วย ถ้าไม่ได้ก็มาส่งสายตาอ้อนวอน น้ำตาคลอเบ้า ซึ่งอีกมุมหนึ่งของคุณแม่ก็นั่งน้ำตาคลอเบ้าเช่นกัน เพราะตัวเองจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ต้องอยู่กับลูกตลอด ความเหนื่อยย่อมตามมา ความเครียดเริ่มสะสม สุดท้าย เหล่านี้จะส่งผลให้ “คุณภาพในการเลี้ยงลูก…ลดลง” เริ่มจิตตก เริ่มโมโหใส่ลูก คุณแม่ลองจินตนาการตามนะคะ เมื่อวันที่เราเริ่มไม่ไหวแล้ว ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก สุดท้ายตัวเราเองที่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง หากไม่อยากให้วันนั้นมาถึง คุณแม่ต้องเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลลูกน้อยได้แล้วล่ะค่ะ

5 เคล็ดลับ แก้ไขปัญหาลูกติดแม่

ปัญหาลูกติดแม่สามารถแก้ไขได้โดยการปรับพฤติกรรมของคุณแม่ก่อน ดังนี้ค่ะ

บ๊าย บายลูกก่อนจะไปทำธุระเสมอ

เป็นวิธีง่าย ๆ วิธีแรกที่คุณแม่สามารถเริ่มทำได้เลยค่ะ ทุกครั้งที่คุณแม่จะออกจากบ้านไปทำธุระ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน แบบที่ต้องไปทำงาน หรือใกล้แค่ไหน แค่ปากซอย ให้คุณแม่กอดลูก หอมลูก พร้อมกับบอกลูกทุกครั้งว่าคุณแม่กำลังจะไปไหน และจะกลับกี่โมง เมื่อบอกลูกไปแล้วให้คุณแม่กลับบ้านมาให้ตรงเวลาที่บอกเขา เพื่อให้เขาได้รู้ว่าเขาจะต้องรอคอยคุณแม่ถึงกี่โมง เพราะถ้าหากเลยเวลาที่คุณแม่บอกเขา เขาจะคิดว่าคุณแม่ไม่กลับมาตามที่สัญญากันไว้ ขณะที่บ๊าย บายลูก บอกลาลูกไม่ควรใช้เวลานาน เพราะยิ่งนานลูกจะยิ่งใจเสีย อาจร้องไห้ได้ และสิ่งที่สำคัญคือ ก่อนที่จะออกจากบ้านไปที่ไหนก็ตาม ควรบอกให้ลูกรู้ เพราะไม่เช่นนั้นลูกจะคิดว่าคุณแม่ทิ้งเขาไป ไม่รักเขา

เสริมสร้างความมั่นใจให้ลูก

ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือเด็กที่โตขึ้นมาสักหน่อย เด็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดให้เราเข้าใจได้และเป็นเด็กที่ไม่เอาใคร ไม่ยอมให้ใครอุ้มแม้กระทั่งคุณพ่อ ให้คุณแม่ใช้วิธีนี้ค่ะ ในขณะที่ต้องให้ลูกอยู่กับคุณพ่อหรือพี่เลี้ยง แล้วคุณแม่อาจจะต้องเข้าครัวหรือเข้าห้องน้ำ คุณแม่ควรส่งเสียงให้ลูกได้ยินเสมอ เพื่อให้เขามั่นใจว่าคุณแม่ไม่ได้ไปไหน แม้ไม่ได้เห็นตัวคุณแม่แต่ก็ได้ยินเสียงอยู่ ลูกจะอุ่นใจมากขึ้น

ลดการอุ้มลูกน้อย

สำหรับการแก้ไขเรื่องปัญหาลูกติดแม่ “ใจแข็ง” เท่านั้นที่จะครองโลกค่ะ 555 เพราะคุณแม่ต้องใจแข็งที่จะอุ้มลูกน้อยให้น้อยลง หากลูกน้อยมาอ้อนให้อุ้มให้คุณแม่เบี่ยงเบนความสนใจของลูกด้วยการหากิจกรรมสนุก ๆ มาทำร่วมกัน ให้ลูกเล่นของเล่น แล้วมีคุณแม่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือจะเล่นกับลูกเพลิน ๆ ก็ได้ค่ะ

ให้พี่เลี้ยงหรือญาติช่วยดูแล

นอกจากคุณพ่อแล้ว หากคุณแม่มีญาติหรือพี่เลี้ยงช่วยดูก็จะเป็นการแบ่งเบาหน้าที่ในส่วนนี้ได้ โดยอาจให้ลูกได้เล่นกับพี่เลี้ยง อยู่กับพี่เลี้ยงในช่วงกลางวัน ซึ่งระยะแรกคุณแม่อาจจะยังต้องอยู่ใกล้ ๆ กับลูกไปด้วย หลังจากที่ลูกคุ้นเคยกับพี่เลี้ยงแล้ว ก็จัดสรรเวลาเป็นช่วงกลางวันอยู่กับพี่เลี้ยง ส่วนกลางคืนกับวันหยุดก็ขอให้เป็นหน้าที่ของคุณแม่

เพิ่มการทำกิจกรรมทางสังคมให้แก่ลูก

ข้อนี้จะเป็นวิธีที่เหมาะกับเด็กที่โตขึ้นมาสักหน่อยพอที่จะสื่อสารกับผู้อื่นได้รู้เรื่องแล้ว เมื่อเขาโตขึ้นให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกออกไปเล่นกับเด็กคนอื่นในวัยเดียวกันบ้าง เพื่อเป็นการฝึกการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นที่นอกเหนือจากคุณพ่อคุณแม่ ญาติ และพี่เลี้ยง

เพราะคุณแม่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่กับลูกไปตลอด ดังนั้น ควรเริ่มฝึกลูกเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่ลูกจะได้รู้จักใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีความสุขนะคะ