Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

ส่วนใดของร่างกายที่ควรระวังในสถานการณ์โควิด-19

ส่วนใดของร่างกายที่ควรระวังในสถานการณ์โควิด-19

ในช่วงสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส หรือ ที่เราเรียกกันจนคุ้นปากว่า “โควิด-19” นี้เชื่อเหลือกเกินว่าหลาย ๆ ครอบครัวก็ระมัดระวังกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีทั้งเด็กเล็ก หรือ ผู้สูงอายุอยู่ร่วมภายในบ้าน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีหากทุกครอบครัวคอยช่วยกันรักษาความสะอาดมากขึ้น เพราะอย่างน้อยก็เป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคมาเยือนเราได้อย่างง่าย

เราลองมาดูกันว่าส่วนใดของร่างกายที่ควรระวังมาก ๆ ในสถานการณ์โควิด-19 นี้นะคะ เพื่อจะได้ป้องกันร่างกายกันได้อย่างถูกต้องค่ะ โดยเรียงลำดับกันไปตามสัดส่วนมากไปหาน้อยตามที่กรมอนามัย กระทรวงสาธาณสุขทำการสำรวจและพบว่าเชื้อโควิด-19 มักจะไปพบอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

สัดส่วนของโควิด-19 ที่ติดต่อผ่านส่วนต่างๆ ของร่างกาย

สามอันดับแรกที่ต้องระวังมาก ๆ ก็คือ

จมูก

เพราะโควิด-19 สามารถติดต่อด้วยสิ่งที่เราเรียกว่าน้ำมูกจากการจามหรือไอมากถึง 97.9% น้ำมูกจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคได้อย่างดีหากเราสูดเข้าไปทันทีที่อยู่ใกล้คนที่มีเชื้อโควิด-19

ปาก

ที่เป็นอวัยวะที่ติดต่อผ่านทางน้ำลาย โดยการไอหรือจามเช่นเดียวกันนะคะ มีสัดส่วนถึง 88.6%

และ

ก้น

ที่เป็นส่วนของการขับถ่าย (อุจจาระ) และสามารถแพร่กระจายและนำเชื้อโรคติดต่อได้ถึง 70.8% นอกจากนั้น อันดับที่ 4-6 ก็นับว่าไม่ควรละเลยและควรให้ระวังให้มากเช่นกัน

นั่นก็คือ

ลำคอ

ซึ่งเป็นอวัยวะอีกส่วนหนึ่งที่พบว่า เมื่อมีการไอหรือจามและสูดอากาศเข้าไป เชื้อโควิด-19 ก็จะลงไปสู่ลำคอทำให้พบเชื้อในบริเสณส่วนนี้ด้วยสัดส่วนถึง 60%

แขนหรือข้อพับ

ที่เป็นการให้บริจาคเลือดโดยการนำพาหะที่เป็นเชื้อโควิด-19 นี้ผ่านทางเลือดได้ถึง 12.3% ใครที่มักจะบริจาคเลือดอยู่บ่อยครั้งก็ควรระวังให้มากขึ้นนะคะ

และ

ดวงตา

เชื้อโควิด-19 ก็สามารถติดต่อได้จากน้ำตา ถึงแม้ว่าจะเป็นอวัยวะที่พบในสัดส่วนเพียง 1.1% แต่ก็ประมาทไม่ได้เช่นกันค่ะ

สรุปกันสั้น ๆ อีกทีนะคะ อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย มีผลต่อการเป็นพาหะนำเชื้อโควิด-19 ได้ใน หลาย ๆ ส่วน เมื่อทราบกันเช่นนี้แล้ว เราก็ควรหันมาใส่ใจด้วยการระมัดระวังและป้องกัน โดยอาศัยวิธีการ ต่าง ๆ ดังนี้นะคะ

