บางครอบครัวเมื่อมีลูก คุณแม่อาจเป็นคนเลี้ยงลูกเอง คุณพ่อก็ทำงานนอกบ้าน จึงทำให้ตลอด 24 ชม. คุณแม่จะอยู่กับลูกตลอดเวลา ทั้งเล่น ทั้งดูแลเขา ซึ่งคุณพ่อก็กลับมาบ้านในช่วงเย็น บางรายก็กลับค่ำ กลับลูกก็นอนแล้ว แบบนี้ยิ่งทำให้ไม่ได้ใช้เวลากับลูกมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้คุณพ่อแทบจะไม่มีตัวตนในสายตาลูกเลย
สารบัญ
เพราะอะไรลูกถึงติดแม่มากกว่าพ่อ
ลูกอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
ข้อนี้คุณแม่ที่ไม่ได้ทำงานนอกบ้านจะค่อนข้างได้เปรียบกว่าคุณพ่อ เพราะจะมีเวลาอยู่กับลูกตลอดเวลา ทั้งให้นมลูกจากอก ทั้งเล่นกับลูก พาลูกเดินเล่น ฯลฯ และเมื่อลูกร้องไห้ ก็มีคุณแม่เข้าไปตอบสนองลูกได้อย่างถูกต้อง ลูกจึงรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย รู้ว่าเมื่อไรก็ตามที่ลูกต้องการการดูแล คุณแม่จะมาทันที
อยู่กับลูกตลอดเวลา
ด้วยความที่คุณแม่ไม่ได้ทำงานนอกบ้าน จึงมีเวลอยู่กับลูกได้ทั้งวัน เพราะฉะนั้นคุณแม่กับลูกจึงมีความผูกพันธ์กันเป็นธรรมดาค่ะ
บุคลิกระหว่างพ่อกับแม่
กับคำถามที่ว่า “เพราะอะไรลูกติดแม่มากกว่าพ่อ?” เป็นไปได้ว่า คุณแม่อาจมีบุคลิกที่อ่อนโยนกว่า พูดได้นิ่มนวลกว่า ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่บังคับให้ลูกทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่ในขณะที่คุณพ่อตัวใหญ่กว่า พูดเสียงดังกว่าจนทำให้ลูกกลัวบุคลิกดังกล่าวนี้ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกด้วยค่ะว่า แบบไหนที่ลูกกลัว แล้วปรับในจุดนั้น
ส่งเสริมหรือขัดขวาง
เป็นธรรมดาที่เด็กจะชอบคนที่ส่งเสริมให้ทำนั่น ทำนี่ เล่นนั่น เล่นนี่ เพราะเท่ากับเป็นการกระตุ้นและเสริมพัฒนาการให้ลูก ทำให้ลูกรู้สึกสนุก แต่ยกเว้นว่าบางอย่างที่เป็นอันตรายคุณพ่อคุณแม่ก็ควรห้าม พร้อมให้เหตุผลลูก แบบนี้ลูกก็จะเข้าใจได้ค่ะ
ทำอย่างไรให้ลูกติดพ่อมากขึ้น
แบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน
เข้าใจว่าคุณพ่อกลับมาจากทำงานนอกบ้านก็เนื้อย เหนื่อย แต่ถ้าอยากมีตัวตนในใจลูก ต้องทำค่ะ^^ คุณแม่อาจแบ่งหน้าที่ให้คุณพ่อได้ดูแลลูกอย่างชัดเจน เช่น อาบน้ำให้ลูก หรืออาจจะอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังก่อนนอน ซึ่งช่วงแรกลูกอาจไม่ยอม แต่ต้องอดทนค่ะ แต่การที่ลูกต่อต้าน ไม่ใช่ว่าเขาไม่รัก เพียงแต่เขากลัวว่าสิ่งที่คุณพ่อทำให้อาจไม่เหมือนที่คุณแม่ทำเท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณพ่อต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ค่ะ
หาจุดเด่นของคุณพ่อให้เจอ
เช่น ชอบพากย์เป็นเสียงต่าง ๆ การอ่านการ์ตูน หรือชอบเล่นตุ๊กตามือ เหล่านี้ก็สามารถนำมาเล่นกับลูกได้ค่ะ
หากิจกรรมทำร่วมกับลูก
โดยเฉพาะในวันเสาร์ – อาทิตย์ (เพราะคุณพ่อบางท่านอาจกลับมาบ้านก็ค่ำ ลูกหลับแล้ว) ให้คุณพ่อหากิจกรรมมาทำกับลูกสองต่อสอง อาจเป็นกิจกรรมรอบบ้านก็ได้ค่ะ เพื่อการใช้เวลาร่วมกัน
ให้คุณแม่ออกไปช้อปปิ้ง
โดยให้คุณพ่อได้อยู่กับลูกเพียงลำพัง ให้คุณพ่อได้ดูแลลูกบ้าง ให้ลูกได้เรียนรู้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณพ่อทำให้นั้นก็ไม่ต่างจากที่คุณแม่ทำให้เหมือนกัน
แบ่งเวลาให้ครอบครัว
ใช้เวลาคุณภาพด้วยกันทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูก อาจเล่นเกมสนุก ๆ ด้วยกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
รักลูก…ให้กอด
โดยเฉพาะคุณพ่อ เพราะคุณพ่อต้องไปทำงานนอกบ้าน อาจไม่มีเวลาแสดงความรักกับลูก ถ้ารักลูก กอดเขา หอมเขา ให้เขาได้รับรู้ว่าคุณรักเขามากแค่ไหน
ชมเชยอีกฝ่ายให้ลูกฟัง
ข้อนี้เป็นหน้าที่คุณแม่ค่ะ ในระหว่างวันที่คุณพ่อไปทำงาน คุณแม่ก็สามารถพูดข้อดีของคุณพ่อให้ลูกฟังได้นะคะ เพื่อตอกย้ำว่าแม้คุณพ่อจะไม่อยู่บ้านแต่คุณพ่อก็ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี
การสร้างตัวตนให้ลูกรับรู้ว่ามีคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ ๆ นั้นเป็นสิ่งจำเป็นค่ะ เพราะถ้าเด็กรับรู้ว่าเขาเกิดมาจากความรักของทั้งคุณพ่อคุณแม่ และมีการแสดงออกว่าคุณพ่อคุณแม่รักเขาแล้ว เมื่อโตขึ้นเด็กจะไม่โหยหาความรักจากคนอื่น แต่กลับกันเด็กจะกลายเป็นเด็กที่อ่อนโยน พร้อมจะเป็นผู้ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบค่ะ