“น้ำผึ้ง” หลายคนทราบกันดีค่ะว่ามีประโยชน์ แต่สำหรับคนท้องแล้ว การที่จะกินอะไรซักอย่าง ต้องพิจารณาให้ดี เพราะเราต้องมีหน้าที่ดูแลอีกหนึ่งชีวิตน้อยในท้อง สิ่งนี้เองจึงทำให้คุณแม่ท้องหลาย ๆ คนไม่มั่นใจว่า “คนท้องจะกินน้ำผึ้งได้ไหม”
สารบัญ
คนท้องกินน้ำผึ้งได้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า?
แม่ท้องสามารถกินน้ำผึ้งได้ค่ะ แต่…ต้องเป็นน้ำผึ้งที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้น ไม่ควรกินน้ำผึ้งดิบ (Raw Honey) เพราะอาจส่งผลให้คุณแม่เป็นโรคโบทูลิซึม (Botulism) ได้ โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มีความอันตรายเท่ากับการที่เราห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ กินน้ำผึ้งเลยค่ะ เพราะระบบการย่อยอาหารของเด็กเล็กยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่
ต่างกันกับผู้ใหญ่หรือคุณแม่ท้องที่สามารถกินน้ำผึ้งได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เนื่องจากระบบการย่อยอาหารของผู้ใหญ่พัฒนาได้เต็มที่แล้ว และมีแบคทีเรียตามธรรมชาติที่ช่วยป้องกัน Clostridium Botulism หรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคโบทูลิซึม และยังช่วยไม่ให้เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวถูกส่งต่อไปยังลูกน้อยในครรภ์อีกด้วยค่ะ
ประโยชน์ของน้ำผึ้งที่มีต่อแม่ท้อง
ช่วยให้หลับสบายมากขึ้น
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติเป็นยาระงับประสาทอ่อน ๆ ช่วยให้คุณแม่ท้องนอนหลับพักผ่อนได้ดีขึ้น ก่อนนอนให้คุณแม่ใส่น้ำผึ้งลงในนมอุ่น ๆ ดื่มก่อนนอนนะคะ จะช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
น้ำผึ้งมีสารที่ต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ ไม่เพียงแค่นั้นค่ะ น้ำผึ้งยังสามารถรักษาบาดแผลจากการถูกมีดบาด บาดแผลเปิดต่าง ๆ แผลไหม้ ที่สำคัญ ช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้อีกด้วยค่ะ
แก้ไข้ และบรรเทาอาการไอ
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านและยับยั้งการทำงานของเชื้อไวรัสได้ดี ป้องกันไข้หนาวสั่นได้ บรรเทาอาการไอ ถึงแม้ว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับก็ตาม
ที่บ้านให้น้องมินกินทุกวันค่ะ วันละ 1 ช้อนชา เริ่มกินเมื่อเขาอายุประมาณ 2 ขวบ ตอนนี้ปอดดีมากค่ะ เวลาไม่สบายก็ไอน้อยลง
บรรเทาอาการเจ็บคอ
เนื่องจากน้ำผึ้งมีคุณสมบัติลดการระคายคอ นำน้ำผึ้งไปผสมกับน้ำขิง หรือน้ำมะนาวอุ่น ๆ จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ค่ะ
บรรเทาอาการภูมิแพ้
บรรเทาได้เพียงภูมิแพ้บางประเภทเท่านั้นนะคะ เช่น ลดอาการภูมิแพ้อันเกิดจากละอองเกสร หรือภูมิแพ้อากาศค่ะ
รักษาสุขภาพของหนังศีรษะ
น้ำผึ้งช่วยขจัดรังแค และอาการคันบนหนังศีรษะได้ค่ะ โดยนำไปผสมน้ำอุ่น แล้วชโลมลงบนหนังศีรษะ ทิ้งไว้สักครู่ แล้วค่อยสระออกตามปกติ
ข้อควรระวัง หากกินน้ำผึ้งขณะท้อง
ทุกอย่างทีทั้งคุณและโทษค่ะ มีเรื่องอะไรบ้างที่คุณแม่ท้องต้องระวังหากจะกินน้ำผึ้ง
- ความหวานของน้ำผึ้งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้ความต้านทานอินซูลินต่ำลง
- ไม่ควรกินน้ำผึ้งเกิน 25 กรัม ต่อวัน โดยน้ำผึ้ง 3 – 5 ช้อนชา ร่างกายจะได้รับปริมาณแคลอรีเท่ากับ 180 – 200 แคลอรี หรือเท่ากับ 60 แคลอรีต่อ 1 ช้อนชาค่ะ
- อาจส่งผลให้มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก หรือท้องอืดได้ เพราะน้ำผึ้งจะทำให้ร่างกายมีความเป็นกรด ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร การย่อยอาหารจะช้าลง
- อาจทำให้ฟันผุได้ เพราะน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตาลที่สูง
- คุณแม่ท้องต้องระวัง หากกินน้ำผึ้งมากไป อาจทำให้น้ำหนักเกินเกณฑ์ได้
กินน้ำผึ้งอย่างไรให้ได้ประโยชน์
- ไม่ควรใส่น้ำผึ้งในน้ำร้อน เพราะความร้อนจะทำให้เอนไซม์ที่มีประโยชนในน้ำผึ้งนั้นสูญเสียไป วิตามินต่าง ๆ ก็หายไปด้วย ดังนั้น ควรใส่น้ำผึ้งในน้ำอุ่นเท่านั้นค่ะ
- ไม่ควรกินน้ำผึ้งพร้อมอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินดี เนื่องจากน้ำผึ้งจะยับยั้งการดูดซึมของวิตามินดังกล่าวได้
- ไม่ควรกินน้ำผึ้งกับนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ จะส่งผลให้อาหารไม่ย่อย
วิธีการเลือกน้ำผึ้ง
- สำหรับคุณแม่ท้องควรกินน้ำผึ้งที่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรือผ่านการพาสเจอไรส์แล้ว หากไม่แน่ใจแนะนำให้สอบถามกับผู้ผลิตค่ะ
- ควรเลือกกินน้ำผึ้งออร์แกนิค ไม่ผ่านกระบวรการอื่น ยกเว้นกระบวนการฆ่าเชื้อ เพราะอาจเสี่ยงกับสิ่งปนเปื้อน
- แม่ท้องสามารถกินน้ำผึ้งมานูก้าได้ แต่ถ้าไม่แน่ใจ ควรปรึกษาคุณหมอก่อนค่ะ
อาหารทำอย่างมีประโยชน์ แต่อาจเป็นโทษสำหรับแม่ท้อง เพราะฉะนั้นก่อนกินอะไร ศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อนนะคะ เพื่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์