Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

พ่อแม่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจเมื่อลูกพูดว่า “ไม่รักแล้ว”

ไม่รักแล้ว” คำพูดเพียงสั้น ๆ ที่ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ คิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายวันว่าเราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า? ลูกหมายความว่าอย่างนั้นจริงหรือ? เพื่อเป็นการทำความเข้าใจในสิ่งที่ลูกคิดและแสดงออกมา วันนี้เราจะมาดูต้นตอกันค่ะว่าเพราะอะไรลูกถึงพูดคำนี้ออกมา

สาเหตุที่ลูกพูด “ไม่รักแล้ว” ออกมา

เป็นไปได้ว่ามาจากสาเหตุ 2 ข้อนี้ค่ะ

คลังศัพท์เขายังน้อย ไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดแทนความรู้สึกขณะนั้น

เพราะเด็กจะยังไม่เข้าใจความหมายในเชิงนามธรรม เพราะฉะนั้นการแสดงออกซึ่งคำว่า “รัก” ของเขาก็คือ การให้สิ่งของ ซึ่งเป็นรูปธรรมสามารถจับต้องได้ การกอด การบอกชอบ อาจไม่ใชเรื่องแปลกที่ลูกจะบอชอบในทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกชอบ หรือรู้สึกพึงพอใจ แต่ในขณะที่ความหมายของคำว่า “รัก” ของผู้ใหญ่นั้นมันลึกซื้งมากกว่า

กลับมาพิจารณาในเรื่องอารมณ์ของเด็กกันค่ะ เวลาที่เด็กรู้สึกโกรธ หรือโมโห เขาก็จะเลือกใช้คำศัพท์ที่เขารู้จัก และแสดงออกมาอย่างไม่ซับซ้อน เรียกว่าถ้าไม่มีใครบอกเขาว่า “ความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร?” เขาก็จะระบุความรู้สึกจากคลังคำศัพท์ที่เขามีอย่างจำกัดในหัว

เด็กในวัยปฐมวัยซึ่งเป็นวัยที่เพิ่มเริ่มเรียนรู้ เริ่มมีพัฒนาการทางด้านความคิดและภาษา ประสบการณ์ในชีวิตก็มีจำกัด และเมื่อผนวกกับคำศัพท์ในหัวก็มีจำกัด ส่งผลให้เขาไม่เข้าใจความรู้สึกที่ซับซ้อนได้ เขาจะเข้าใจได้ก็เฉพาะอารมณ์ในขั้นพื้นฐาน เช่น ความสุข ความเศร้า ความดีใจ และความเสียใจ

และด้วยเหตุนี้ เวลาที่เด็กโกรธ โมโห หรือไม่พอใจอะไรมาก ๆ หรืออาจถูกขัดใจ เขาก็เลือกที่จะพูดว่า “ไม่รักแล้ว

เลียนแบบมาจากสิ่งแวดล้อม เคยได้ยินผู้ใหญ่พูด

สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กมีผลมากค่ะ โดยผู้ใหญ่บางคนใช้ “ความรัก” เป็นเงื่อนไข ตัวอย่างเวลาที่เด็กดื้อไม่เชื่อฟัง ก็มักจะพูดว่า (ไม่ว่าตั้งใจหรือหลุดปากพูดก็ตาม)

“ดื้อมาก ๆ เดี๋ยวไม่รักเลย”

คราวนี้เด็กก็จะเรียนรู้ว่า ผู้ใหญ่จะรักเขาก็ต่อเมื่อเขาเป็นเด็กดี เชื่อฟังในสิ่งที่ผู้ใหญ่ชอบ เด็กก็จะเลียนแบบในมุมที่ว่า ถ้าผู้ใหญ่ทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ หรือทำให้เขาไม่พอใจ เขาจึงพูดแบบเดียวกันกับที่ผู้ใหญ่พูดกับเขาเช่นกัน อาทิ “แม่ไม่ยอมให้กินไอศกรีม หนูไม่รักแม่แล้ว” หรือ “พ่อเสียงดัง พ่อดุ ไม่รักพ่อแล้ว” เป็นต้น

แนวทางการรับมือเวลาที่ลูกพูด “ไม่รักแล้ว”

การที่ลูกพูดว่า “ไม่รักแล้ว” คุณพ่อคุณแม่จะรับมืออย่างไรดี?

ให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งสติ ไม่โมโหกลับ

เมื่อใดก็ตามที่คุณพ่อคุณแม่ได้ยิน “ไม่รักแล้ว” อย่างเพิ่งโกรธหรือโมโหลูกกลับนะคะ แต่ให้พาตัวเองและลูกไปหามุมสงบ นั่งลงข้าง ๆ กัน นั่งเงียบกันซักพัก งดการพูดคุยโดยเฉพาะในช่วงที่ทั้งคู่ยังรู้สึกโมโหอยู่ รอเวลาให้อารมณ์ของทั้งลูกและคุณพ่อคุณแม่สงบลง หลังจากนั้นค่อยพูดคุยถึงสาเหตุกันว่า “เพราะอะไรลูกถึงโกรธ?” ด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่อ่อนโยน

บอกลูกถึงความรู้สึกของลูกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

เมื่ออารมณ์สงบกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ค่อยสอนหรือบอกลูกว่า อารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้คืออะไร? และอธิบายให้ลูกรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าหนูรู้สึกอย่างไร เช่น “ที่หนูโมโหเมือกี้ เพราะหนูไม่ได้สิ่งที่อยากได้ หนูเลยรู้สึกไม่พอใจ โกรธพ่อกับแม่ หนูจึงพูดแบบนั้นออกมา

บอก “รัก” ลูกน้อย

เมื่อคุณพ่อคุณแม่สอนลูก อธิบายลูกในเรื่องของอารมณ์ที่เกิดขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมที่จะ “บอกรัก” เพื่อให้ลูกได้รู้ว่า ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะโกรธเขามากแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าลูกจะน่ารักหรือไม่น่ารักในวันไหนก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้ยินลูกพูดว่า “ไม่รักแล้ว” บ่อยแค่ไหนก็ตาม ให้ตั้งสติก่อน อย่าเพิ่งน้ำตานองหน้า แต่กลับกันเราต้องค่อย ๆ สอนเขา พร้อมกับบอกเค้าในทุกครั้งว่า “ไม่ว่าลูกจะบอกไม่รักพ่อแม่ในวันนี้ แต่พ่อกับแม่ก็รักลูกมากนะ” ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ลูกได้รับรู้ว่า “ความรักของพ่อแม่เป็นรักที่บริสุทธิ์ ปราศจากเงื่อนไข

อ้างอิง
เมริษา ยอดมณฑป เจ้าของแฟนเพจตามใจนักจิตวิทยา