Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

8 วิธีสอนลูกให้แก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง

5 วิธีสอนลูกให้แก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง

ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง โน้ตเชื่อว่าเป็นอะไรที่สร้างความสุขให้คุณพ่อคุณแม่ได้อย่างสุด ๆ เลยทีเดียวค่ะ แต่…ประเด็นคือ วิธีที่จะสอนลูกให้ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองนั้นต้องทำอย่างไร ไปค่ะเราไปติดตามกันเลย

สอนลูกให้รู้จักตั้งคำถาม

ให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งคำถามกับปลายเปิดกับลูกค่ะว่า เมื่อเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ลูกจะมีวิธีจัดการกับปัญหานั้น ๆ อย่างไร อาจเป็นตัวอย่างเหตุการณ์ที่เราเห็นจากในข่าวก็ได้ หรือจะสมมติเหตุการณ์ขึ้นก็ได้ค่ะ เช่น มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งใส่ถุงเท้าวิ่งเล่นในบ้าน แล้วลื่นหกล้ม หัวแตก ให้ลองถามลูกว่าจะทำอย่างไรไม่ให้หกล้ม หรือถ้าหกล้มแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไรต่อไป เป็นต้น

สอนให้ลูกคิดบวกกับปัญหา

ข้อนี้ก่อนจะสอนให้ลูกคิดบวกกับปัญหา คุณพ่อคุณแม่ต้องตั้งสติและใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ เช่น ถ้าลูกทำที่วางโทรศัพท์พลาสติกหัก ซึ่งเกิดจากการบิดงอผิดทิศทาง ลูกอาจตกใจ เพราะทำของใช้ของคุณแม่พัง ให้คุณแม่บอกลูกดังนี้ค่ะ “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแม่ลองซ่อมดูก่อน แต่ถ้าซ่อมไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ” จากนั้นให้คุณแม่ใช้โอกาสนี้ในการสอนลูกต่อได้เลยว่า “ถ้าคราวหน้าหนูลองบิดแล้วมันฝืนหรือแข็งก็ไม่ต้องฝืนนะคะ แสดงว่ามันไม่สามารถงอได้แล้ว” เป็นต้นค่ะ เพื่อเป็นการสอนให้ลูกได้รู้ข้อจำกัดของสิ่งต่าง ๆ ได้อีกด้วยค่ะ

สอนให้ลูกรู้จักกับอารมณ์ของตัวเอง

ข้อนี้สำคัญค่ะ เพราะถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนที่มี EQ (Emotional Quotient หรือ ความฉลาดทางอารมณ์) คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มจากการสอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ของตัวเองก่อน เพื่อจัดการอารมณ์ของตัวเองได้อย่างถูกต้อง เพราะสิ่งนี้จะเป็นการฝึกให้ลูกได้พิจารณาปัญหาได้อย่างละเอียดมากขึ้น วิเคราะห์สาเหตุได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นหนทางนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องค่ะ

มอบหมายหน้าที่ภายในบ้านให้ลูก

งานบ้าน” เป็นอะไรที่สามารถสอนให้ลูกได้แก้ปัญหาได้ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นค่ะ เช่น คุณแม่มอบหมายให้ลูกตากผ้า และพับผ้า ซึ่งการตากผ้าลูกก็อาจเจอปัญหา เช่น จะแขวนเสื้อแต่เสื้อไหลหลุดจากไม้แขวนเสื้อ ลูกก็ต้องคิดแก้ปัญหาว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เสื้อไหลออกมาอีก และเมื่อถึงเวลาเก็บผ้าลูกต้องมีวินัย เพื่อที่จะดูเวลาในการเก็บผ้า รวมไปถึงการพับผ้าว่ากางเกงจะพับอย่างไร เสื้อจะพับอย่างไร หรือถุงเท้าจะพับอย่างไร เป็นต้น

ให้ลูกได้ทำตามสิ่งที่เขาสนใจ

เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเริ่มต้นที่ดีในการฝึกให้ลูกแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองค่ะ เพราะเมื่อลูกได้ทำในสิ่งที่รัก เขาจะมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาเป็นอย่างมากทีเดียว

ไม่ทำแทนลูก

เชื่อว่าก็มีบ้างบางครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เผลอช่วยลูก ทำแทนลูก แต่ไม่ได้แล้วนะคะ จากนี้ไปคุณพ่อคุณแม่ต้องตั้งสติก่อนเข้าทำแทนลูก ถ้าต้องการให้ลูกเติบโตเป็นคนที่มีความสุขในการชีวิต ให้คิดไว้ว่า “เราซึ่งเป็นคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถอยู่กับลูกได้จวบจนลูกแก่

ใช้ตัวละครในนิทานเป็นตัวช่วยสอน

การอ่านนิทานที่สร้างสรรค์เป็นเรื่องที่ดีค่ะ จะอ่านให้ลูกฟังก่อนนอนก็ได้หรือถ้าลูกต้องการอ่านระหว่างวันก็ได้ค่ะ แล้วให้ตัวละครในนิทานเป็นตัวเดินเรื่องช่วยสอน ช่วยให้แง่คิด รวมไปถึงตัวอย่างในการแก้ปัญหา

พ่อแม่เป็นต้นแบบอย่างที่ดี

เหนือสิ่งอื่นใด ลูกจะเป็นเด็กที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองหรือไม่ มากหรือน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับตัวของคุณพ่อคุณแม่เอง ที่ต้องแบบอย่างที่ดีในการแสดงออก มุมมองในการแก้ไขปัญหา รวมไปถึงวิธีในการแก้ปัญหา เพราะในบางครั้งทางแก้อาจมีได้มากกว่า 1 ทาง แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลือกทางออกทางใด พิจารณาจากอะไร จุดนี้ก็ควรสอนลูกด้วยเช่นกันค่ะ

เด็ก ๆ เวลาที่เขาเจอปัญหามักจะร้องไห้ นั่นเป็นเพราะว่าเขากลัวคุณพ่อคุณแม่จะดุเอา และเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เขาเกิดความกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่…เมื่อลูกได้เรียนรู้แล้วว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออก เพียงแค่เราต้องตั้งสติให้ได้ก่อน ไม่เต้นไปกับปัญหาที่เกิดขึ้น เราก็จะสามารถมองเห็นทางออกได้ค่ะ แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกออกทาไหนต่างหาก เมื่อลูกได้รู้ว่าทุกอย่างมีทางออก ลูกก็จะไม่ร้องไห้ตกใจ ไม่ฟูมฟายอีกต่อไป การเป็นเด็กที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากปลูกฝังในตัวลูกคือ ความต้องการให้ลูกเป็นคนดี ว่าแต่จะสอนอย่างไร สามารถติดตามได้จากบทความนี้ค่ะ “สอนลูกอย่างไรให้เป็นคนดีและมีความสุขในการใช้ชีวิต