Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

เสียงหัวใจทารกในครรภ์ บอกได้ถึงสุขภาพและพัฒนาการลูก

เสียงหัวใจทารกในครรภ์ บอกได้ถึงสุขภาพและพัฒนาการลูก

เสียงหัวใจของทารกในครรภ์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้แพทย์และคุณพ่อคุณแม่รู้ได้ว่าลูกมีพัฒนาการที่ดี หรือยังแข็งแรงอยู่ แต่อัตราการเต้นของหัวใจลูกน้อยไม่ว่าจะเต้นช้าหรือเต้นเร็วล้วนมีนัยแฝงอยู่ อาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ทั้งสิ้น

การเต้นของหัวใจทารกในครรภ์

โดยทั่วไปแล้วเราจะสามารถได้ยินเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ผ่านการอัลตราซาวด์ และเมื่อทารกในครรภ์อายุได้ 10-12 สัปดาห์ หัวใจของทารกก็จะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นจนเป็นหัวใจที่สมบูรณ์ เมื่อครบกำหนดคลอด 9 เดือน

อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ ปกติ จะอยู่ที่ 120-160 ครั้งต่อนาที

ซึ่งหัวใจจะทำหน้าที่สำคัญต่อระบบการไหลเวียนของเลือดตลอดระยะเวลา 9 เดือน และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ หัวใจของทารกในครรภ์มีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วมากกว่าผู้ใหญ่อีกด้วย

เสียงหัวใจทารกในครรภ์แบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติ

สัญญาณเตือนที่คุณแม่สามารถสังเกตได้ก็คือ พบว่าหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ หรืออาจจะอยู่ในภาวะขาดออกซิเจน โดยที่อัตราการเต้นของหัวใจจอยู่ต่ำกว่า 120 ครั้งต่อนาทีหรือเต้นมากกว่า 160 ครั้งต่อนาที

การเต้นของหัวใจทารกสัมพันธ์กับสุขภาพทารก

การเต้นของหัวใจทารกในครรภ์นั้นมีความสัมพันธ์หรือสามารถบ่งบอกได้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ซึ่งสามารถดูได้หลายวิธี ดังนี้

การดิ้นของทารกในครรภ์

การดิ้นของทารกในครรภ์มีความสำคัญมาก ๆ ค่ะ ซึ่งคุณแม่จะสามารถรับรู้ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 16-20 สัปดาห์ การดิ้นของทารกในครรภ์จะมีผลร่วมกับภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง ซึ่งถือว่าอยู่ในภาวะที่อันตราย ยิ่งถ้าคุณแม่มีอายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ เรื่องนี้จะยิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะถ้าหากพบว่าทารกในครรภ์ดิ้นน้อยลงเรื่อย ๆ ประมาณ 12-48 ชั่วโมง ก่อนการหยุดดิ้นหรือก่อนตาย คุณแม่ควรรีบพบแพทย์ด่วน

วัดความสูงของยอดมดลูก

เมื่อมดลูกขยายใหญ่ขึ้นนั่นแปลว่าลูกเจริญเติบโตมากขึ้น นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 18 – 34 คุณแม่จะพบว่ายอดมดลูกจะสูง แปลว่าทารกในครรภ์แข็งแรงดีค่ะ

การตรวจโครโมโซมหรือดีเอ็นเอ

คือการนำเซลล์ของทารกในครรภ์มาตรวจ โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีโรคทางพันธุกรรมชนิดต่าง ๆ

การตรวจอัลตร้าซาวด์

หรือการใช้คลื่นความถี่สูงนั่นเอง ปัจจุบันมีทั้ง 2 มิติ 3 มิติ และ 4 มิติ สามารถเห็นได้และตรวจโครงสร้างต่าง ๆ ได้ เพื่อดูว่าทารกมีการเจริญเติบโตตามเกณฑ์ปกติหรือไม่

การตรวจอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์

ด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ โดยสังเกตความสัมพันธ์จากการดิ้นของทารก เพราะการดิ้นมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์

ทำอย่างไรถึงจะได้ยินเสียงหัวใจทารกในครรภ์

ในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ใช้ในการฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ ดังนี้

  • เครื่อง Ultrasonic Doppler คุณแม่สามารถใช้อุปกรณ์นี้ในการฟังเสียงการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ได้ แต่จะได้ยินในช่วงสัปดาห์ที่ 10 หรือ 12 นะคะ
  • หูฟังแพทย์ แบบนี้ก็สามารถได้ยินการเต้นของหัวใจทารกได้ค่ะ โดยเมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ได้ 17-19 สัปดาห์ ก็จะได้ยินเสียงหัวใจลูก ตุบ ๆ ตุบ ๆ เป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ และเมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ที่มากขึ้นก็จะได้ยินเสียงที่ชัดเจนขึ้น
  • Real Time Sonography สามารถตรวจการเต้นหัวใจของทารก รวมถึงการเคลื่อนไหวได้หลังจากตั้งครรภ์แล้ว 2 เดือน
  • Echocardiography อุปกรณ์นี้สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 48 วัน หลังประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย

การได้ยินเสียงทารกเป็นอะไรที่คนเป็นแม่อย่างเราจะตื่นเต้นทุกครั้ง แต่ถ้าคุณแม่ได้ยินเสียงหัวใจลูกไปด้วยพร้อมกับมีเลือดออกมาด้วย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอาจเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ ควรไปพบแพทย์ด่วน และถ้าคุณแม่คนไหนที่ตั้งครรภ์มาได้ 11 สัปดาห์แล้วแต่ยังไม่ได้ยินเสียงหัวใจของลูกเลย เกิดความกังวล สามารถติดตามได้จากบทความนี้ค่ะ คลิกที่นี่ >> “ท้อง 11 สัปดาห์ ไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้น ลูกยังปลอดภัยอยู่ไหม?


ท้อง 11 สัปดาห์แล้ว แต่ยังไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูกเลย? เป็นเพราะอะไร? และจะทำอย่างไรดี? การที่ไม่ได้ยินเสียงลูก เรื่องของตำแหน่งมีผลค่ะ ตำแหน่งไหนบ้างที่ได้ยิน คลิกที่นี่

ข้อมูลอ้างอิง theasianparent.com , baby-mamy.com