เพราะคุณแม่ท้องอาจมีหลายอย่างที่ทำให้กังวล เครียด และนอนไม่หลับ จนส่งผลกระทบต่อทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในท้อง เพราะการนอนไม่หลับก็เท่ากับร่างกายพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังไม่สามารถข่มตาให้หลับได้สักที ไม่เป็นไร มาลองกันใหม่ วันนี้โน้ตรวบรวมเอาเทคนิคต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณแม่หลับได้ไวขึ้นมาฝากค่ะ
12 สิ่งที่แม่ท้องควรทำ หากอยากหลับไว
พยายามฝืน ไม่นอนกลางวัน
ปกติแล้วคนท้องมักจะง่วง และเพลียบ่อย จึงต้องการการพักผ่อนที่มากกว่าคนปกติทั่วไป แต่ถ้าคุณแม่นอนกลางวันเต็มที่แล้วก็ทำให้กลางคืนจะหลับยาก ถ้าเป็นไปได้พยายามไม่นอนในช่วงกลางวัน แต่ถ้าทนไม่ไหว หนังตาจะปิดให้ได้ คุณแม่ก็งีบได้ค่ะ แต่ไม่ควรเกิน 1 ชม. นะคะ (แอบกระซิบว่าตอนโน้ตท้องนี่ หลับแค่ 15 นาทีเองค่ะ วันต่อ ๆ มาร่างกายก็ชิน ก็หลับประมาณนี้ทุกวัน) และที่สำคัญหากเกินเวลา 16:00 น. ไปแล้ว ไม่ควรนอนแล้วนะคะ เพราะกลางคืนจะหลับยาก
เลี่ยงคาเฟอีน (Caffeine)
คาเฟอีนมีในอาหารอะไรบ้าง? อาทิ ชา กาแฟ ชาเขียว โกโก้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ยาบางชนิด เหล่านี้คุณแม่ควรเลี่ยง 4 – 6 ชั่วโมงก่อนนอน (ถ้างดไม่กินเลยจะดีมากค่ะ เพราะจะมีผลกับลูกในท้อง) เนื่องจากคาเฟอีนมีหน้าที่ไปกระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้สมองตื่นตัว เป็นสาเหตุให้นอนไม่หลับค่ะ
คาเฟอีนสามารถออกฤทธิ์นานได้ถึง 6 – 7 ชั่วโมง คุณแม่จึงไม่ควรกินมากนัก แต่ถ้าเลิกไม่ได้จริง ๆ ให้กินได้ในช่วงเช้าประมาณ 1 – 2 แก้ว นะคะ
งดแอลกอฮอล์
งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ วิสกี้ ภายใน 4 – 6 ชั่วโมงก่อนนอน จริงอยู่เครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้คุณแม่รู้สึกง่วงได้ แต่ก็เป็นเพียงช่วงแรกของการดื่มเท่านั้นค่ะ หลังจากนั้นอาการปวดหัว จะตามมาทำให้หลับไม่สนิท และตื่นได้ง่าย
เลิกบุหรี่
ในบุหรี่มีสารนิโคติน (Nicotine) แม่ท้องควรเลี่ยง เอ่อ…ไม่สิ จริง ๆ ควรเลิกเลยจะดีที่สุดค่ะ สารนิโคติน ทำหน้าที่กระตุ้นสมองให้ตื่นตัว ส่งผลให้นอนไม่หลับ แต่สำหรับใครที่สามารถเลิกบุหรี่ได้ ร่างกายก็จะสามารถพักผ่อนได้เต็มที่ และตื่นกลางดึกน้อยลง
เลี่ยงยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท
อาทิ ยาขยายหลอดลม (Bronchodilator) รวมถึงยาแก้คัดจมูกบางชนิด อาทิ Pseudoephedrine ช่วงก่อนนอน เพราะยาดังกล่าวจะทำหน้าที่กระตุ้นสมอง ทำให้นอนไม่หลับได้ แต่ถ้าหากคุณแม่ท้องจำเป็นต้องกินยา ควรเปลี่ยนยาแต่ก็ให้อยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอนะคะ
ไม่ควรกินอาหารที่ย่อยยาก
เช่น เนื้อสัตว์ หรืออาหารที่มีรสเผ็ดจัดภายใน 3 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะจะทำให้อึดอัด และท้องอืดได้ ทำให้คุณแม่หลับยากอีกเช่นกัน และที่สำคัญ อาจทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนได้ ซึ่งจะมีอาการแสบร้อนกลางหน้าอก
อย่ากินเยอะ
ข้อนี้ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องของเนื้อสัตว์หรืออาหารรสเผ็ดจัดอย่างเดียวนะคะ แต่หมายรวมทั้งหมด ไม่ว่าคุณแม่ท้องจะกินอะไรก็ตาม พยายามอย่ากินให้เยอะจนเกินไปก่อนเวลานอน 3 – 4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้อึดอัด และอาจเกิดกรดไหลย้อนได้เช่นกันค่ะ
ไม่ออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนนอน
ไม่ควรออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนเข้านอน 4 – 6 ชั่วโมง แต่ให้เปลี่ยนมาออกกำลังกายในช่วงเช้าแทน และควรเป็นการออกกำลังเบา ๆ อย่าง โยคะ หรือแค่การยืดกล้ามเนื้อก็พอค่ะ
ไม่เครียด เก็บทุกเรื่องเข้าลิ้นชักไปก่อน
ก่อนนอนให้คุณแม่เก็บทุกเรื่องเข้าลิ้นชักไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม และไม่ควรดูรายการทีวีที่ต้องมีการแข่งขัน หรือดูภาพยนตร์ที่ตื่นเต้น หวาดกลัว หรือการทะเลาะกัน เพราะเหล่านี้จะรบกวนการนอนคุณแม่ได้มากเลยทีเดียว
ไม่ควรใช้ยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลานาน
ไม่ควรใช้ยานี้เกิน 1 เดือน ยกเว้นว่าอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอ
งดกิจกรรมอื่น ๆ บนเตียง
อาทิ อ่านหนังสือ ทำงาน ดูซีรีย์ ดูละคร หรือฟังวิทยุ เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ที่คุณแม่ดูหรือฟังก่อนนอนจะวนเวียนอยู่ในหัว ทำให้นอนไม่หลับค่ะ
นั่งสมาธิ หรือสวดมนต์
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีค่ะ เพราะตอนท้องโน้ตก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน ได้ผลดีมากเลย ยกเว้นบางวันก็นอนไม่หลับ ไม่ใช่อะไรนะคะ เพราะลูกดิ้นค่ะ อ่ะ…กลับเข้าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ คุณแม่สามารถเลือกในแบบที่คุณแม่สะดวกได้เลยค่ะ
ร่างกายที่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ย่อมจะส่งผลดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ (อย่าว่าแต่เฉพาะคุณแม่ท้องเลยค่ะ คนปกติทั่วไปก็จำเป็นเช่นกัน) จากเทนคนิคที่กล่าวมาข้างต้น คุณแม่ค่อย ๆ ทยอยนำไปปรับใช้ทีละข้อสองข้อดูนะคะ ดูว่าแบบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์คุณแม่มากที่สุด เป็นกำลังใจให้ค่ะ