Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

TOP 5 วิตามินแบบเคี้ยวสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 กินง่าย สุขภาพดี

5 วิตามินแบบเคี้ยวสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี กินง่าย สุขภาพดี

ถ้าปล่อยให้ลูกน้อยเลือกทานอาหาร เขี่ยทั้งผักหรือเลือกทานเฉพาะอาหารที่เค้าชอบเป็นประจำแล้ว คุณพ่อคุณแม่คงกังวลใจไม่น้อย กว่าจะฝึกลูกให้ทานอาหารด้วยตัวเองให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ลูกน้อยอาจจะขาดสารอาหารไปก่อน เพราะไม่ยอมทานอาหารทั้งหมดที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยเฉพาะลูกน้อยที่ทานยากและทานอาหารน้อย ยิ่งมีโอกาสที่จะขาดสารอาหารสูง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตโดยตรง จึงมีวิตามินแบบเคี้ยวเข้ามาเป็นตัวช่วยทำให้ลูกน้อยของเราได้รับสารอาหารอย่างเต็มคุณประโยชน์ คุณพ่อคุณแม่จึงอุ่นใจได้ว่าลูกน้อยจะได้รับสารอาหารครบถ้วนแน่นอน

วิธีการเลือกวิตามินแบบเคี้ยวสำหรับเด็ก

เลือกจากฉลากข้างขวด

พิจารณาอ่านฉลากข้างขวดให้ดี ว่ามีน้ำตาลสูงเกินไปหรือไม่ ตรวจเช็กให้ดีว่าปราศจากสารก่อภูมิแพ้หรือไหม เช่นควรเลือกแบบที่ไม่มีสารกันบูด เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย รวมไปถึงเลือกสี กลิ่น รสชาติ ของอาหารเสริม ที่มีความปลอดภัยเป็นหลักมีการทดสอบผ่านมาตรฐานที่สมควร ไม่เติมแต่งสาร หรือสีสังเคราะห์ใด ๆ ที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย

เลือกจากปริมาณที่เหมาะสม

ควรเลือกวิตามินแบบเคี้ยวที่มีปริมาณวิตามินที่เหมาะสมกับวัยของลูกน้อย ซึ่งโภชนาการของเด็กและของผู้ใหญ่ไม่เหมือนกัน เราจะใช้เกณฑ์วัดแบบเดียวกับผู้ใหญ่ไม่ได้

เลือกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน

เลือกยี่ห้อที่ได้รับคำแนะนำจากกุมารแพทย์ หรือผ่านการตรวจสอบมาตรฐานแล้วว่าไม่เป็นอันตราย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ อย่างปลอดภัยนั่นเอง

5  วิตามินแบบเคี้ยวสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023

วิตามินแบบเคี้ยว Auswelllife


ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่กำลังมองหาแคลเซียมสำหรับลูกน้อยที่แพ้นมวัว หรือมีการอาการท้องเสียหลังดื่มนมวัว ก็เลือกวิตามินแบบเคี้ยวยี่ห้อนี้ได้เลย ที่สามารถเริ่มทานได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน รสชาติอร่อย ทานง่าย  ผลิตด้วยมาตรฐานคุณภาพของประเทศออสเตรเลีย เพื่อให้เค้ามีแคลเซียมที่เพียงพอในทุกวัน

รสชาติ ส้ม
วิธีการรับประทานต่อวัน 1 – 2 เม็ด
ปริมาณต่อขวด 30 เม็ด
เหมาะกับช่วงอายุ 6 เดือน ขึ้นไป

วิตามินแบบเคี้ยว GIFFARINE


สุดยอดอาหารเสริมที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานที่คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจกลับมาซื้อซ้ำ ทานง่ายด้วยรูปแบบการอมหรือเคี้ยว มีหลากหลายวิตามินให้เลือก ปราศจากน้ำตาลเพราะใช้ ซอร์บิทอลไอโซมอลต์ และไซลิทอลแทนน้ำตาล ทำให้ลูกน้อยฟันไม่ผุ เติบโตอย่างสมวัย ได้รับสารอาหารอย่างเต็มเปี่ยม

รสชาติ ช็อคโกแลต, สตรอว์เบอร์รี, นม, โกโก้ และอื่น ๆ
วิธีการรับประทานต่อวัน 5 – 10 เม็ด
ปริมาณต่อขวด 100 เม็ด
เหมาะกับช่วงอายุ 1 – 12 ขวบ

วิตามินแบบเคี้ยว Maxxlife


อยากให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่ดีเสมอ ต้องเลือกวิตามินแบบเคี้ยวยี่ห้อนี้เลย ที่มีวิตามินซีและผักรวมกว่า 5 ชนิด ที่จะเข้ามาเสริมวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันที่ดี ป้องกันปัญหาเลือดออกตามไรฟัน อีกทั้งยังทานง่าย สามารถเคี้ยวได้เลย เพื่อให้รับวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน

รสชาติ ผลไม้รวม
วิธีการรับประทานต่อวัน ไม่ระบุ
ปริมาณต่อขวด 120 กรัม
เหมาะกับช่วงอายุ ไม่ระบุ

วิตามินแบบเคี้ยว Nature’s Way


ด้วยคุณประโยชน์จากสารอาหารหลักอย่าง สังกะสี, วิตามินดีและวิตามินซี ผสานคุณประโยชน์ ในปริมาณที่เภสัชแนะนำให้ลูกน้อยทานในแต่ละวัน  สามารถรับประทานได้ตั้งแต่เด็กอายุ 2-8 ปี ซึ่งให้เค้าค่อย ๆ เคี้ยววันละ 1 เม็ด เท่านั้น ซึ่งเป็นเม็ดเคี้ยวที่ไม่มีเจลาติน ไม่มีน้ำตาล แต่ได้รับความหวานจากผลไม้ จึงทานง่าย ปลอดภัยด้วยคุณภาพที่ดีที่ได้มาตรฐานจากออสเตรเลีย จึงให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันที่ดีในทุกวัน

รสชาติ ส้ม
วิธีการรับประทานต่อวัน 2-8 ปี 1 เม็ด, 9 ปี ขึ้นไป 2 เม็ด
ปริมาณต่อขวด 75 เม็ด
เหมาะกับช่วงอายุ 2 – 9 ปี

วิตามินแบบเคี้ยว Blackmores


วิตามินแบบเคี้ยวได้ยี่ห้อนี้ จะเข้ามาเติมเต็มสารอาหารหลักอย่าง สังกะสี, วิตามินซีและดีแอนด์อี สามารถทานได้ตั้งแต่อายุ 2-12 ปี เพียงแค่เคี้ยวให้ละเอียดวันละ 1 เม็ด หลังอาหารเวลาใด ก็ได้ ซึ่งเป็นสูตรที่ใส่ใจต่อลูกน้อยเป็นพิเศษ ไม่มีสารแต่งสี, ไม่แต่งกลิ่นและปราศจากสารให้ความหวานเทียม จึงทำให้ลูกน้อยปลอดภัยมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง  เจริญเติบโตได้ดีและมีพัฒนาการที่สมวัย

รสชาติ ส้ม
วิธีการรับประทานต่อวัน 1 เม็ด
ปริมาณต่อขวด 75 เม็ด
เหมาะกับช่วงอายุ 2 – 12 ปี

หากคุณพ่อคุณแม่ทานวิตามินแบบเม็ดยาหรือแบบแคปซูลใส เพื่อเสริมสารอาหารให้กับร่างกายอยู่เป็นประจำ แล้วคิดว่าจะแบ่งให้ลูกน้อยทานด้วยได้ไหม ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งในวัยเด็กเล็กแล้ว สิ่งที่จะเหมาะสมกับเค้ามากที่สุดก็คือ วิตามินแบบเคี้ยว ที่ไม่ติดคอ ทานง่าย ที่จะช่วยให้เค้ามีความสนุกในการรับประทาน ดึงดูดให้เด็ก ๆ มีความสนใจที่จะทานอาหารเสริมได้แบบง่าย ๆ พร้อมคุณค่าจากสารอาหารที่เพียงพอสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องมากังวลเรื่องสารอาหารที่เค้าจะได้รับในแต่ละวัน ทำให้มั่นใจได้มากยิ่งขึ้นว่าลูกน้อยจะเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ สมวัย มีสารอาหารเพียงพอทุกวัน