“กล้วยน้ำว้า” หนึ่งในหลาย ๆ ชนิดของตระกูลกล้วยที่มีประโยชน์มาก สามารถกินได้ตั้งแต่ลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่…หลายคนอาจสงสัยว่าสำหรับคนท้องแล้วจะกินกล้วยน้ำว้าได้ไหม มากหรือน้อยแค่ไหน แล้วที่ว่ากันว่าตามความเชื่อคนโบราณนั้นการกินกล้วยน้ำว่าจะทำให้คลอดยากจริงหรือ ทั้งหมดนี้จะมีที่มาอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ
สารบัญ
ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า
รักษาโรคกระเพาะอาหาร
แต่ต้องเป็นกล้วยน้ำว้าดิบนะคะ เนื่องจากในกล้วยน้ำว้าดิบจะมีสารหนึ่งชื่อว่า แทนนิน ที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และมีสารเซโรโทนิน ที่ช่วยให้กระเพาะอาหารผลิตเยื่อเมือกมากขึ้นจึงเป็นการช่วยเคลือบแผลที่กระเพาะ ลดการระคายเคืองและอาการแสบร้อนลงได้
ดับกลิ่นปาก
ให้ทานแบบสุกนะคะ โดยกินก่อนแปรงฟันในช่วงเช้า กินต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ กลิ่นปากจะลดลงและหายไปได้ค่ะ
เป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
กล้วยน้ำว้าสุกมีดัชนีน้ำตาลต่ำ มีค่า GI ที่ 37 ถือว่าน้อย การกินกล้วยน้ำว้าสุกจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้อย่างช้า ๆ จึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
แคลเซียมสูง
โดยเฉพาะเมื่อนำกล้วยน้ำว้าสุกไปผ่านความร้อน อาทิ กล้วยปิ้ง กล้วยต้ม หรือกล้วยบวชชี ร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมได้ดีมากขึ้น 5 – 6 เท่า
ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย
กล้วยน้ำว้าสุกช่วยแก้อาการท้องผูก เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ละลายในน้ำได้ดี จึงช่วยในเรื่องการขับถายให้คล่องขึ้น
ป้องกันโรคโลหิตจาง
ในกล้วยน้ำว้าสุกมีธาตุเหล็กสูงที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี
ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า
ในกล้วยสุกมีสารทริปโตเฟนที่ช่วยคลายเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ ทำให้อารมณ์ดีขึ้น
ช่วยให้นอนหลับสนิท หลับสบาย
สำหรับใครที่นอนไม่ค่อยหลับ หรือเป็นคนที่หลับยาก ลองกินกล้วยน้ำว้าก่อนนอนสัก 1 ลูกดูนะคะ รับรองว่าหลับสบายตลอดคืน
ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
กล้วยน้ำว้าสุกจะช่วยในเรื่องการกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ส่งผลให้ย่อยอาหารได้ง่ายมากขึ้น กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป
บรรเทาอาการท้องเสีย
เนื่องจากในกล้วยน้ำว้าดิบจะมีสารที่ชื่อว่า แทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งเชื่อแบคทีเรีย เพียงแค่นำผงกล้วยน้ำว้าดิบมาชงดื่ม ก็สามารถบรรเทาอาการได้
ความเชื่อคนโบราณ ห้ามกินกล้วยน้ำว้า เพราะจะคลอดยาก
เนื่องจากในสมัยก่อนวิวัฒนาการทางการแพทย์ยังไม่เจริญเท่าปัจจุบัน การคลอดลูกจึงอาศัยการคลอดตามธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันหากคลอดทางธรรมชาติไม่ได้ แพทย์ก็จะพิจารณาการคลอดด้วยวิธีอื่น ๆ ที่เหมาะสมได้ค่ะ
คนท้องกินกล้วยเท่าไหร่ถึงจะดี
แม้ว่ากล้วยน้ำว้าจะไม่ได้ส่งผลร้ายต่อคุณแม่ท้องก็ตาม แต่การที่กินมากไปก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ การกินกล้วยน้ำว้าให้พอดีสำหรับคุณแม่ท้องควรอยู่ที่ 2 ลูก/วัน ไม่ควรเกินจากนี้
คนท้องกินกล้วยอื่น ๆ ได้ไหม
นอกจากกล้วยน้ำว้าคุณแม่ท้องสามารถกินกล้วยอะไรอีก?
กล้วยหอม เป็นกล้วยอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์ไม่แพ้กล้วยน้ำว้า ประโยชน์ของกล้วยหอม เช่น ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการแพ้ท้อง เพราะในกล้วยหอมอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ เช่น เกลือโปรแตสเซียม กรดอะมิโน ธาตุเหล็ก น้ำตาลซุกโคส ฟรุคโตส และกลูโคส ที่ร่างกายคุณแม่สามารถนำไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้ยังให้พลังงาน มีกากใยที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาอาการท้องผูกได้ดี แต่ก็ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไปนะคะ เพราะอาจทำให้คุณแม่ท้องมีอาการท้องอืดแน่นได้ค่ะ ควรกินไม่เกิน 1 ลูก/วัน
หากคุณแม่ท้องกินกล้วยน้ำว้าในปริมาณที่เหมาะสมก็จะยิ่งทำให้คุณแม่มีร่างกายที่แข็งแรง ลูกน้อยก็จะเจริญเติบโตได้ดี มีน้ำหนักที่ตรงตามเกณฑ์ ซึ่งนอกจากกล้วยน้ำว้าแล้ว มีอาหารอะไรอีกบ้างที่จะช่วยเพิ่มน้ำหนักลูกน้อยในครรภ์ได้ (คลิกที่นี่ >> “กินอะไรเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ ที่ดีต่อคุณแม่และลูกน้อย”
