Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

TOP 5 ลิปบาล์มสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยน

TOP 5 ลิปบาล์มสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี ปกป้อง อ่อนโยน

หากเราปล่อยให้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำร้ายริมฝีปากของลูกน้อยคงไม่ดีแน่ เมื่อไหร่ที่ลูกน้อยมีอาการริมฝีปากแห้งเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น, อาการแพ้ง่าย, การใช้ยาหรือภาวะโรคภัยต่าง ๆ ที่มีส่วนทำให้ปากลูกน้อยแห้งแตกเป็นขุย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ในเบื้องต้นนั้นก็คือ การเลือกใช้ลิปบาล์มให้กับลูกน้อย เพื่อเป็นการบำรุงริมฝีปากลูกน้อยให้อ่อนนุ่ม เนียนเนื้อลิปจะช่วยทำให้ปากลูกน้อยไม่แตกง่าย เป็นการปกป้องลูกน้อยได้อย่างอ่อนโยน ด้วยการเติมความชุ่มชื้นที่ล้ำลึกให้กับเค้า เรามาดูกันว่าควรเลือกแบบไหนดี

วิธีการเลือกลิปบาล์มสำหรับเด็ก

ปราศจากสารเคมีอันตราย

อาทิ พาราเบน, สารกันเสีย, สีปรุงแต่ง, กลิ่นสังเคราะห์ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อริมฝีปากลูกน้อยได้

เลือกจากคุณสมบัติพิเศษ

คุณสมบัติพิเศษในลิปบาล์มเด็กอย่าง การเสริม SPF 10 เพื่อปกป้องปากลูกน้อยจากแสงแดด ในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องพาลูกน้อยออกไปเที่ยวนอกบ้านเผชิญกับแสงแดดทุกช่วงเวลา แต่ควรสังเกตุให้ดีว่าไม่มีสารเบนโซฟีโนนหรือออกติโนเซท เพราะเป็นสารเคมีที่อันตรายต่อเด็กนั่นเอง

เลือกที่เป็นออร์แกนิก

หากส่วนผสมเป็นแบบออร์แกนิก 100% หรือส่วนผสมจากธรรมชาติยิ่งดี จะทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่า ลิปบาล์มที่ลูกน้อยใช้จะปลอดภัยต่อเค้าจริง ๆ ช่วยปกป้องเค้าได้อย่างเต็มที่โดยไร้กังวล

5 ลิปบาล์มสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023

ลิปบาล์ม Burt’s Bees


ด้วยยอดซื้อซ้ำสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นลิปบาล์มแท่งโปรดของคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนจากส่วนผสมธรรมชาติ 100% น้ำมันเมล็ดพืชหลายชนิดโดยเฉพาะส่วนผสมจากน้ำมันเมล็ดทับทิมออร์แกนิก จึงช่วยบำรุงริมฝีปากให้ลูกน้อยได้อย่างอ่อนโยน เนียนนุ่มอวบอิ่ม ไม่แห้งกร้าน ฟื้นฟูการอักเสบของริมฝีปากที่แห้งแตกได้เป็นอย่างดี ไม่มีสีสังเคราะห์ ไม่มีสารเคมีอันตราย จึงใช้ได้อย่างปลอดภัยทุกวัน

มี SPF
ปราศจากพาราเบน
ปราศจากน้ำหอม
เหมาะกับช่วงวัย เด็กเล็ก 6 เดือนขึ้นไป

ลิปบาล์ม KARAYA


ด้วยนวัตกรรมการวิจัยคุณประโยชน์จากข้าวก่ำ ที่อุดมไปด้วยวิตามินอีและวิตามินซีสูง นำมาพัฒนาต่อยอดเป็นลิปบาล์มแบบออร์แกนิก ทำให้คุณพ่อคุณแม่ถูกใจเป็นอย่างมาก นำไปบำรุงฝีปากให้กับลูกน้อย ลดอาการปากแห้ง, ปากแตก, ปากลอก ได้ดีกว่าที่เคยเป็นมา ไม่มีการผสมสารเคมีอันตรายใด ๆ ไม่แต่งสีสังเคราะห์, ไม่มีน้ำหอม และไม่มีส่วนผสมของปิโตรเลี่ยมเจล นอกจากนี้ยังมีน้ำมันรำข้าว, น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, น้ำมันงาสกัดเย็น, น้ำมันมะรุมสกัดเย็นและไขผึ้งบริสุทธิ์ ที่ช่วยดูแลริมฝีปากลูกน้อยได้ดีมาก ๆ

มี SPF
ปราศจากพาราเบน
ปราศจากน้ำหอม
เหมาะกับช่วงวัย เด็กเล็ก 6 เดือนขึ้นไป

ลิปบาล์ม Lovella Organics


เป็นลิปบาล์มที่ลูกน้อยยอมให้ทาริมฝีปากได้ง่ายที่สุด ด้วยกลิ่นแบบหอมหวานคล้ายขนมแบบวนิลลาที่วางตัวเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่สามารถทานได้เลย จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากลูกน้อยเผลอชิมลิปเข้าไปก็ยังปลอดภัย ช่วยทำให้ริมฝีปากลูกน้อยนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านแตกง่าย ได้รับมาตรฐานจากอย. และฮาลาล ทาแล้วปากไม่เกิดคราบขาว มี SPF ปกป้องริมฝีปากจากแสงแดดได้ถึง 15 เท่า

มี SPF
ปราศจากพาราเบน
ปราศจากน้ำหอม
เหมาะกับช่วงวัย เด็กเล็ก

ลิปบาล์ม Baby Sebamed


ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างเชียร์บัตเตอร์, โจโจบาออยล์, วิตามินอีและขี้ผึ้งธรรมชาติ ช่วยบำรุงฝีปากให้กับลูกน้อยไม่ให้ปากแตกแห้งง่าย ลดอาการระคายเคืองจากน้ำลายหรือสิ่งสกปรกใด ๆ ได้อีกด้วย ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถปกป้องริมฝีปากให้ลูกน้อยได้อย่างอ่อนโยน ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดเลยทีเดียว

มี SPF
ปราศจากพาราเบน
ปราศจากน้ำหอม
เหมาะกับช่วงวัย เด็กเล็ก

ลิปบาล์ม Wakodo


ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ แบบฉบับมาตรฐานนำเข้าจากญี่ปุ่น ที่อ่อนโยนต่อริมฝีปากของลูกน้อยมาก ลดอาการระคายเคืองลดการอับเสบที่ริมฝีปากได้ดีมาก ลดรอยแตกแห้งกร้าน ทำให้ปากลูกน้อยนุ่มชุ่มชื้น จากส่วนผสมหลัก Olive oil, Sunflower seed oil, Jojoba oil เป็นลิปที่ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังแล้วว่าอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้จริง

มี SPF
ปราศจากพาราเบน
ปราศจากน้ำหอม
เหมาะกับช่วงวัย เด็กเล็ก

คุณพ่อคุณแม่ที่อยากปกป้องริมฝีปากให้กับลูกน้อยเป็นพิเศษ ควรเลือกลิปบาล์มที่มีคุณค่าจากธรรมชาติแบบ 100% มาให้ลูกน้อยใช้อยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยทำให้ริมฝีปากของลูกน้อย เนียนนุ่ม ดูสุขภาพดี แต่สิ่งที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษก็คือ ลิปที่นำมาทาให้กับปากลูกน้อยนั้น ควรเลือกคุณภาพที่ดีที่สุด ปลอดภัยไร้สารเคมีอันตราย เพราะลูกน้อยอาจจะเผลอเลียริมฝีปากตอนไหนก็ได้ จะทำให้เค้าอาจจะได้รับสารเคมีจากลิปโดยตรง ซึ่งคงไม่ปลอดภัยแน่ หากใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายของลูกน้อยได้นั่นเอง