Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

5 ข้อคิดก่อนเลือกคนนี้มาเป็นคู่ครอง

การคบหากันจนไปถึงขั้นของการตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตและสร้างอนาคตร่วมกันนั้นแม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเรื่องของความรู้สึกและจิตใจเป็นหลักแต่การที่คนสองคนจะเลือกเดินทางร่วมกันไปจนตลอดชีวิตนั้นกลับต้องมีปัจจัยอื่นๆ มาร่วมมากกว่านั้นโดยมีความรักเป็นตัวเริ่มต้น

ไม่มีหลักการหรือสิ่งที่ถูกต้องแน่นอนมาบอกคุณได้ว่านี่คือความสัมพันธ์ที่ดีมีเพียงแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะร่วมกันตัดสินใจและวัดใจกันกับทางเดินที่กำลังจะร่วมกันเดินไปข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตามการที่ใกล้กันมากเกินไปนั้นอาจจะทำให้คุณทั้งสองมองไม่เห็นพื้นฐานของการคิดจะเริ่มต้นชีวิตร่วมกันชัดเจนเท่าไรนัก วันนี้เลยจะขออนุญาตยก 8 ข้อมาให้คิดได้ลองคิดพิจารณากันก่อนที่จะเลือกว่าคนนี้แหละคือคนที่คุณพร้อมแล้วที่จะอยู่และฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกันจนวันสุดท้าย

มาเริ่ม Check List ก่อนการตัดสินใจกันดีกว่า

1.ทั้งคุณและเขาเป็นคนที่พอใจซึ่งกันและกัน

เริ่มต้นมาตั้งแต่หน้าตา นิสัยใจคอ ท่าทาง คำพูดคำจา ความรู้สึกนึกคิด เรียกได้ว่าทุกอย่างทุกเรื่องแม้ว่าจะไม่ใช่นิสัยหรือสิ่งที่ดีแต่คุณยังรู้สึกรับและปรับตัวได้อย่างไม่ฝืนใจและทำให้คุณรู้สึกจมทุกข์เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คุณต้องเจอไปอีกนานถ้าจะถามว่านานแค่ไหนเมื่อคุณตัดสินใจแต่งงานเป็นคู่ชีวิตกันแล้วมันก็นานเท่ากับจนลมหายใจสุดท้ายของคุณนั่นเอง เอาล่ะถ้ารู้สึกไม่ขัดตาขัดใจก็ถือว่าผ่านหนึ่งในคุณสมบัติที่จะเลือกเขาหรือเธอคนนี้มาเป็นคู่ครองมีแผนชีวิตและครอบครัวไปด้วยกันแล้ว

2.เปิดใจให้กันได้

ถ้าเริ่มต้นด้วยการมีทัศนคติที่เข้ากันได้นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่งแล้วไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเหมือนกันแต่คุณเข้าใจกันและมีความแตกต่างที่ลงตัวก็ย่อมได้เช่นเดียวกัน ให้คุณคือคนที่พูดกันแล้วรู้เรื่องเข้าใจได้เลยว่าอีกฝ่ายมีความรู้สึกอย่างไร และถ้ามีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องของความสัมพันธ์หรือเรื่องอื่นๆ มากไปจนถึงเรื่องที่ไม่กล้าจะพูดกับใครแล้วคุณทั้งสองคนสามารถเปิดใจพูดคุยกันได้ก็นี่แหละคืออีกหนึ่งคุณสมบัติของเพื่อนคนสำคัญในชีวิตที่คุณควรครองคู่ไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี

3.ชื่นชมในตัวของกันและกันเสมอ

แม้ว่าคุณทั้งสองคนอาจจะโตมาคนละแบบสนใจกันคนละเรื่องแต่ยังคงเห็นความสำคัญและคุณค่าที่อีกฝ่ายทำอยู่เสมอพร้อมทั้งชื่นชมและกล้าเตือนด้วยความจริงใจ นี่คือพื้นฐานที่ดีของการใช้ชีวิตร่วมกัน รู้สึกได้ว่าเหมือนคนในครอบครัวที่ไม่ได้มีผลประโยชน์ต่อกันแต่มีคุณค่ากับจิตใจและเป็นกำลังใจที่สำคัญในการดำเนินชีวิตซึ่งกันและกัน

4.ต่างคนต่างมีพื้นฐานในการพึ่งตัวเอง

ในข้อนี้จำเป็นเพราะว่าในอนาคตจะได้ไม่เป็นการยึดติดกันมากจนเกินไปเหมือนให้คนที่เป็นสามีเป็นคนเดียวที่จะหารายได้เข้าบ้านและเป็นคนที่ต้องตัดสินใจทุกอย่างในบ้านและครอบครัวนี่น่าจะเป็นการสร้างความเครียดให้ฝ่ายที่ต้องแบกรับมากจนเกินไปและทำให้ฝ่ายที่ต้องคอยตามอึดอัดได้หากความคิดเห็นไม่ตรงกันแต่ก็ไม่สามารถขัดแย้งได้ การสร้างครอบครัวที่ดีมาจากการแชร์กันและรับฟังกันร่วมกันรับผิดชอบและตัดสินใจสิ่งต่างๆ โดยยังมีพื้นฐานของตัวเองรองรับอยู่เช่นกันและถ้าในอนาคตคุณมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาแล้วปลูกฝังให้เขาเป็นคนที่รู้จักพึ่งตัวเองและกล้าตัดสินใจก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ อีกเรื่องหนึ่งเช่นเดียวกัน

5.พากันมองโลกในแง่บวก

แตกต่างจากการโลกสวยอย่างสิ้นเชิงเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่มากพอจะสร้างครอบครัวร่วมกันนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการมองโลกในแง่บวกมาร่วมด้วยมากๆ เพราะคุณต้องเจออุปสรรคกันมากมายและหากมีแต่สาดความคิดในแง่ลบใส่กันก็รับรองว่าโดนความเครียดเข้ามาทักทายและทำให้บรรยากาศในครอบครัวไม่สดใสและมีความสุขเหมือนเดินแน่นอน จริงอยู่ว่าไม่มีทางที่คุณจะมองโลกในแง่บวกได้ตลอดเวลาแต่การมีเพื่อนคู่คิดข้างๆ และคอยมอบให้กันแต่ความคิดดีๆ ก็ช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้เยอะเลย

อย่างที่ได้บอกไปว่าไม่มีมาตรฐานหรือข้อคิดใดๆ ที่จะแนะนำการเลือกคู่ชีวิตและการใช้ชีวิตคู่ให้กับคุณได้อย่าง 100% ทุกอย่างเป็นเพียงแนวทางความน่าจะเป็นเท่านั้นเพราะการใช้ชีวิตคู่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะมากที่ต้องเผชิญร่วมกันทั้งปัจจัยของคนสองคน สภาพแวดล้อมและสังคมภายนอก แต่ถ้าพื้นฐานของคุณทั้งสองคนรู้จักกันดีแล้วว่ามีความใจกว้าง มีน้ำใจเปิดรับสิ่งต่างๆ และมีความอดทนมากพอก็พอจะเดาได้ว่าชีวิตคู่ของคุณก็น่าจะมีสิ่งดีๆ รออยู่อย่างแน่นอน