Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

มารู้ทันสัญญาณเตือนโรคมะเร็งในเด็กกัน

โรคมะเร็งเป็นโรคที่ถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้วล่ะก็น่าจะทำให้เกิดทั้งความเครียดและความวิตกกังวลได้ไม่น้อยเลยทีเดียวซึ่งโรคมะเร็งนั้นก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็กๆ ด้วยเช่นเดียวกัน และที่สำคัญโรคมะเร็งนั้นยังเป็นอาการที่สังเกตได้ยากกว่าการป่วยแบบทั่วไป จนบางทีรู้ตัวอีกทีก็สายเกินจะแก้กันไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นเราลองมารู้ทันอาการและสัญญาณเตือนจากร่างกายลูกที่บ่งบอกถึงโรคมะเร็งกันไว้ก่อนดีกว่า

มาจับสัญญาณของโรคมะเร็งและเร่งแก้ไขให้ทันดีกว่า

  1. มีเลือดกำเดาไหลออกมาบ่อยๆ นี่คือหนึ่งในอาการพื้นฐานของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมียซึ่งถ้าดูจากสถิติแล้วนั้นเด็กไทยในช่วงอายุต่ำกว่า 15 ปี มักจะเป็นกันมากเลยทีเดียวและมะเร็งชนิดนี้ยังเป็นมะเร็งที่นับว่าเด็กๆ เป็นกันมากที่สุดในหมู่โรคมะเร็งทั้งหลายอีกด้วย
  2. มีแผลแล้วมีอาการติดเชื้อแบบเรื้อรัง การมีแผลถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กๆ ชอบมีกันเพราะด้วยความซุกซนและเล่นทำกิจกรรมต่างๆ แต่หากแผลนั้นเป็นแล้วเกิดอาการติดเชื้อแบบเรื้อรังทำอย่างไรก็ไม่มีทีท่าจะหายไปง่ายๆ นี่คืออาการที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทันกันแล้วเพราะมันคือสัญญาณที่อาจจะบ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายซึ่งอาจจะเป็นโรคมะเร็งได้นั่นเอง
  3. ต่อมน้ำเหลืองที่คอโตผิดปกติ ส่วนมากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนั้นมักจะเกิดขึ้นในเด็กช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี และอาการที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตเห็นได้ถึงความผิดปกติหรืออาการคอโตผิดปกตินั้นก็อาจจะเป็นสัญญาณบอกถึงโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้อีกด้วย
  4. น้ำหนักของลูกลดลงอย่างไม่มีสาเหตุ ในเมื่อกิจวัตรประจำวันและอาหารการกินที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมไว้ให้เขานั้นก็ทานกันปกติและก็ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรที่ใช้การออกแรงให้มีผลกับการลดน้ำหนักด้วยแล้วนั้นการที่ลูกน้ำหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัดคือข้อควรระวังของการเกิดโรคมะเร็งและแม้จะไม่ใช่โรคมะเร็งการผอมลงอย่างไม่มีสาเหตุก็เป็นสิ่งที่ต้องรีบพาไปตรวจสุขภาพให้ละเอียดจากแพทย์ให้ดีจะถือว่าปลอดภัยที่สุด
  5. อยู่ๆ ก็มีก้อนเนื้อแปลกๆ โผล่ขึ้นมา เพียงแค่มีก้อนเนื้อที่พวกคุณสามารถสังเกตถึงมันได้นั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้วแถมยังอาจจะลามไปถึงเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้อีกด้วยอย่างที่แจ้งกันไปแล้วว่าแพทย์คือผู้ให้คำตอบในเรื่องนี้ได้ดีที่สุดนั่นเอง
  6. ปวดหัว เด็กเล็กนั้นส่วนใหญ่แล้วไม่มีอาการปวดหัวเข้ามารบกวนชีวิตของพวกเขามากเท่าไรนักแต่ถ้าเกิดเป็นขึ้นมาแล้วแถมยังปวดมากจนพวกเขาทนไม่ไหวนี่คือสิ่งที่ต้องการความใส่ใจจากคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมากเพราะมันอาจจะมีสาเหตุมาจากอาการมีเนื้องอกในสมองซึ่งเกิดมาจากมีแรงกดดันในกะโหลกมากขึ้นนั่นเอง
  7. เจ็บกระดูก เมื่อตรวจสอบดูแล้วลูกก็ไม่ได้หกล้มหรือได้รับบาดเจ็บอะไรแต่กลับมีอาการเจ็บปวดกระดูกนี่อาจจะเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งต่อมหมวกไตได้เลยทีเดียว เพราะไม่ใช่เด็กปกติที่อยู่ๆ จะเกิดอาการเจ็บกระดูกขึ้นมาอย่างแน่นอน
  8. ชัก เชื่อเลยว่าถ้าลูกมีอาการนี้ขึ้นมาคุณพ่อคุณแม่จะไม่นิ่งนอนใจแน่นอนคงรีบพาลูกไปพบแพทย์แต่ถ้าอาการนี้มันยังเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็อาจจะต้องให้แพทย์ช่วยวิเคราะห์และติดตามผลอาการไปเรื่อยๆ เพราะมันอาจจะมีสาเหตุมาจากการเกิดเนื้องอกในสมองก็เป็นได้
  9. สังเกตได้ว่าลูกมีการมองเห็นที่ไม่ดีนัก เป็นไปได้ว่าลูกอาจจะแค่มีอาการผิดปกติทางสายตาเช่น สายตาสั้น ยาว เอียง แต่ถ้าเกิดว่าพาไปจัดการสายตากันมาแล้วแต่ลูกยังคงเห็นเป็นภาพซ้อน มองไม่ถนัด ตาเบลอ หรือสายตาอาจะแย่ลงเรื่อยๆ นี่ไม่ดีแน่เพราะอาจจะเป็นสัญญาณบอกถึงเนื้องอกในสมองได้เช่นเดียวกัน
  10. อาเจียนบ่อยๆ การทานอาหารหรือขนมต่างๆ อาจจะเป็นไปได้ว่าลูกอาจเกิดอาการหาอาหารเป็นพิษก็ควรดูแลตามอาการกันไปแต่หากอยู่ๆ ลูกเกิดอาเจียน เวียนหัวกันแบบไม่สามารถหาสาเหตุได้นี่คือสัญญาณที่ควรรีบพาลูกพุ่งไปพบแพทย์โดยเร็ว

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ประโยคนี้คงเป็นประโยคที่ใครๆ ก็ต่างเห็นด้วยแน่นอนเพราะว่าการไม่มีโรคทำให้เด็กๆ นั้นสามารถมีพัฒนาการและทักษะต่างๆ เป็นไปตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็นทั้งยังส่งผลดีต่อใจพ่อแม่ทุกคนที่ไม่ต้องมาคอยกังวลเป็นห่วงว่าโรคภัยไข้เจ็บจะมาพรากลูกไปและได้มีโอกาสที่จะส่งเสริมเขาให้เป็นไปตามแนวทางที่ควรจะเป็น

แต่หากสิ่งที่เรียกว่าโรคภัยได้เกิดขึ้นแล้วการมีสติ ให้กำลังใจ และทำให้ทุกคนรวมทั้งตัวลูกห่างไกลจากความเครียด ความกังวลแล้วนั้น โรคภัยอาจจะเป็นตัวบอกถึงความเข้มแข็งและความพร้อมที่จะรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ในวันข้างหน้าได้ดีเช่นเดียวกัน