การออกกำลังกายถือเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย เพราะทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งการออกกำลังกายในปัจจุบันมีหลากหลารูปแบบเลยทีเดียว “ธาราบำบัด” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณแม่ท้องหลาย ๆ คนเลือกใช้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเตรียมความพร้อมในการให้กำเนิดลูกน้อย ดีต่อร่างกายทั้งคุณแม่และเบบี๋
สารบัญ
ธาราบำบัด (ออกกำลังกายในน้ำ) คืออะไร?
ธาราบำบัด คือการนำคุณสมบัติของน้ำมาใช้ในการรักษาโรคและความผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย เนื่องจากน้ำมีคุณสมบัติที่ทำช่วยพยุงร่างกาย ทำให้ร่างกายมีการลอยตัว ช่วยลดแรงกระแทกของข้อต่อ ซึ่งในขณะที่เราพยายามที่จะเคลื่อนไหวเร็ว ๆ ในน้ำ น้ำจะเป็นแรงต้าน เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อได้นั่นเองค่ะ
ธาราบำบัดคนท้อง
การออกกำลังกายในน้ำนับเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนท้องมาก เพราะเมื่อร่างกายคุณแม่อยู่ในน้ำ จะเกิดสภาวะไร้น้ำหนัก เพราะน้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักตัวเราไว้มากถึง 90% ช่วยลดแรงกระแทกระหว่างข้อต่อและกล้ามเนื้อ คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 3 เดือน ไปจนถึงช่วงใกล้คลอดก็ยังสามารถมาออกกำลังกายได้ โดยใช้ท่าง่าย ๆ เช่น เดินไปเดินมาในน้ำ เตะขาในน้ำ หรือย่อตัวขึ้นลงในน้ำ เป็นต้น จะส่งผลให้ข้อต่อและกล้ามเนื้อแข็งแรงค่ะ
ประโยชน์ธาราบำบัดคนท้อง
- ทำให้คุณแม่อารมณ์ดี สดชื่น เพราะความเย็นชุ่มฉ่ำของน้ำ ส่งผลดีต้อลูกน้อยในท้องเป็นเด็กอารมณ์ดี
- ช่วยระบบไหลเวียนโลหิตดี หลอดลมขยายดี ลดอาการบวมตามมือและเท้า ทำให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้เต็มที่ จึงส่งผลให้ลูกน้อยแข็งแรง
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาและกระดูกเชิงกราน เป็นการเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนคลอด โดยเฉพาะการคลอดเองจะทำให้คลอดง่าย
- ช่วยในเรื่องระบบหายใจ เพราะขณะว่ายน้ำเราต้องฝึกเรื่องการหายใจเข้า-ออกลึก ๆ ทำให้ร่างกายได้ออกซิเจนเต็มที่ ได้ฝึกการหายใจเข้า-ออกเป็นจังหวะ ทำให้เวลาที่คุณแม่คลอดเองก็จะรู้จังหวะการหายใจ ช่วยให้คลอดง่ายค่ะ
- ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อช่วงเอวและหลัง เพราะเมื่ออายุครรภ์คุณแม่มากขึ้นท้องจะใหญ่ขึ้น ดังนั้น ทำให้กล้ามเนื้อแผ่นหลังต้องทำงานหนัก เพราะต้องแบกรับน้ำหนักของลูกน้อยไว้ แต่การมาออกกำลังกายในน้ำ จะช่วยพยุงกล้ามเนื้อทุกส่วนไว้ ทำให้เวลาที่คุณแม่อยู่ในน้ำ น้ำก็จะช่วยพยุงท้องไว้เช่นกัน ทำให้กล้ามเนื้อช่วงเอวและหลังของคุณแม่ไม่ต้องทำงานหนัก
ข้อดีธาราบำบัด (ออกกำลังกายในน้ำ) ที่ส่งผลต่อเบบี๋
มีพัฒนาการทางสมองดี
เวลาที่ร่างกายของคุณแม่แช่อยู่ในน้ำ ร่างกายของคุณแม่จะได้ผ่อนคลาย เย็นสบาย จิตใจแจ่มใส ส่งผลให้ลูกน้อยในท้องรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้ สมองของลูกน้อยจะมีพัฒนาการที่ดีตามอารมณ์ของคุณแม่ไปด้วย
ช่วยพัฒนาเส้นใยสมอง
เพราะเวลาที่คุณแม่เคลื่อนไหวร่างกายในน้ำ ลูกน้อยในครรภ์จะมีการเคลื่อนไหวตามไปด้วย ลูกน้อยจะได้สัมผัสกับผนังด้านในของมดลูก ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการเส้นใยสมองส่วนรับรู้ความรู้สึก
ลูกน้อยได้ออกกำลังกายไปด้วย
ขณะที่คุณแม่เคลื่อนไหวในน้ำ หรือออกท่าทางในน้ำอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลนั้น ลูกน้อยในท้องสามารถรับรู้ได้และก็จะเคลื่อนไหวตามคุณแม่เช่นกัน เหมือนได้ออกกำลังกายไปด้วยค่ะ
