Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

เรียนแบบโฮมสคูล (Home School) อิสระทางการศึกษา ที่ครอบครัวยุคใหม่เลือกได้

เรียนแบบโฮมสคูล Home School อิสระทางการศึกษา ที่ครอบครัวยุคใหม่เลือกได้

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในช่วงใกล้วัยที่จะต้องเข้าเรียน อาจจะกำลังหาข้อมูลเรื่องการเรียนกันอยู่ ปัจจุบันสังคมเรามีหลายสิ่งอย่างที่เป็นทางเลือก เชน อาหารทางเลือก การรักษาแบบทางเลือก ด้านการเรียนก็มีเช่นกันคะ กับการเรียนทางเลือกหรือโฮมสคูล (Home School)


คุณแม่หลายท่านอาจจะกำลังมองหาที่เรียนให้ลูก แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้เรียนที่ไหนอยู่รึป่าวคะ เดี๋ยวนี้มีทางเลือกใหม่ที่ทำให้คุณแม่ไม่ต้องห่างลูกน้อยไปไกล โดยตัวคุณแม่เองก็สามารถเป็นคุณครูและแบบอย่างที่ดีให้กับลูกได้…

การเรียนแบบโฮมสคูล (Home School)

โฮมสคูล การจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งได้ระบุประเภทของการจัดการศึกษาดังกล่าวในประเทศไว้ 3 ประเภทด้วยกัน คือ

  1. การจักการศึกษาในระบบห้องเรียน
  2. การจัดการศึกษานอกระบบห้องเรียน และ
  3. การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งประชาชนมีสิทธิเลือกรูปแบบเองได้

การเรียนโฮมสคูล (Home School) คือ อะไร?

โฮมสคูล (Home School) คือ การศึกษาทางเลือก มีการเรียนการสอนจากครอบครัว ซึ่งเน้นจากวิถีชีวิตจากบรรยากาศที่เกิดขึ้นจริง และเน้นการเรียนการสอนตามความสนใจของเด็กเป็นสำคัญ โดยมีคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองเป็นผู้ชี้แนะ ซึ่งมีสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย สามารถเทียบโอนผลการศึกษาได้

การศึกษาโดยครอบครัว หมายถึง การศึกษาขั้นพื้นฐานที่ครอบครัวจัดโดยสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งมีรูปแบบการจัดการศึกษาแบบใดแบบหนึ่งหรือทั้งสามรูปแบบ ของการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย อย่างมีการเทียบโอนผลการศึกษาได้
ข้อมูลอ้างอิง familynetwork.or.th

โฮมสคูล (Home School) เรียนอะไรบ้าง?

การเรียนแบบโฮมสคูลจะยึดที่เด็กเป็นศูนย์กลางโดยพิจารณาว่าลูกชอบเรียนด้านไหน เช่น ลูกชอบการวาดรูป ระบายสี ก็เริ่มให้ลูกฝึกวาดจากสิ่งของใกล้ตัวก่อน แล้วค่อยเริ่มขยายไปวาดภาพธรรมชาติ และขยายไปในส่วนของการเพิ่มประสบการณ์โดยการพาลูกไปดูนิทรรศการศิลปะตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงให้เขาได้เข้าร่วมการเรียนศิลปะและพูดคุยกับคนที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ เพื่อเพิ่มกรอบความสามารถให้กับลูกค่ะ

ขั้นตอนการทำโฮมสคูล (Home School) ในประเทศไทย

การเรียนการสอนแบบโฮมสคูลนั้น ครอบครัวได้รับสิทธิตามรัฐธรรมนูญ พรบ.การศึกษา และกฎกระทรวงฯ ให้สามารถจัดการศึกษาได้ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น คือ ระดับชั้นอนุบาล ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 **ส่วนระดับชั้นอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัย ยังไม่อนุญาตค่ะ**

การทำโฮมสคูล (Home School) มีขั้นตอนดังนี้

ระดับปฐมวัย (อนุบาล)

ในระดับนี้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเขตพื้นที่การศึกษาว่าจะอนุญาตให้ครอบครัวจดทะเบียนเพื่อจัดการศึกษาบ้านเรียนได้หรือไม่ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ต.ค. 55 ไม่อนุญาตให้จดทะเบียนในบางเขตพื้นที่การศึกษา โดยอ้างว่า ไม่จำเป็นต้องจด ให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกไปเองก่อน ค่อยมายื่นจดทะเบียนตอนระดับประถมศึกษา

ระดับประถมศึกษา

คุณพ่อคุณแม่สามารถยื่นขออนุญาตจดทะเบียน และจัดการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาตามภูมิลำเนาได้เลยค่ะ

ระดับมัธยมศึกษา

**ระดับนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพื้นที่เขตการศึกษา**

ดังนั้น ครอบครัวจะต้องยื่นขออนุญาตจดทะเบียนขอจัดการศึกษากับหน่วยงาน ดังนี้

  • สำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา
  • ลงทะเบียนเป็นนักเรียนกับการศึกษานอกระบบ (กศน.)
  • ลงทะเบียนเป็นนักเรียนกับการจัดการศึกษาทางไกล

**ทั้งนี้ ครอบครัวจะได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี/เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาเช่นเดียวกันกับโรงเรียนในระบบค่ะ**

โฮมสคูล (Home School) มีลักษณะเด่นอย่างไร?

