Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

คนท้องกินสลัดผักได้ไหม ผัก และผลไม้อะไรที่ห้ามทาน

คนท้องกินสลัดผักได้ไหม ผัก และผลไม้อะไรที่ห้ามทาน

ขึ้นชื่อว่า “ผักและผลไม้” แน่นอนว่าต้องมีประโยชน์ “สลัด” ก็เป็นเมนูหนึ่งที่เป็นที่นิยมของสาว ๆ แต่สำหรับคนท้อง อาหารที่จะทานเข้าไปต้องเลือกกันซักนิดค่ะ เพราะบางอย่างก็ส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายคุณแม่เอง และลูกน้อย

5 ผักดิบที่แม่ท้องไม่ควรทาน

กะหล่ำปลี

สารกอยโตรเจน (Goitrogen)” เป็นสารอาหารที่พบมากในผักตระกูลกะหล่ำปลี ซึ่งเมื่อรับสารอาหารนี้เข้าสู่ร่างกายมาก ๆ จะส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ถูกขัดขวางการทำงาน ซึ่งต่อไทรอยด์จะทำหน้าที่ดักจับไอโอดีน ไม่สามารถสร้าง Tyrosine จนทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอกได้ นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายนำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อย แต่ถ้าคุณแม่อยากทานกะหล่ำปลีจริง ๆ แนะนำว่าควรทำให้สุกก่อนค่ะ เพราะสารกอยโตรเจนจะถูกทำลายได้ด้วยการผ่านความร้อน

หน่อไม้

ในหน่อไม้ดิบจะมี “สารไซยาไนด์” ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งจะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เวียนหัว มึนงง หากร่างกายรับสารนี้เข้าไปมาก ๆ สารนี้จะไปเกาะกับฮีโมโกลบินซึ่งเป็นตัวที่ลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ฮีโมโกลบินไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างปกติ ร่างกายจะขาดออกซิเจน หมดสติ หรือถ้ารุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

จากการศึกษาพบว่า ถ้านำหน่อไม้ไปต้มก่อนจะช่วยลดปริมาณสารไซยาไนด์ได้

  • ถ้าต้มในน้ำเดือดนาน 10 นาที ไซยาไนด์จะหายไปได้ 91%
  • ถ้าต้มในน้ำเดือดนาน 20 นาที ไซยาไนด์จะหายไปได้ 98%
  • และถ้าต้มในน้ำเดือดนาน 30 นาที ไซยาไนด์จะไม่หลงเหลืออยู่เลย

ผักโขม

ผักโขมเป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่มีไฟเบอร์สูง แต่ในผักโขมดิบจะมีสารอันตรายอย่าง “กรดออกซาเลต” ในปริมาณที่สูง ส่งผลให้มีการขับสังกะสี และแคลเซียมออกจากร่างกายมาก ในบางรายหากรับสารนี้ในปริมาณมากจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแคลเซียม และสังกะสี ที่สำคัญยังไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกายอีกด้วยค่ะ

ถั่วฝักยาว

ภาพที่คุ้นชินสำหรับการทานถั่วฝักยาวดิบก็คือ เป็นผักเคียงของส้มตำ อาหารอิสานที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องสำหรับสาว ๆ หรือไม่ก็เป็นผักเคียงในเมนูน้ำพริกของไทยเรา แต่ถั่วฝักยาวดิบมีแก๊สค่อนข้างสูง โดยเฉพาะแก๊สคาบอนไดออกไซด์ มีเทน และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หากแม่ท้องทานในปริมาณมากอาจส่งผลให้ท้องอืด อึดอัดได้ค่ะ

ถั่วงอก

ที่เราเห็น ๆ กันก็มักจะใส่ในก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวหลอด ขนมจีน แต่ในถั่วงอกดิบจะมี “สารไฟเตต” ในปริมาณที่สูง สารไฟเตตนี้จะเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมธาตุแคลเซียม สังกะสี เหล็ก รวมถึงแร่ธาตุสำคัญตัวอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่ท้องนะคะ

5 ผลไม้ที่แม่ท้องไม่ควรทาน

แตงโม

ถ้าสำหรับคนทั่วไปที่ไม่คนท้อง แตงโมอาจจะดีแง่ที่ช่วยล้างสารพิษ และมอบความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย แต่สำหรับคนท้องที่ทานแตงโมอาจส่งผลให้เป็นโรคเบาหวานได้ เพราะในแตงโมมีความหวาน มีน้ำตาลในปริมาณสูงนั่นเอง

สับปะรด

เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่สาว ๆ หลายคนชอบทาน ทานได้ค่ะ หากไม่ได้ท้อง สำหรับแม่ท้องควรเลี่ยง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เพราะในสับปะรดอุดมไปด้วย “สารโบนมีเลน (Bromelain)” ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สามารถสลายโปรตีนได้ ซึ่งสิ่งนี้เองจะส่งผลให้ปากมดลูกอ่อนตัวลง เสี่ยงต่อภาวการณ์คลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้สารโบรมีเลนอาจทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดได้

องุ่น

หลายคนทราบดีว่าที่เปลือกองุ่นมีสารพิษ ซึ่งเจ้าสารตัวนี้คือ “เรสเวอราทรอล (Resveratrol)” แม้ว่าในงานวิจัยบางตัวระบุว่าสารเรสเวอราทรอลนั้นเป็นสารที่ดีแต่ก็เฉพาะกับคนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ถ้าหากแม่ท้องรับสารนี้เข้าไปจะส่งผลต่อตับอ่อน ซึ่งตับอ่อนทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นั่นแปลว่าหากแม่ท้องทานองุ่นเข้าไป อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้

กล้วย

อย่าเพิ่งตกใจค่ะ จริง ๆ แล้วแม่ท้องยังพอจะทานกล้วยได้บ้าง เพียงแต่แม่ท้องบางท่านที่ควรงดทานกล้วยก็เฉพาะในกรณีที่มีความเสี่ยงหรือมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคเบาหวาน และโรคภูมิแพ้ได้ เนื่องจากในกล้วยมี “สารไคติเนส” ซึ่งลักษณะคล้ายยางที่นำไปสู่อาการภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้กล้วยเป็นผลไม้มีฤทธิ์ร้อน อาจเป็นการเพิ่มความร้อนให้กับร่างกายแม่ท้องได้ ดังนั้น ก่อนทานกล้วยต้องมั่นใจก่อนนะคะว่าคุณแม่ไม่ได้อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานนะคะ

ลำไย

หลายคนทราบกันดีว่าลำไยเป็นผลไม้ที่มีรสหวานมาก ให้พลังงานที่สูงมาก ดังนั้น การที่แม่ท้องทานลำไยจะทำให้ฮอร์โมนอินซูลินทำงานไม่ปกติ เพราะฉะนั้นจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมคะว่าถ้าแม่ท้องทานลำไย อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานได้ค่ะ

จริง ๆ แล้วผักและผลไม้ทุกชนิดมีทั้งโทษและประโยชน์ในตัวเองที่ต่างกัน หากไม่ใช่คนท้องจะทานอะไรก็ไม่ต้องระมัดระวังมาก แต่กับคนท้องเราไม่ใช่แค่ทานอะไรก็ได้แล้ว เพราะเรามีอีกหนึ่งชีวิตน้อย ๆ ที่ต้องดูแล เพราะฉะนั้นก่อนจะทานอะไรคุณแม่ลองหาข้อมูลดูซักนิดนะคะ หรือไม่ก็ปรึกษาคุณหมอว่าอะไรที่ทานได้ และอะไรที่แม่ท้องควรเลี่ยง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงทั้งคุณแม่และลูกน้อยนะคะ