ข้อควรระวังในการออกกำลังกายในน้ำคนท้อง
เป็นที่รู้กันดี ว่าทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าคุณแม่ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง
ปรึกษาคุณหมอก่อนออกกำลังกาย
เพราะสุขภาพและร่างกายของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน การออกกำลังที่ดีและถูกต้องจะต้องไม่มีอันตรายต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยนะคะ
ควรดื่มน้ำมาก ๆ
แม้ว่าการออกกำลังกายในน้ำจะเย็นสบาย แต่ก็ยังเสียเหงื่อได้อยู่นะคะ ดังนั้นก่อนลงสระ คุณแม่ควรดื่มน้ำให้มากๆ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย เพื่อทำให้ร่างกายยังมีน้ำเพียงพอ ที่สำคัญ ป้องกันการเกิดตะคริวได้อีกด้วยค่ะ
ควรมีผู้ดูแลใกล้ ๆ
เพราะหากระหว่างการออกกำลังกายในน้ำ คุณแม่เกิดอาการตะคริวขึ้นมา หรือต้องการความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ อย่างกะทันหัน จะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที
อย่าหักโหม
การออกกำลังกายในน้ำ ถึงแม้จะช่วยพยุงน้ำหนักตัวได้มากก็ตาม คุณแม่ก็อย่าหักโหมนะคะ เพียงแค่เดินไปเดินมา ย่อขึ้น-ลง เท่านี้ก็โอเคแล้วค่ะ แต่หากคุณแม่ชอบออกกำลังกายในน้ำบ่อย ๆ ก็ควรให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับ อย่าหักโหมนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะยิ่งเพลียค่ะ
เทคนิคการเลือกชุดว่ายน้ำสำหรับคุณแม่ท้อง
- ไม่ควรเป็นชุดที่รัดหน้าท้องเกินไป อาจเป็นทูพีชก็ได้นะคะ
- เนื้อผ้าควรมีความนุ่มยืดหยุ่นได้ดี ระบายอากาศดี แห้งเร็ว
ระเบียบปฏิบัติก่อนลงธาราบำบัด
- ต้องผ่านการประเมินร่างกายและการประเมินสัญญาณชีพโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดก่อนลงสระทุกครั้ง โดยคุณแม่ท้องต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ในกรณีที่มีครรภ์แฝด ครรภ์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูง ลมชักรุนแรง มีอาการแทรกซ้อน รกเกาะต่ำให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง เพื่อการดูแลเป็นพิเศษ
- ขณะลงสระต้องมีนักกายภาพบำบัด เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วย ญาติ หรือผู้เกี่ยวข้องด้วยทุกครั้ง
- ห้ามบ้วนน้ำลาย เสมหะ หรือปัสสาวะในน้ำ
- ห้ามผู้มีบาดแผลฝีหนองหรือแผลเปิดที่มีโอกาสติดเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อเข้าใช้บริการสระโดยเด็ดขาด
- สวมชุดว่ายน้ำ หมวกคลุมผม ในการลงสระและทำความสะอาดร่างกายก่อนลงสระทุกครั้ง
- กรณีผู้ป่วยหรือแม่ท้องไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ต้องแจ้งนักกายภาพบำบัดและใส่ผ้าอ้อมกันน้ำก่อนลงสระทุกครั้ง
- หากมีทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า หรือเครื่องประดับ ควรเก็บไว้ในล็อคเกอร์ หากมีการสูญหายทางสถานที่ให้บริการจะไม่รับผิดชอบ
- ห้ามนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับใช้ในสระว่ายน้ำเช่น ไม้เท้า รถเข็น ลงในสระเด็ดขาด
- ห้ามนำอาหารทุกชนิดเข้าไปรับประทานในบริเวณสระ
- ห้ามนำสัตว์ทุกชนิดเข้าไปในบริเวณสระ
- ปฏิบัติตนสุภาพเรียบร้อย เช่น ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
- ปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ทำตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดหรือเจ้าหน้าที่ประจำสระ
ธาราบำบัดเป็นการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่งที่เหมาะมากสำหรับแม่ท้อง เพราะนอกจากจะดีต่อร่างกายแล้ว ยังทำให้คุณแม่อารมณ์ดี ส่งผลให้ลูกน้อยมีอารมณ์และและเป็นเด็กฉลาดอีกด้วยค่ะ