ทุกครั้งที่ออกจากบ้านควรใส่หน้ากากอนามัย

เพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น และสามารถป้องกันอวัยวะของเราได้ทั้งในส่วนของปากและจมูกที่เป็นส่วนนำเชื้อโรคโควิด-19 เข้าสู่ตัวเราได้มากที่สุดด้วยนะคะ การเลือกหน้ากากที่ดีนั้น ก็ควรจะเลือกหน้ากากที่กระชับใบหน้าของเราให้มากที่สุด ไม่ควรใส่หน้ากากที่คับเกินไปเพราะอาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่อยากใส่หน้ากากซ้ำ ๆ อีกในครั้งต่อ ๆ ไป นอกจากนั้นไม่ควรใส่หน้ากากที่หลวมเกินไป เพราะอาจจะมีการสอดแทรกของละอองน้ำลายหรือน้ำมูกได้โดยที่เราไม่ทันระวังตัว ซึ่งก็เป็นผลทำให้เราติดเชื้อโรคได้ง่าย

ทุกครั้งที่ขับถ่าย

โดยเฉพาะในเวลาอุจจาระเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ ควรปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการกระจายออกไปในวงกว้าง ถึงจะดูเป็นวิธีที่ง่าย ๆ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการป้องกันในเบื้องต้นได้ดีในทางหนึ่ง

หลาย ๆ คนที่อาจจะมีการบริจาคเลือดอยู่เป็นประจำ

ก็คงจะต้องงดการบริจาคเลือดในช่วงเวลา นี้ก่อน เพราะดีกว่าทำให้ตัวเราเกิดความเสี่ยงจากเชื้อโควิด-19 ส่วนผู้ที่ต้องมีการรักษาโรคประจำตัวด้วยการเจาะเลือด ก็ควรจะปรึกษาแพทย์หากจำเป็นที่จะต้องอาศัยการเจาะเลือดก็จะต้องได้รับการคัดกรองเป็นอย่างดี หรือ หากหลีกเลี่ยงการตรวจรักษาในช่วงระยะเวลาแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ก็จะเป็นการดีที่สุด

การดื่มน้ำบ่อย ๆ ยังคงเป็นวิธีที่ดี

เพราะการหล่อเลี้ยงน้ำสะอาดให้ผ่านลำคอในปริมาณที่มากก็จะเป็นส่วนทำให้ลำคอเกิดความชุ่มชื่น นอกจากนั้น หากจะดื่มน้ำผลไม้ก็ควรเลือกผลไม้ที่มีวิตามินซีไว้ก่อนเป็นอันดับต้น ๆ เพราะถึงแม้จะไม่ได้มีการวิจัยที่ชัดเจนว่าจะป้องกันหรือรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่เราก็ทราบกันดีว่าวิตามินซีก็จัดเป็นกลุ่มของวิตามินประเภทหนึ่งที่สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ร่างกายได้ดี

การล้างมือด้วยเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์

ก็ยังเป็นที่นิยมมากที่สุดในขณะนี้ เพราะเชื่อกันว่าแอลกอฮอล์ก็เป็นส่วนช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่หากการหาซื้อทำได้ยากหรือสู้ราคากันไม่ไหว ก็เพียงแต่รักษาความสะอาดของมือ เท้า และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วยน้ำสะอาดและสบู่อยู่เป็นประจำหรือบ่อยครั้งในแต่ละวัน ก็สามารถช่วยให้ร่างกายของเราสะอาดและปราศจากเชื้อโรคได้เช่นกัน

ข้อมูลทั้งหมดนี้ ส่งมอบแก่ทุกครอบครัวในภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทราบกัน เพื่อเป็นการย้ำเตือนและหาวิธีการป้องกันร่างกาย และรักษาสุขภาพกันโดยที่เลือกตามความจำเป็นและเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเรานะคะ ที่สำคัญ
Stay at home เพื่อหยุดโควิด-19 กันนะคะ เราจะได้มีเวลาไปทำกิจกรรมดี ๆ กันอีกในไม่ช้านี้นะคะ