อาหารเสริมของเด็ก วัย 6-12 เดือน มีอะไรบ้าง? เริ่มจากอะไรดี?

การเลี้ยงลูกวัยแรกเกิด-1 ขวบ

เด็กทารกหลังคลอด อาหารของเค้าจะมีอยู่อย่างเดียวคือ “นมแม่” กินเรื่อยมาจนอายุได้ 6 เดือน คุณแม่ถึงจะสามารถป้อนอาหารเสริมให้เค้าได้ ซึ่งตอนนั้นที่โน้ตก็เป็นแม่มือใหม่ คิดๆๆ และหาข้อมูลว่าถ้าลูกอายุได้ 6 เดือนแล้วเราจะป้อนอะไรให้เค้าดี อย่างแรกที่คิดได้ และเป็นสิ่งที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเลยก็คือ “กล้วยน้ำว้า” เอาแต่เนื้อด้านนอกไม่เอาแกนกลาง แรกๆ ก็เอามาบดก่อน พอเค้าเริ่มมีฟันก็ค่อยให้เค้าเคี้ยว แต่คำถามคือ…

“จะมีอะไรอีกไหมน้า ที่เราจะสามารถเอามาป้อนให้ลูกได้?”

แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา วันนี้โน้ตได้เอาข้อมูลมารวบรวมไว้ที่นี่แล้วค่ะเพื่อให้คุณแม่ได้ให้อาหารเสริมลูกอย่างถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย

ทำความรู้จักกับเรื่องของทารก

เพราะทารกในแต่ละวัยมีความต้องการสารอาหารที่ต่างกัน ดังนั้น เด็กจึงต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิด-2 ปีแรก ร่างกาย อวัยวะต่างๆ และสมองจะเติบโตและพัฒนาได้เร็วมาก เฉลี่ยแล้วน้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้นคิดเป็น 4 เท่าของน้ำหนักตัวช่วงแรกเกิด และมีส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 70%

“ทำไมทารกหิวบ่อย?”

นั่นเป็นเพราะว่า “กระเพาะของทารกมีขนาดเล็กกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า” ทารกแรกเกิดจะทานนมแม่อย่างเดียวไปจนถึงอายุ 6 เดือน หรือบางรายอาจทานได้นานกว่านั้น ซึ่งคุณแม่เองก็สามารถให้เค้าทานนานเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่เค้าต้องการนะคะ (บางราย 2 ขวบยังทานอยู่เลย) โดยทานควบคู่ไปกับนมแม่ได้ตามปกติ

อาหารเสริมของเด็กแต่ละช่วงวัย

เด็กวัย 6 เดือน

อาหารของเด็กวัยนี้จะเป็นอาหารบดละเอียดหรืออาหารปั่นละเอียด

เริ่มจากข้าวสวย หรือข้าวกล้องบดหรือปั่นละเอียด และน้ำซุปผักโดยให้ลูกเริ่มทานเพียงวันละ1 ช้อนโต๊ะ(1 มื้อ) ค่อยๆ เริ่มป้อนลูกทีละนิด หากฝืดคอให้ลูกทานน้ำซุป โดยใช้ช้อนป้อน หรือจะเป็นการฝึกการดูดจากหลอดก็ได้ค่ะหลังจากนั้น ให้ลูกทานนมแม่ต่อจนอิ่ม แล้วค่อยๆ เพิ่มอาหารวันละ 1 ช้อนโต๊ะ

ที่สำคัญ หากลูกยังไม่อยากกินก็ยังไม่ต้องบังคับค่ะ ค่อยเริ่มใหม่ในวันถัดไป และ…

**การเริ่มป้อนอาหารลูก หรือจะเริ่มเมนูใหม่ให้ลูก คุณแม่ควรเริ่มป้อนมื้อเช้าหรือไม่ก็มื้อกลางวัน เพราะคุณแม่จะยังไม่รู้ว่าลูกแพ้อาหารอะไรบ้าง หากลูกมีอาการแพ้จริง พาไปพบคุณหมอตอนกลางวันยังได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงเย็นหรือกลางคืนจะลำบากกันหน่อย
แต่ถ้าหากคุณแม่รู้แล้วว่าอะไรที่ลูกไม่แพ้ สามารถเริ่มให้อาหารเสริมในมื้อเย็นได้ค่ะ ซึ่งจะเป็นการดีซะอีกนะ เพราะลูกจะได้อิ่มยาว และจะช่วยให้หลับนานขึ้นด้วยค่ะ

