การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไป หากแต่ต้องใช้ “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในการเลี้ยงดูควบคู่กัน การที่ลูกเป็นเด็กเก่งก็ถือเป็นเรื่องดี แล้วถ้าลูกของคุณพ่อคุณแม่จะเป็น “เด็กดี” ด้วยล่ะคะ จะสุดยอดแค่ไหน ไปไหนมาไหนก็มีแต่ผู้ใหญ่เอ็นดู เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ถ้าอย่างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีนิสัยอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนและปลูกฝังลูกตั้งแต่เด็ก ๆ
สารบัญ
7 นิสัยดี ๆ ที่จะทำให้ลูกเป็นเด็กดี และน่ารัก
ต้องไม่ขี้เกียจในการสอนลูก
เป็นธรรมดาค่ะที่การสอนของคุณพ่อคุณแม่ต้องพูด ต้องสอนกันมากกว่าหนึ่งครั้ง และต่อให้ต้องพูดเป็นร้อยครั้งก็ต้องทำ อย่าขี้เกียจสอนลูก หรือตัดความรำคาญทำแทนลูกเป็นอันขาด เพราะลูกจะไม่ได้เรียนรู้อะไร และเขาจะไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาทำผิดและต้องแก้ไข ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกทำผิด ไม่ควรลงโทษลูกด้วยการดุด่า หรือตีนะคะ แต่คุณพ่อคุณแม่ควรตั้งสติ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แล้ว ให้เข้าไปกอดลูก คุยกับลูกด้วยเหตุผล ทำให้เขารู้ว่าเรารักเขา ต้องการให้เขาเป็นเด็กดี
สอนให้ลูกมองโลกในแง่บวก
คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจบอกว่า “ทุกข์ เครียดขนาดนี้จะให้มองโลกแง่บวกได้อย่างไร หลอกตัวเองชัด ๆ” แต่การมองโลกในแง่บวก เช่น สมมติว่าลูกกระโดดเล่นอยู่ แต่กระโดดไปกระโดดมาลูกเกิดขาแพลง ต้องไปหาคุณหมอ ซึ่งสิงนี้คุณแม่สามารถอธิบายให้ลูกเข้าใจได้ว่า “แม้ว่าหนูจะเจ็บขาจนร้องไห้ แต่มันก็ทำให้หนูได้เรียนรู้นะคะ ว่าคราวหน้าจะไม่ทำแบบนี้อีก เพราะเสี่ยงที่จะเจ็บแบบนี้ได้อีก” ซึ่งถือเป็นการเรียนรู้นั่นเองค่ะ
ชมลูกตามสมควร
สำหรับเรื่องการชมลูกนั้น โน้ตเองจะยึดแบบนี้มาตลอดค่ะว่า เราชมลูกได้ตามสมควร ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเหลิง เพราะการชมลูกตามสมควรจะทำให้ลูกเกิด Self Esteem (รู้จักคุณค่าในตนเอง) เมื่อโตขึ้น ลูกจะเป็นเด็กที่กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง และรู้จักรักตัวเอง ตรงข้ามกันแม้ลูกจะทำดีแค่ไหน แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยมีคำชมให้ลูกเลย โตขึ้นเขาจะเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจตัวเอง ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ และโหยหาความรักจากคนอื่นอยู่เสมอ
ใช้เหตุผลที่ถูกต้องในการสอนลูก
“การใช้เหตุผลที่ถูกต้อง” ประโยคนี้โน้ตจะย้ำอยู่เสมอค่ะ ลำพังว่า “การใช้เหตุผล” อย่างเดียวอาจไม่ถูกต้องนัก เพราะแต่ละคนจะมีเหตุผลของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นเหตุที่ไม่ถูกต้องก็ได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรใช้เหตุผลที่ถูกต้อง และเป็นเหตุผลที่สังคมยอมรับนะคะ เพราะสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานให้ลูกมี “ตรรกะ” ที่ถูกต้องค่ะ
ยืดหยุ่นบ้าง
โอเคล่ะ หลายสิ่งหลายอย่างภายในบ้านส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคุณแม่ที่เป็นคนตั้งกฎ กติกาขึ้นมา แต่ในบางครั้งบางสถานการณ์ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรยืดหยุ่นบ้าง เพื่อไม่ให้บรรยากาศภายในบ้านตึงเครียดมากเกินไป
อย่าอายที่จะขอโทษลูก
ข้อนี้อีกเช่นกัน ที่ต้องบอกว่าหลายครอบครัวไม่กล้า และอายที่จะกล่าวคำ “ขอโทษ” กับลูก เพราะคิดว่าเป็นผู้ใหญ่กว่า ความจริงแล้ว การขอโทษลูกเมื่อคุณพ่อคุณแม่ทำผิดพลาด เป็นสิ่งจะเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะการขอโทษจะทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่รักเขา แคร์ความรู้สึกเขา และที่สำคัญ จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ขอโทษ” เมื่อเขาทำผิดอีกด้วยค่ะ
เป็นต้นแบบที่ดี
การเป็นต้นแบบที่ดี หมายถึง คุณพ่อคุณแม่ควรทำในสิ่งดี ๆ ให้เป็นนิสัย แม้ว่าลูกจะเห็น หรือไม่เห็นก็ตาม (แต่บางครั้งลูกก็แอบมองอยู่นะคะ) เพราะลูกจะเลียนแบบพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่ว่ากันตามจริง เลียนแบบกระทั่งความคิดเลยก็ว่าได้อาจไม่ 100% แต่ก็มีส่วนมากทีเดียว
การที่คุณพ่อคุณแม่จะปลูกฝังนิสัยดี ๆ ให้กับลูก ควรเริ่มตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะทุกอย่างต้องอาศัยเวลา แล้ววันหนึ่งหากลูกแสดงนิสัยดี ๆ ออกมา วันนั้นแหละค่ะ คุณพ่อคุณแม่คงยิ้มแก้มปริกันเลยทีเดียว