Site icon คุณแม่ลูกอ่อน

บล็อกหลังคลอดธรรมชาติจะดีไหม เจ็บไหม?

บล็อกหลังคลอดธรรมชาติจะดีไหม เจ็บไหม?

การคลอดธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าเป็นไปได้คุณแม่ทุกคนก็อยากคลอดแบบธรรมชาตินะ เพราะเจ็บแค่ช่วงคลอด แต่จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าคลอด แต่ก็มีหลายกรณีค่ะที่คุณแม่ไม่สามารถคลอดธรรมชาติเองได้ เพราะไม่มีแรงเบ่ง หรือหัวของลูกหมุนผิดตำแหน่ง ที่ถูกลูกต้องคว่ำหน้าออก มาแต่กลับหงายหน้าออกมาแทน แบบนี้ต้องใช้คีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศช่วยทำคลอดออกมา

ระยะของการคลอดธรรมชาติ

การคลอดธรรมชาติมีด้วยกันทั้งหมด 4 ระยะ ดังนี้

การคลอดธรรมชาติ ระยะที่ 1 – เจ็บครรภ์

ระยะนี้คุณแม่จะมีอาการปวดท้องเหมือนจะคลอด แต่ความจริงแล้วยังไม่ใช่ ปากมดลูกเริ่มบางลง และเกิดการขยายตัว ระยะนี้บางคนก็ไม่รู้สึกว่าปวดนะคะ ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

เจ็บเตือน การคลอดธรรมชาติ ระยะที่ 1 – เจ็บครรภ์

ช่วงนี้มดลูกเริ่มขยายตัวมากขึ้น ปากมดลูกเริ่มขยายตัวจาก 4 เซนติเมตร เป็น 7 เซนติเมตร ซึ่งอาการปวดช่วงนี้จะใช้เวลาหลายชั่วโมง บางรายเป็นวัน

เจ็บจริง การคลอดธรรมชาติ ระยะที่ 1 – เจ็บครรภ์

ช่วงนี้มดลูกเริ่มขยายตัวจาก 7 เซนติเมตร เป็น 10 เซนติเมตร ซึ่งใกล้เข้าสู่ระยะที่ 2 ของการคลอดแล้วค่ะ

การคลอดธรรมชาติ ระยะที่ 2 – ระยะคลอด

ปากมดลูกขยายตัวเต็มที่ ลูกน้อยก็จะค่อย ๆ คลอดออกมาเนื่องจากการบีบตัวของมดลูก เป็นช่วงที่คุณแม่ต้องเบ่งคลอด ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลานานหรือเร็วก็ต้องขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเด็ก ท่าทางของทารก และการเบ่งของคุณแม่ค่ะ

การคลอดธรรมชาติ ระยะที่ 3 – การคลอดรก

การคลอดลูกน้อยเสร็จแล้ว แต่คุณแม่ยังต้องคลอดรกยังไม่เสร็จนะคะ แต่ก่อนคลอดรกคุณหมอจะให้คุณแม่พักประมาณ 10 -15 นาที ช่วงนี้คุณแม่จะรู้สึกถึงการบีบตัวเบา ๆ แต่ก็ไม่เจ็บเท่าคลอดลูกน้อยแล้วล่ะค่ะ

การคลอดธรรมชาติ ระยะที่ 4 – สังเกตอาการหลังคลอด

หลังจาการคลอด 2 ชั่วโมง คุณแม่ยังจะต้องอยู่ในบริเวณของห้องคลอดก่อนค่ะ เพื่อรอดูอาการและความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น อาทิ ภาวะตกเลือดหลังคลอด แต่ถ้าคุณแม่อยู่ในภาวะที่ปกติ คุณหมอจะส่งคุณแม่ไปแผนกหลังคลอด เพื่อเตรียมความพร้อมให้นมลูกน้อยต่อไปค่ะ

บล็อกหลังคลอดธรรมชาติจะเจ็บไหม?

