สมุนไพรที่ทำให้ตกเลือด แม่ท้องควรรู้

ก่อนการตั้งครรภ์ไม่แปลกหากคุณแม่จะเคยกินสมุนไพรเพื่อเป็นการบำรุงร่างกาย แต่หากตอนนี้คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่ การจะกินสมุนไพรชนิดใดนั้นต้องหาข้อมูลกันก่อนค่ะ เพราะบางอย่างนอกจากจะไม่ได้เป็นการบำรุงลูกน้อยในครรภ์แล้ว อาจยังส่งผลให้ตกเลือดได้อีกด้วย ซึ่งสมุนไพรบางชนิดห้ามกินเลย แต่ก็มีบางชนิดที่กินได้แต่น้อย

สมุนไพรที่มีผลต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

ดอกคำฝอย

สรรพคุณ ดอกคำฝอย

ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

ด้วยความที่ดอกคำฝอยมีสรรพคุณในการช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย มีฤทธิ์ช่วยในการขับประจำเดือน ส่งผลให้เกิดการตกเลือด หรือเกิดภาวะแท้งได้

ตังกุย หรือ โกฐเชียง

สรรพคุณ ตังกุย หรือ โกฐเชียง

ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

ตังกุยมีสรรพคุณที่ช่วยในการฟอกเลือด และช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิตให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่…นี่ก็จะส่งผลให้เกิดการบีบรัดตัวของมดลูกด้วยเช่นกัน

ดอกกระทกรก

สรรพคุณ ดอกกระทกรก

ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

ด้วยความที่ผลดิบมีฤทธิ์เมาเบื่อ หากคุณแม่กินเข้าไปอาจส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะ และอาเจียนได้

แบล็คโคโฮส

สรรพคุณ แบล็คโคโฮส

ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
มีฤทธิ์ในการกระตุ้นฮอร์โมนผู้หญิงให้สูงขึ้น ดังนั้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์กินเข้าไปก็จะส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่มีความผิดปกติได้

สมุนไพรที่มีผลต่อลูกน้อยในครรภ์

โกลเด้นซีล

สรรพคุณ โกลเด้นซีล

ผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์

มีผลโดยตรงต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ พัฒนาการทางสมองล่าช้า หรือหากมีอาการรุนแรงอาจเกิดความพิการทางสมองได้

อีเฟรดา

สรรพคุณ อีเฟรดา

ผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์

เนื่องจากอีเฟรดามีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและหัวใจ ดังนั้น หากกินสมุนไพรตัวนี้เข้าไปอาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายของลูกน้อยได้

สมุนไพรที่กินได้ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน

เปปเปอร์มินต์

สรรพคุณ เปปเปอร์มินต์

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

เปปเปอร์มินท์เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ช่วยให้ความสดชื่น และช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ก็ยังต้องระวังในเรื่องอาการแพ้ หรืออาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เกิดอาการวิงเวียนมากกว่าเดิม

คาโมมายล์

สรรพคุณ คาโมมายล์

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

หากคุณแม่จะกินคาโมมายล์ ควรกินแต่น้อย ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ

โรสแมรี่

สรรพคุณ โรสแมรี่

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

เนื่องจากโรสแมรี่เป็นสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ดังนั้น ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์นะคะ

เพราะแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแลลูกน้อยในครรภ์อีกหนึ่งชีวิต (ซึ่งร่างกายของคุณแม่เองก็ต้องดูแลเช่นกัน) ดังนั้น อะไรก็ตามก่อนที่คุณแม่จะนำเข้าสู่ร่างกาย ควรหาข้อมูลให้ละเอียด หรือหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะคะ