มาเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์กันดีกว่า

คู่รักหลายๆ คู่น่าจะมีการวางแผนในการเริ่มต้นชีวิตคู่กันมาเป็นอย่างดีและแน่นอนว่าย่อมจะมีแผนการสำหรับการมีลูกกันเอาไว้แล้วและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมการเตรียมตัวของคุณแม่ให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของร่างกายและจิตใจนั้นถือเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและสำคัญเป็นอย่างมากเพราะมันสามารถจะส่งผลถึงพัฒนาการต่างๆ ของลูกได้นั่นเอง

มาเริ่มเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์กันได้เลย

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคือบุคคลแรกที่คุณแม่ควรไปพบ

เมื่อไปพบแพทย์แล้วอาจจะมีการถามข้อมูลต่างๆ ทั้งจากทางคุณพ่อและคุณแม่ทั้งในด้านของสุขภาพ การใช้ยาต่างๆ ที่อาจจะสามารถส่งผลกระทบกับลูกในครรภ์ได้ รวมทั้งอาจจะถามไปถึงประวัติสุขภาพของคนในครอบครัวคนอื่นๆ ด้วยว่ามีประวัติใดที่ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษหรือไม่

นอกจากนี้ในส่วนของตัวคุณแม่เองก็จะได้รับการสอบถามในเรื่องของหากเคยมีการตั้งครรภ์มาก่อนแล้วเคยมีภาวะใดๆ แทรกแซงเข้ามาหรือไม่ เพื่อนำมาพิจารณาหาความเสี่ยงกันต่อไป รวมไปถึงปัจจัยในด้านอายุของคุณแม่ก็ต้องนำมาเพื่อวิเคราะห์การตั้งครรภ์อีกด้วย

และเมื่อมีความแน่นอนที่พร้อมจะตั้งครรภ์แล้วทางแพทย์อาจจะมีการแนะนำให้ฉีดวัคซีนต่างๆ ทั้งในช่วงก่อนการตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์และหลังตั้งครรภ์ให้กับคุณแม่เพื่อที่จะให้วัคซีนต่างๆ เหล่านี้ได้ไปทำหน้าที่ดูแลทั้งคุณแม่และลูกน้อยให้ครบถ้วนนั่นเอง

การตรวจทางด้านทันตกรรมสำหรับคุณแม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทางแพทย์จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเนื่องจากการมีฟันผุนั้นอาจจะเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในช่องปากได้ซึ่งคุณแม่ที่มีการวางแผนว่าจะตั้งครรภ์นั้นควรที่จะตรวจสุขภาพฟันให้ละเอียดก่อนการตั้งครรภ์ประมาณ 5 เดือน เพื่อที่หากว่ามีปัญหาในส่วนใดจะได้มีการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

เริ่มเลิกพฤติกรรมต่างๆ ของคุณแม่ที่มีความเสี่ยงกับลูกน้อย

เตรียมความแข็งแรงของร่างกายเอาไว้ให้พร้อม

การออกกำลังกายปกติก็เป็นเรื่องที่มีประโยชน์อยู่แล้วยิ่งถ้ามาออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดในช่วงก่อนการตั้งครรภ์ด้วยแล้วนั้นยิ่งจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับทั้งคุณแม่และลูกเป็นอย่างมาก อาจจะเริ่มจากการสำรวจว่าควรลดหรือเพิ่มน้ำหนักหรือควรไปเน้นการบริการกล้ามเนื้อส่วนใดเป็นพิเศษ

หลังจากออกกำลังกายอย่างเป็นกิจวัตรแล้วนั้นการเริ่มหันมาตรวจและคำนวณการตกไข่เพราะก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้การตั้งครรภ์เกิดขึ้นง่ายขึ้นอีกด้วย และอย่าลืมที่จะผ่อนคลายความเครียดอยู่เสมอและควรพักผ่อนให้เพียงพออีกด้วย และอย่าลืมเน้นรับประทานอาหารที่ให้วิตามินและแร่ธาตุอย่างครบถ้วน

อาหารเสริมก็สำคัญ

กรดโฟลิคเป็นสิ่งที่คุณแม่ที่วางแผนจะตั้งครรภ์จะขาดไม่ได้เลยควรเริ่มรับประทานตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ 1 เดือน ไปจนถึงระยะตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ในปริมาณ 400 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งกรดโฟลิคนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับลูกในเรื่องของความพิการทางสมอง
นอกจากนี้การทานวิตามินบี 6 ก่อนการตั้งครรภ์จนถึงช่วงสัปดาห์แรกๆ ของการตั้งครรภ์นั้นก็สามารถช่วยลดอาการแพ้ท้องให้กับคุณแม่ได้เป้นอย่างดีอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามการจะทานวิตามินหรืออาหารเสริมใดๆ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนทุกครั้ง

การเริ่มหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด

คุณแม่ที่ก่อนหน้านี้เคยรับประทานยาคุมมาอย่างต่อเนื่องนั้นเมื่อทำการเลิกทานยาคุมอาจจะมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ทันทีหรืออาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน จึงจะเริ่มมีการตกไข่อย่างเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง และสามารถสบายใจได้ว่าการตั้งครรภ์ทันทีหลังจากหยุดทานยาคุมนั้นไม่เป็นอันตรายใดๆ กับทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์

การวางแผนในการมีลูกให้ละเอียดถี่ถ้วนนั้นมีผลดีอย่างมากที่คุณพ่อคุณแม่จะสามารถวางแผนได้ทั้งในเรื่องของสุขภาพของทั้งแม่และลูก ที่อยู่อาศัยและการวางแผนการเงิน ซึ่งจะส่งผลดีกับลูกที่เกิดมาอย่างแน่นอนที่เขาจะพบเจอกับสิ่งที่เป็นแบบแผนเตรียมเอาไว้ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี