ความซนของเด็กเป็นโอกาสในพัฒนาการเจริญเติบโต! วิธีจัดการกับมันโดยไม่ให้เกิดอาการหงุดหงิดคือ?

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

เด็กจะมีการเจริญเติบโตขึ้นไปพร้อมๆกับการเริ่มสนใจในสิ่งต่างๆ และอยากรู้ในสิ่งที่ผู้ใหญ่ไม่สามารถคิดได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็ก ที่เด็กผู้ชายจะเล่นกระเย้ากระแหย่ต่อเด็กผู้หญิงโดยที่ไม่รู้ตัวเองว่ากำลัง “ซน” อยู่ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในการดูแลบุตรหลานให้ดี สิ่งที่ไม่ควรทำก็ควรระมัดระวังไม่ทำสิ่งนั้น

ทำไมถึงต้องซน

สำหรับผู้ใหญ่ ที่เด็กมีพฤติกรรม “ซน” มันเป็นเพราะอะไรกันนะ
เป็นเพราะถูกกระตุ้นจากความอยากรู้อยากเห็น,ปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ใหญ่มันดุตลก ต้องการดึงดูดความสนใจจากเพื่อนและผู้ปกครอง หรือต้องการเป็นจุดสนใจ เป็นต้น

การสัมผัสสิ่งต่างๆโดยปลายนิ้วมือก็เป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการเจริญเติบโต อย่างที่เรียกว่าอย่างเช่นพอเห็นกระดาษก็จะเอามาฉีกทิ้ง หรือตัวอย่างเด่นๆที่เป็นพฤติกรรมซ้ำๆ อย่างดึงทิชชู่ห้องน้ำกลิ้งโกโระโกโระออกมาเรื่อยๆเมื่อเด็กมีการเจริญเติบโตขึ้นวิสัยทัศน์ก็กว้างขึ้น เริ่มมีความสนใจต่อสิ่งที่เห็นและก็อยากสัมผัสด้วย นี่คือการกระทำที่เริ่มจากความอยากรู้อยากเห็น เพราะการเจริญเติบโตของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ ในกรณีที่ไม่ได้เป็นเรื่องอันตรายไม่ต้องเข้าไปบังคับให้หยุด ในบางครั้งก็ควรหักใจปล่อยไปบ้างนี่ก็เป็นเรื่องสำคัญ

นอกจากนี้ ตอนที่เล่นพับเพื่อน พอซนขึ้นก็จะได้รับความสนใจจากเพื่อนและได้รับการปฏิกิริยาที่มีความสุขก็เลยทำการเล่นซนอย่างนั้นบ่อยครั้ง เพราะทำอย่างนั้นก็จะมีเพื่อนๆเข้ามาหา หรือไม่ก็มีเพื่อนที่เล่นซนด้วยก็เลยสนุก ในบางครั้งก็อาจคิดได้ว่าผู้ใหญ่ที่หัวเราะเวลาที่เด็กซน หรือในทางตรงกันข้ามก็โกรธก็เป็นตัวกระตุ้นให้เด็กเกิดความตลกและสนุกได้ สำหรับเด็กเพื่อต้องการดึงดูดความสนใจจากผู้ใหญ่ ก็เลยตั้งใจเล่นซนซ้ำแล้วซ้ำอีกได้

เวลาที่เด็กซน ควรทำอย่างไร?