  • การเรียนไม่ว่าจะวิชาใดก็ตามคุณพ่อคุณแม่จะเป็นคนที่รับผิดชอบโดยตรง เพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเองทั้งหมด หรือในบางรายอาจเป็นการจัดร่วมกันระหว่างครอบครัวและโรงเรียนก็ได้เช่นกัน
  • ครอบครัวจะถูกจัดตั้งให้เป็นศูนย์การเรียนครอบครัวเดี่ยว หรือศูนย์การเรียนกลุ่มครอบครัว แต่บางครอบครัวอาจไม่สะดวกที่จะเป็นศูนย์การเรียน ก็สามารถทำได้ค่ะ
  • การเรียนโฮมสคูลแบบนี้จะเป็นการตอบสนองต่อความสนใจ ความต้องการ และสามารถแก้ปัญหาเรื่องการเรียนของลูกที่มีความชอบที่ต่างกันไปได้ดีค่ะ
  • เมื่อความสำเร็จทางการศึกษาเน้นเป็นรายบุคคล ซึ่งจะมีความสอดคล้องกับความถนัด และความต้องการของลูกจริง ๆ และสอดคล้องกับวิถีชีวิต
  • การเรียนแบบโฮมสคูลเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัว
  • เป็นการศึกษาที่ไม่ใช่แสวงหาผลกำไร และไม่ได้เป็นไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก

ข้อดีของการเรียนโฮมสคูล

  • คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกได้เต็มที่ เป็นการสานสายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
  • คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดหลักสูตรการเรียนการสอน หรือแม้กระทั่งปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับลูกได้ ดูว่าสิ่งไหนหรือเวลาไหนจะเหมาะสมกับการเรียนรู้อะไร จะทำให้ลูกรู้สึกสนุกไปกับการเรียนค่ะ
  • ไม่มีการเปรียบเทียบเรื่องผลการเรียน ลูกจะเรียนด้วยความรู้สึกที่ไม่ต้องมีอะไรมากดดัน เพราะไม่ต้องสอบแข่งขันกับใคร ทำให้ไม่เกิดความรู้สึกว่าตัวเองเรียนด้อยกว่าคนอื่น
  • การเรียนรู้ของลูก สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะลูกจะไม่ได้รู้สึกว่ามีเวลาปิดเทอมหรือเปิดเทอม ทำให้ชีวิตในทุกวันของลูกมีความสุขและสนุกไปกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ค่ะ
  • คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะโดนแกล้ง
  • คุณพ่อคุณแม่จะเห็นได้ชัดเจน และรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าลูกมีพรสวรรค์ด้านไหน เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่ผลักดันเค้า เพื่อให้เค้าได้ไปถึงฝันได้เร็วมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยคุณพ่อคุณแม่ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าแรกเข้า ค่าชุดนักเรียน ค่าหนังสือ ฯลฯ
  • เพราะการเรียนรู้ของลูกจะเกิดขึ้นตลอดเวลาโดยที่เค้าไม่รู้ตัว ดังนั้น ลูกจะมีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตมากกว่าอยู่ในห้องเรียนเสียอีก

ข้อเสียของการเรียนโฮมสคูล

  • ไม่เหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่มีเวลาอยู่กับลูก หรือมีเวลาน้อย การเรียนการสอนแบบโฮมสคูล (Home School) นั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเวลาให้เค้ามากเพียงพอ ไม่อย่างนั้นเค้าจะเกิดทัศนคติไม่ดีต่อการเรียน ทำให้ลูกไม่อยากเรียนหนังสือ
  • การที่ลูกไม่ได้เข้าโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยตอบข้อสงสัยของลูกอยู่บ่อยๆ ว่าทำไมตนเองไม่เหมือนคนอื่นๆ จนบางครั้งอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ลังเลว่าที่ตัดสินใจทำแบบนี้…ถูกหรือเปล่า
  • คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนและใจเย็นมากๆ ในวันที่ลูกไม่อยากเรียนหนังสือ
  • คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผนหลักสูตรการเรียนการสอนให้ดี ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นลูกเราเรียนอ่อนกว่าเพื่อนคนอื่นในชั้น ส่งผลกระทบต่อจิตใจ และไม่อยากไปเรียนได้ค่ะ
  • หาข้อมูลจากผู้ปกครองหรือคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเรียนโฮมสคูลเหมือนกัน เพื่อขอคำแนะนำ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน
  • หากมีโอกาส พาลูกไปพบปะกับคนที่เรียนโฮมสคูลเหมือนกัน เพื่อเป็นการทำความรู้จักและลูกจะได้มีสังคมค่ะ

การเรียนแบบโฮมสคูลนับเป็นอีกหนึ่งอิสระทางการศึกษาที่คุณพ่อคุณแม่และลูกสามารถเลือกเองได้ กำหนดเองได้ และเพื่อเป็นการนำเสนอให้รอบด้าน “Home school ข้อดี ข้อเสีย ข้อมูลควรรู้ก่อนการตัดสินใจ” คุณพ่อคุณแม่สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ค่ะ ก่อนการตัดสินใจ


เรียนแบบโฮมสคูล (Home School) จะดีไหม ลูกจะรู้สึกแปลกแยกหรือเปล่า? ติดตามข้อดี ข้อเสียของการเรียนแบบโฮมสคูล เพื่อประกอบการตัดสินใจได้จากบทความนี้เลยค่ะ คลิกที่นี่