ส่วนใหญ่แล้วการแท้งบุตรมักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี หรือมีอายุน้อยกว่า 15 ปี โดยจะเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ได้ 4 – 20 สัปดาห์ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าคุณแม่ที่อยู่นอกเหนือจากช่วงดังกล่าวนี้แล้วจะไม่มีความเสี่ยงนะคะ เพราะการแท้งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงอาการและไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ที่จะทำให้เกิดการเสี่ยงแท้งและคลอดก่อนกำหนดกันค่ะ
สารบัญ
ดื่มเบียร์ เหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
แม่ตั้งครรภ์ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากกว่า 6 – 7 แก้วต่อสัปดาห์ นับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีพัฒนาการที่ล่าช้าทั้งทางร่างกายและสมอง ลูกจะมี IQ ที่ต่ำกว่าปกติ เรียนรู้ได้ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน รวมไปถึงเป็นอาการเพิ่มภาวะเสี่ยงแท้งได้อีก
สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์
ในบุหรี่มีสารนิโคตินซึ่งเป็นสารอันตรายที่มีผลต่อลูกน้อยในครรภ์เป็นอย่างมาก หากคุณแม่ท้องที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ หรือแม่ท้องที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีควันบุหรี่ จะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากควันบุหรี่จะทำให้ปริมาณออกซิเจนที่จะต้องถูกส่งผ่านไปยังลูกน้อยทางสายสะดือนั้น มีสารเคมีซึ่งจะทำลายโครโมโซมของลูกน้อยได้ ทารกอาจตายแรกคลอดหรือมีการเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติตั้งแต่ในครรภ์คุณแม่
ดื่มเครื่องดื่ม หรือกินอาหารที่มีคาเฟอีนมากเกินไป
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งจากประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1996 – 1998 จากการศึกษาตัวอย่างคุณแม่ตั้งครรภ์จำนวน 1,063 คน พบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา ช็อกโกแลตร้อน ในปริมาณ 200 มิลลิกรัม ต่อวัน แบบนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการแท้งบุตรได้มากขึ้นถึง 1 เท่าตัวเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับคุณแม่ที่ไม่ได้ดื่มคาเฟอีนเลย
หรือจะพูดให้คุณแม่เห็นภาพคือ ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์และดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากกว่าวันละ 2 แก้ว ต่อวัน ในช่วง 7 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์จะมีโอกาสแท้งบุตรได้
เคยมีประวัติแท้งบุตรมาก่อน
หากคุณแม่เคยมีประวัติการแท้งบุตรมาก่อนโดยมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ครั้ง ติดกันและไม่นับรวมถึงการตั้งครรภ์นอกมดลูก ครรภ์ไข่ปลาอุก ซึ่งอัตราการแท้งบุตรของคุณแม่ตั้งครรภ์ทั่วไปจะอยู่ที่ 15% โดยประมาณ และจากจำนวนนี้มีเพียง 1% เท่านั้นที่จะมีโอกาสแท้งบุตรติดกันถึง 3 ครั้ง ทั้งนี้ภาวะการแท้งซ้ำของคุณแม่จะสัมพันธ์กับอายุของคุณแม่ที่สูงขึ้นอีกด้วยค่ะ
ทำงานหนักเกินไป เครียดมากไป
“ทำงานหนัก” คำนี้ หมายรวมถึงทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องทำงานนอกบ้านและต้องทำงานบ้านนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องทำงานนอกบ้าน อาจเกิดความเครียดจากงาน พักผ่อนน้อย ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นแม่บ้าน ทำงานบ้าน ก็ต้องเลี่ยงการยกของหนักด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณแม่ทั้งสองประเภทนี้ควรหาเวลาพักผ่อนด้วยนะคะ เพราะความเครียด และการนอนน้อยเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คลอดก่อนกำหนดและแท้งได้
กังวลเรื่องน้ำหนักมากไป กินน้อย
อาจมีคุณแม่ตั้งครรภ์บางคนที่กังวลกับเรื่องของน้ำหนัก กลัวว่ะมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ จึงเลือกที่จะอดอาหารในบางมื้อ หรือเลือกที่จะกินอาหารน้อย ๆ พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะสารอาหารสำคัญอย่างแคลเซียม กรดโฟลิก และวิตามินซี ที่จะส่งผลให้คุณเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
ได้รับอุบัติเหตุ
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินมากเป็นพิเศษ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว อาจส่งผลให้มดลูกได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงได้ อาทิ เดินหกล้มก้นกระแทกพื้น เดินชนมุมโต๊ะ ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงบริเวณท้องน้อย รวมไปถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามท้องถนน เช่น การเดินข้ามถนน เหล่านี้เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งบุตรได้ทั้งสิ้น
ออกกำลังกาย
เรื่องของการออกกำลังกาย โดยทั่วไปแล้วการออกกำลังกายของคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นควรเป็นในลักษณะที่ยืดเส้นยืดสาย หรือโยคะเบา ๆ ก็พอค่ะ ยกเว้นคุณแม่เซเลปที่ออกกำลังกายหนัก ๆ แบบนั้นคือ ต้องอยู่ในการดูแลของคุณหมอก่อนนะคะ คนท้องออกกำลังกายอย่างไรได้บ้าง คลิกที่นี่ > “ชวนคุณแม่ตั้งครรภ์มาออกกำลังกายกันดีกว่าค่ะ”
ตั้งครรภ์ติดต่อกันมากเกินไป
การตั้งครรภ์ที่ติดกันมากเกินไป ทั้งที่คุณแม่เพิ่งคลอดน้องออกไปได้ไม่นาน อาจส่งผลให้คุณแม่มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดหรืออาจเกิดภาวะแท้งได้ค่ะ เนื่องจากร่างกายยังไม่ได้พักฟื้นให้แข็งแรงมากพอ
ใช้การตั้งครรภ์ด้วยวิธีพิเศษ
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือการที่คุณแม่มีการตั้งครรภ์ด้วยวิธีที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ แบบนี้อาจมีความเสี่ยงที่จะแท้งได้ง่าย ดังนั้น หากคุณแม่คนไหนที่อยู่ในข่ายนี้ ต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดนะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับพฤติกรรมแม่ท้องเสี่ยงแท้ง และคลอดก่อนกำหนด หากคุณแม่ได้รู้กันอย่างนี้แล้ว ลด ละ เลิกได้จะดีมากนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในท้อง แต่ก็ด้วยคำว่า “สุขภาพดี” นี้เอง ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนพยายามเฟ้นหาตัวช่วยที่ (คิดว่า) ดีอย่างสมุนไพรต่าง ๆ มากิน แต่เหรียญยังมีสองด้าน สมุนไพรก็เช่นกัน คลิกที่นี่ >> “สมุนไพรที่ทำให้ตกเลือด แม่ท้องควรรู้”
ข้อมูลอ้างอิง theasianparent.com, thaichildcare.com