พอเด็กซนเข้า เราก็มักจะรู้สึกหงุดหงิด แต่ควรปล่อยให้ไปตามรู้สึกไม่ควรดุด่า ดังนั้นควรจะจัดการกับมันอย่างไรดี

ถ้าเป็นไปได้ ให้เค้าเล่นเท่าที่ต้องการครั้งถึงสองครั้ง

ความซนทีไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น หรือไม่เป็นอันตรายก็ลองให้เค้าทำเท่าที่ต้องการดูก็อาจจะดี เพราะการที่เค้าเล่นเท่าที่ต้องการการได้ก็ทำให้เค้าเล่นจนเต็มอิ่มแล้ว พอเล่นเต็มอิ่มแล้วก็อาจจะหยุดเล่นเลยก็ได้ แต่การเล่นของเด็ก เพราะอยู่ๆก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงวิธีเล่นได้ ดังนั้นเราควรเฝ้ามองอย่างระวังไม่ให้คลาดสายตา

ควรเฝ้ามองและบอกเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรทำเช่นนั้น

พอเราโกรธรุนแรงต่อเด็ก เด็กก็รู้สึกเกิดการถูกปฏิเสธ และอาจเกิดความสูญเสียความเป็นตัวเอง ดังนั้น เราควรจ้องตากันและให้คำอธิบายว่า “ทำไมถึงห้ามทำ” ถ้าการเล่นซนที่ไม่เป็นการรบกวนผู้อื่นหรือไม่ก่อให้เกิดอันตรายก็ควรเฝ้ามองอย่างระมัดระวังก็เป็นสิ่งสำคัญ

การเล่นซนที่เป็นอันตราย การอธิบายเหตุผลว่า “ทำไมถึงห้ามทำ” เป็นสิ่งสำคัญ

เกี่ยวกับความซนที่มีอันตรายที่อาจเกิดความบาดเจ็บ ก็ไม่ควรดุด่าอย่างไม่ถามเหตุผลแต่ควรอธิบายเหตุผลว่า “ทำไมถึงห้ามทำ” แต่ถึงอย่างนั้นเด็กก็อาจจะทำซ้ำอีกก็ได้ เป็นเพราะเด็กยังอยู่ในช่วงระหว่างการเจริญเติบโต ก็เลยอยากจะสนุกไว้ก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ ต้องมีความอดทน และก็ต้องบอกเหตุผลทุกครั้งที่ว่าทำไมไม่ควรซนเป็นสิ่งสำคัญ การบอกอย่างจริงจัง พอเริ่มโตขึ้นเรื่องที่ผู้ปกครองได้พูดขึ้นกับความคิดที่ตัวเองกำหนดขึ้นมาเองก็จะมีสักวันที่เด็กจะเริ่มคิดเห็นในทางเดียวกัน

ในตอนที่อธิบายเหตุผลไม่พูดเกินจริง ควรทำหน้าจริงจัง

ตอนที่เห็นเค้าซน ก็อาจจะเผลอพูดเกินจริงไป และสีหน้าของผู้ปกครองอาจจะส่อแววหัวเราะหรือทำสีหน้าแบบว่าให้อภัยทำให้เด็กอาจจะคิดได้ว่า “คงไม่โกรธขนาดนั้นสินะ” “ตลกสินะ” แล้วทำอีกก็ได้ ดังนั้นผู้ปกครองเวลาที่บอกเหตุผลว่าทำไม่ไม่ควรทำก็ควรประสานตากันแล้วพูดแบบทำหน้าจริงจังด้วย

ลองเสนอแนะให้ทำอย่างอื่นแทน

แล้วก็มีวิธีโดยการเสนอแนะให้ทำอย่างอื่นแทน อย่างเช่น ลองให้เล่นซนแบบที่เล่นได้ หรือเล่นของที่ชอบ หรือให้ของเล่นที่ชอบ ที่เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจอย่างอื่น เป็นอย่างไรบ้างคะ เพราะเด็กเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก การแนะนำสิ่งใหม่ๆที่น่าสนุกก็สามารถเปลี่ยนความรู้สึกได้

หลังจากเล่นซนเสร็จแล้ว ก็เก็บกวาดพร้อมกับเด็ก

ในกรฯที่ผู้ปกครองเห็นชอบในความซนขอเด็ก หลังจากที่ปล่อยให้เด็กเล่นจนเต็มอิ่ม ก็ควรเก็บกวาดพร้อมกับเด็กอย่างสนุก เพราะการได้เก็บกวาดอย่างสนุกไปพร้อมกัน ก็อาจทำให้เด็กคิดไปได้ว่า “การเก็บกวาด” ก็เป็นการเล่นซน แล้วเวลาที่เล่นซน ก็อาจจะเก็บกวาดของไปเองด้วยเลย ในกรณีที่เล่นซนที่ไม่ได้รับการยอมรับ ก็ควรอธิบายเหตุผลว่าทำไมไม่ควรทำ แล้วทำการเก็บกวาดพร้อมกันก็เป็นเรื่องที่ดี ในกรณีนี้ ไม่ได้เก็บกวาดอย่างสนุก ควรเก็บกวาดอย่างเงียบๆ ก็จะเป็นการบ่งบอกถึงว่าเป็น “สิ่งที่ไม่ควรทำ” เพราะเพิ่งอธิบายเหตุผลไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน การเก็บกวาดด้วยกันก็จะเป็นการบ่งบอกอารมณ์ของผู้ปกครองนั้นได้ง่ายซึ่งเป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่ง

ป้องกันความซนของเด็ก ต้องทำอย่างไรดี?

ความซนของเด็กก็อาจจะทำให้มีอันตรายบ้าง วิธีป้องกันมีหลายอย่างแต่อยากให้อ้างอิงตาม5 ข้อด้านล่างนี้

  • สถานที่ที่คิดว่าจะทำให้ล้มได้ (อย่างเช่นทางปล่องเชื่อม) ก็หาที่กั้นมากั้น
  • ที่คิดว่าถ้าไปโดนจะอันตรายอย่างเช่น ที่วางจานหาตัวสต๊อปเปอร์มายึดไว้
  • ของที่ไม่ได้ให้แตก หรือของที่ไม่อยากให้ใช้ ก็ควรไปวางในที่เด็กเอื้อมไม่ถึง หรือเอาไปซ่อน
  • ถ้าเป็นเด็กที่อยู่ในวัยที่คุยได้แล้ว ก็ถามให้เด็กอธิบายมาว่าทำไมถึงซน แล้วซนแล้วรู้สึกอย่างไร
  • ควรทำความเข้าใจในใจเวลาที่เด็กซน และนำไปป้องกันในวันต่อมา

ในสถานที่ที่อันตราย ควรเอาที่กั้นมากั้นเพื่อป้องกันเป็นเรื่องสำคัญ ในร้านอุปกรณ์ที่ขายของสำหรับเด็กเล็กจะมีขายสินค้าไออยู่ ใช้สินค้านี้เพื่อป้องกันก็อาจจะดี
นอกจากนี้ สำหรับของที่ไม่อยากให้จับ หรือของที่ถ้าแตกจะลำบากก็ควรวางสิ่งของนั้นในที่ที่เด็กเข้าไปไม่ถึง
หรือซ่อนไว้ที่ชั้นวางหรือตู้เสื้อผ้าก็อาจจะเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าเป็นเด็กที่สามารถพูดคุยได้ระดับหนึ่ง ก็ค่อยๆหันหน้าเข้าหาพูดคุยกันก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าปล่อยให้ซนต่อไปก็อาจจะเป็นการรบกวนคนอื่นโดยไม่รู้ตัวได้

นอกจากนี้เวลาเกิดอะไรขึ้นอาจจะทำให้เกิดบาดแผลได้ เพราะฉะนั้นควรหันหน้าชนกัน ประสานตาแล้วอธิบายก็เป็นสิ่งสำคัญ
การหันหน้าเข้าหากัน ก็เป็นการประสานเชื่อมใจให้เข้าใจได้ และเข้าใจเด็กได้ดีก็จะสามารถเข้าใจรูปแบบพฤติกรรมว่าจะไปเล่นซนที่ไหนได้ง่ายขึ้น

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP