Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

มาตั้งรับเมื่อลูกเป็นไข้หวัดครั้งแรก

คำว่า “ไข้หวัด” น่าจะเป็นชื่อโรคที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเพราะมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนทุกคนไม่เว้นฤดูกันเลยทีเดียวขึ้นอยู่กับจังหวะว่าจะไปเจอกับมันเข้าตอนไหน ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งกับวัยของเด็กแรกเกิด เด็กวัยเตาะแตะ และเด็กทุกวัยยิ่งเกิดอาการของโรคนี้ได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่เยอะเลยเพราะยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากพอที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสมากนักนั่นเอง แต่โรคไข้หวัดนั้นมีรายละเอียดอย่างไร แล้วเมื่อเป็นเด็กๆ จะมีอาการอย่างไร แล้วควรจะดูแลรักษาอย่างไรกันดีมากรู้ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

มาเริ่มรู้จักกับไข้หวัดหวัดกันก่อน

หวัดคือโรคที่มีการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนบนซึ่งจะกระทบกับจมูกเป็นหลักแต่ถ้าจะให้บอกว่าเชื้อไวรัสมากจากไหนก็อาจจะยากเกินไปเพราะหวัดสามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อไวรัสกว่า 200 ชนิดเลยทีเดียว และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้หวัดหลายเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดโรคหนึ่งนั่นเอง

โดยเฉพาะกับเด็กๆ เป็นวัยที่ภูมิคุ้มกันต่างๆ ยังไม่แข็งแรงมากเท่าไรนักจึงมักติดหวัดอยู่บ่อยๆ ถ้าจะให้ลองเฉลี่ยนออกมาให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าเด็กๆ ติดหวัดได้บ่อยแค่ไหนตอนนี้ค่าเฉลี่ยที่เด็กๆ จะติดหวัดในแต่ละปีก็อยู่ที่ประมาณ 6-12 ครั้งต่อปีกันเลยทีเดียว

แล้วอาการของไข้หวัดจะเป็นอย่างไรบ้าง

อาการของหวัดแม้จะไม่หนักหนามากนักแต่ก็สร้างความน่ารำคาญให้กับทั้งตัวเด็กที่ป่วยและผู้ปกครองได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะการเป็นหวัดอาจจะมีอาการของทั้งการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกไหล และไข้มาร่วมด้วยโดยที่อาการเหล่านี้จะคงอยู่ประมาณ 7-10 วัน แต่ในบางกรณีก็อาจจะอยู่นานถึงประมาณ 3 สัปดาห์กันเลยทีเดียว

สำหรับอาการของการเป็นไข้นั้นจะเริ่มนับเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงถึง 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปนั่นเอง และเด็กๆ จะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดเนื้อปวดตัวเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหากพบว่าลูกมีไข้ที่ดูแล้วจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ควรพาไปแพทย์เพื่อตรวจดูอาการให้ละเอียดจะดีกว่า

ในส่วนของการดูแลและรักษาไข้หวัดอย่างถูกต้องควรทำอย่างไรดี

ก่อนจะไปลงลึกถึงวิธีการดูแลรักษาอยากขอฝากถึงวิธีการป้องกันไข้หวัดเบื้องต้นไว้ให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบกันเอาไว้ก่อนนั่นก็คือการให้ลูกดื่มน้ำผลไม้สดบ่อยๆ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอย่างน้ำส้ม น้ำฝรั่ง น้ำมะนาว เป็นต้น และก็ยังสามารถให้ลูกทานผลไม้ต่างๆ เพิ่มเสริมวิตามินซีในร่างกายได้อีกด้วยถือว่าเป็นการป้องกันที่ทั้งอร่อยและได้ประโยชน์กันอย่างแน่นอน

มาพูดถึงเรื่องราวของการดูแลรักษาไข้หวัดกันต่อดีกว่า ถ้าลูกยังเป็นแค่หวัดหมายความว่ายังไม่มีอุณหภูมิในร่างกายสูงถึงเกณฑ์ที่เป็นไข้ก็ไม่ต้องให้เขาทานยาหรือทำอะไรที่มากไปกว่าการให้ดื่มน้ำเยอะๆ ให้ลูกกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่น และเพิ่มเติมด้วยการทำให้ร่างกายอบอุ่นและนอนพักผ่อนให้เพียงพอนั่นเอง และช่วยลูกบรรเทาอาการคัดจมูกด้วยการหมั่นทาวิคส์ที่อกและคอเพื่อช่วยให้ลูกหายใจได้สะดวกขึ้นและก็หมั่นคอยล้างจมูกให้ลูกด้วยน้ำเกลืออีกทางก็จะเป็นการช่วยรักษาอาการหวัดเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าลูกเกิดมีไข้เข้ามาร่วมด้วยนั่นก็คืออุณหภูมิในร่างกายของเขาสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปนั้นก็ควรที่จะเช็ดตัวให้เขาด้วยน้ำอุ่น ให้ทานยาลดไข้สำหรับเด็ก อย่าให้เขาต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพราะจะทำให้ร่างกายระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ ยกเว้นถ้าลูกมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วยก็ค่อยหาผ้าหรือเสื้อที่พอให้ความอบอุ่นได้ให้เขาใส่ และที่สำคัญถ้าลูกเกิดเป็นไข้หวัดแต่ยังอายุน้อยกว่า 1 เดือนนั้นก็ไม่จำเป็นต้นให้ยาบดไข้ทำการเช็ดตัวไปเรื่อยๆ เพียงอย่างเดียวได้

การดูแลลูกที่ป่วยเป็นไข้หวัดคุณพ่อคุณแม่เองก็มีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันตัวเองไม่ให้ติดหวัดลูกไปอีกคนด้วยไม่ว่าจะเป็นการใส่ผ้าปิดปากเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และอาจจะให้ลูกหยุกโรงเรียนเพื่อลาป่วยและจะได้ไม่ไปแพร่เชื้อให้กับเด็กๆ คนอื่นๆ ด้วยนั่นเอง