เด็กวัย 7 เดือน

ยังเป็นอาหารที่บดหรือปั่นอยู่ แต่เพิ่มเนื้อสัตว์

คุณแม่เริ่มเพิ่มเมนูเนื้อสัตว์ลงในอาหารเสริมลูกน้อยได้แล้วค่ะ แต่ควรเพิ่มทีละอย่าง โดยให้ลูกทานซ้ำๆ กันอย่างนี้ ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อความคุ้นชินและเพื่อรอดูด้วยค่ะว่าลูกมีอาการแพ้หรือเปล่า

เนื้อสัตว์ที่แนะนำ คือ ปลาน้ำจืด เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลากราย หรือจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ตับหมู ตับไก่ และไข่แดงต้มสุ๊กกก สุก เพราะถ้ายังเป็นยางมะตูม เชื้อโรคอาจยังไม่ถูกทำลาย จะส่งผลให้ลูกท้องเสีย ถ่ายแบบมีมูกเลือดได้

ส่วนไข่ขาวและอาหารทะเล ควรเริ่มหลังจากอายุได้ 1 ขวบค่ะ

ผลไม้…คุณแม่อาจเริ่มให้เพิ่มได้ แต่ควรเป็นผลไม้ที่ไม่มีรสหวานหรือไม่หวานมาก ในปริมาณซัก 2-3 ช้อนโต๊ะ หรือซัก 1-2 ชิ้นก็พอ ผลไม้ที่ให้ลูกทานได้ เช่น แอปเปิ้ล แคนตาลูป ชมพู่ แตงไทย กล้วยน้ำว้า หรือมะม่วงสุก เป็นต้นค่ะ

เด็กวัย 8-9 เดือน

อาหารจะมีลักษณะที่หยาบขึ้น (การตุ๋น)

คุณแม่สามารถเพิ่มปริมาณอาหารและลูกก็สามารถทานอาหารที่หยาบขึ้นได้บ้างแล้ว ซึ่งใช้การตุ๋นให้นิ่ม ให้เปื่อย ให้คุณแม่สังเกตว่าลูกสามารถเคี้ยวและกลืนได้หรือไม่ หรือถ้าลูกไม่คายก็โอเค แต่ยังลูกคายออกมาหรืออมไว้ในปาก ให้คุณแม่กลับบดหรือปั่นละเอียดเหมือนเดิมก่อน แล้วอีกซัก 2 สัปดาห์ – 1 เดือน ถัดไปค่อยมาเริ่มกันใหม่

เด็กวัย 10-12 เดือน

อาหารจะหยาบขึ้นอีก (จากตุ๋นเป็นต้ม)

เหมือนเดิมค่ะ…คุณแม่ต้องสังเกตลูกด้วยว่าเค้าท้องผูกหรือไม่ หากท้องผูก คุณแม่ต้องทำอาหารให้ละเอียดขึ้นก่อนค่ะ แล้วค่อยเริ่มอาหารหยาบขึ้นในเดือนถัดไป ส่วนข้าวสวยหรือข้าวเหนียว ควรให้ทานเมื่ออายุ 1 ขวบขึ้นไป

การเริ่มให้อาหารเสริมลูก คุณแม่ต้องใจเย็นๆ นะคะ ถ้าเค้ายังไม่กินก็ไม่เป็นไร รอให้เค้าพร้อม เพราะการบังคับให้เค้ากินในวันที่เค้ายังไม่พร้อม เค้าจะเกิดความรู้สึกต่อต้านกับการกินข้าวได้ค่ะ คุณแม่จะเหนื่อยกว่าเดิม เป็นกำลังใจให้ค่ะมนุษย์แม่ทุกคน^^

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP