Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

มาสอนลูกให้รู้จักเอาตัวรอดกัน

ปัจจุบันในสังคมของเรามีทั้งด้านที่ดีที่ควรให้ลูกออกไปเรียนรู้และด้านที่ไม่ดีที่ลูกก็ควรรู้และเข้าใจเอาไว้เช่นเดียวกัน เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถที่จะตามไปคอยดูแลลูกได้ตลอดเวลาและต้องมีบางเวลาที่จำเป็นต้องปล่อยให้เขาอยู่นอกสายตาคุณไปและนั่นคือสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับลูกและหากมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นล่ะ การสอนให้ลูกรู้เท่าทันสิ่งเหล่านี้เอาไว้น่าจะช่วยให้คุณอุ่นใจกันได้มากขึ้นกว่าหรือไม่ และการสอนการรู้เท่าทันเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้จะกลายเป็นทักษะที่ค่อยๆ พัฒนาแข็งแรงขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

มาเริ่มปูพื้นฐานเอาตัวรอดให้ลูกกัน

1.สอนให้ลูกเข้าใจความไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน

การบอกเล่าให้ลูกฟังถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันนั้นถือเป็นการค่อยๆ กรอกข้อมูลให้เข้าไว้ในคลังเรื่อยๆ เพื่อที่ถ้าบังเอิญลูกไปเจอเหตุการณ์ที่มีความคล้ายคลึงกันอาจจะคิดถึงและนำวิธีป้องกันตัวที่คุณสอนต่อจากการเล่าเหตุการณ์นั้นๆ ไปปรับใช้ได้นั่นเอง

แม้ว่าดูจะเป็นเรื่องที่ยังยากสำหรับเด็กๆ ที่จะคิดวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ที่เจอแต่การเล่าให้ฟังเอาไว้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

2.เทรนให้ลูกกลายเป็นเด็กช่างสังเกต

สติ สมาธิ และปัญญาคือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังให้ลูกเอาไว้ตั้งแต่ยังเด็กเพื่อที่จะให้เขาเติบโตไปและมีสิ่งเหล่านี้ติดตัว ความมีสติจะทำให้เขาสามารถสังเกตเห็นได้ถึงสิ่งต่างๆ รอบตัวรวมไปถึงสิ่งผิดปกติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย

และนอกจากการสังเกตคุณพ่อคุณแม่ยังจำเป็นที่จะต้องสอนให้ลูกรู้จักการจดจำสิ่งต่างๆ ที่สำคัญอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ของพวกคุณหรือผู้ดูแล รวมทั้งที่อยู่อาศัยและสถานที่ใกล้เคียง เป็นต้น

3.มอบทักษะเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันเอาไว้ให้ลูก

การวิ่ง การว่ายน้ำรวมทั้งศิลปะการป้องกันตัวต่างๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรให้ลูกได้ฝึกสิ่งเหล่านี้เอาไว้เพราะร่างกายที่แข็งแรงและคุ้นเคยกับทักษะต่างๆ จะมีความคล่องแคล่วในการเอาตัวรอดมากยิ่งขึ้นนั่นเองและอย่าลืมสอนให้เขารู้ว่าทักษะไหนควรเอาไว้ใช้ตอนไหนและไม่เอาไปใช้ให้ผิดสถานการณ์เช่น การเอาไปรังแกคนอื่น เป็นต้น

4.เอาตัวเองรอดได้ก็ต้องไม่ลืมช่วยเหลือคนอื่น

ความมีน้ำใจนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่คุณควรสอนให้ลูกมีติดตัวเอาไว้และเมื่อเขามีทักษะการเอาตัวรอดพร้อมทั้งป้องกันตัวอยู่กับตัวแล้วนั้นเขาก็ย่อมจะมีโอกาสเอาตัวรอดได้ก่อนคนอื่นๆ อยู่แล้วแต่เมื่อเขารอดแล้วยังมีช่องว่างพอที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือคนอื่นด้วยแล้วนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาควรทำ

ไม่ใช่เพียงในสถานการณ์ที่เขาต้องตกอยู่ในอันตรายเท่านั้นหากเขาบังเอิญไปพบเห็นคนอื่นกำลังมีปัญหาแล้วมีความสามารถพอที่จะช่วยได้คุณพ่อคุณแม่ก็ควรสอนให้เขารู้จักได้ทำในสิ่งเหล่านั้นด้วย

การเอาตัวรอดนั้นหากได้เริ่มปลูกฝังไว้ให้กับลูกๆ แล้วทักษะเหล่านี้จะสามารถพัฒนาไปได้ตามกาลเวลาและลูกของคุณจะสามารถโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีทักษะในการเอาตัวรอดที่ดีแน่นอนและไม่จำเป็นเฉพาะให้สถานการณ์อันตรายเท่านั้น การเอาตัวรอดในการอยู่ในสังคมและปรับตัวให้เหมาะสมก็จะค่อยๆ พัฒนามาจากการสอนเขาไว้ตั้งแต่เล็กๆ ด้วยเช่นเดียวกัน