การบล็อกหลังคลอดธรรมชาติ หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า คลอดเอง + บล็อกหลัง (Painless Labor) โปรแกรมนี้ส่วนใหญ่จะพบได้ในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ เพราะเขามีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน โดยวิสัญญีแพทย์จะให้ยาระงับความปวดโดยการให้ยาชาผ่านไขสันหลัง ซึ่งจะเกิดอาการชาตั้งแต่บริเวณเอวลงไปถึงขา คุณแม่จึงไม่รู้สึกเจ็บขณะเบ่งคลอด ซึ่งวิธีการบล็อกหลังจะใช้วิธีเดียวกันกับ “ผ่าคลอดบล็อกหลัง


กับระยะเวลาที่นานกว่า 9 เดือน คุณพ่อคุณแม่ต่างรอคอยที่จะเจอหน้าเจ้าตัวเล็ก แต่…ก่อนที่พ่อแม่จะเจอหน้าลูกเรามาดูข้อมูลเกี่ยวกับการคลอดซักหน่อยดีกว่าค่ะ ว่าการคลอดแบบบล็อกหลังคืออะไร? มีวิธีการอย่างไร?และจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่เรามาดูกันเลยค่ะ

การเลือกคลอดธรรมชาติแบบไม่ต้องทนเจ็บทรมาน ทางการแพทย์ เรียกว่า คลอดเอง+บล๊อคหลัง ( Painless labor)
ข้อมูลอ้างอิง พว.นฤมล เปรมปราโมทย์

เครื่องมือที่ช่วยการคลอดธรรมชาติ

เครื่องดูดสุญญากาศ หรือ Vacuum Extractor

ลักษณะเป็นเครื่องปั๊มอากาศมีท่อยาวที่เชื่อมโยงไปยังส่วนหัวที่มีลักษณะคล้ายถ้วย เส้นผ่าศูนย์กลางมีขนาดประมาณ 5 เซนติเมตร จะใช้ในกรณีที่คุณแม่ไม่มีแรงเบ่งมากพอ

วิธีการใช้ เครื่องดูดสุญญากาศ หรือ Vacuum Extractor

นำส่วนถ้วยไปวางไว้บริเวณศีรษะของทารก ถ้วยสุญญากาศนี้ก็จะดูดศีรษะทารก ในขณะที่แพทย์ก็จะดึงถ้วยดูดในขณะที่คุณแม่กำลังเบ่งหรือขณะที่มดลูกกำลังบีบตัว เครื่องมือนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อทารกคลอดส่วนหัวออกมาก่อนเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้เมื่อทารกคลอดออกมาแล้วจะมีรอยแดงที่หัวแต่ก็จะหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน

คีมช่วยคลอด

คุณหมอจะใช้เครื่องมือนี้ก็ต่อเมื่อ คุณแม่ไม่มีแรงเบ่งมากพอ แต่จำเป็นต้องทำคลอดอย่างเร่งด่วน เพราะมีความผิดปกติทารกขณะคลอด อาทิ ทารกไม่กลับตัว ทารกไม่คว่ำหน้า หรือต้องคลอดในท่าก้น

วิธีการใช้ คีมช่วยคลอด

โดยคีมนี้จะมีลักษณะคล้ายช้อนขนาดใหญ่ 2 อันไขว้กัน เมื่อสอดอุปกรณ์เข้าไปด้านข้างของช่องคลอดจะแนบสนิทกับแก้มทั้งสองข้างของทารกพอดี แต่ก่อนที่จะสอดเข้าไป คุณหมอจะฉีดยาชาบริเวณอุ้งเชิงกราน และตัดฝีเย็บก่อน แล้วถึงสอดคีมเข้าไปให้ให้แนบกับศีรษะลูกทีละข้าง จากนั้นค่อย ๆ ดึงศีรษะทารกออกมา เมื่อทารกคลอดออกมาก็จะมีรอยกดทับของคีมบริเวณแก้มและหางตา แต่ก็จะหายไปได้เองภายใน 2 – 3 วันหลังคลอดค่ะ

การคลอดไม่ว่าจะธรรมชาติหรือผ่าคลอดก็เจ็บด้วยกันทั้งนั้นค่ะ แต่ต่างกันในขั้นตอนของการดูแลแผลคลอด ซึ่งความเจ็บนี้เป็นความเจ็บที่มีความสุข…จริงไหมคะแม่