6 เทคนิคส่งลูกไปโรงเรียนวันแรกแบบง่ายๆ

การเลี้ยงลูกวัย 6 ขวบขึ้นไป

แม้ว่าจะเตรียมพร้อมกันมาขนาดไหนแต่พอถึงวันแรกที่ลูกต้องไปโรงเรียนจริงๆ ความวิตกกังวลของคุณพ่อคุณแม่คงจะไม่น้อยเลยทีเดียว ลูกจะงอแงไหม จะเหงาไหม จะเข้ากับเพื่อนได้ไหม จะกินข้าวยังไง คุณครูจะดูแลได้หรือไม่ สารพัดความกังวลและความกลัวได้มารวมกันอยู่ในวันนี้เพราะปกติส่วนใหญ่ลูกๆ ก็มักจะอยู่ใกล้ตาหรือถูกดูแลจากคนใกล้ชิดตลอดเวลา แต่ในเมื่อถึงเวลาที่ลูกต้องเติบโต คุณพ่อคุณแม่ก็เดินทางมาถึงเวลาที่จะต้องเรียนรู้เหมือนกัน วันนี้เราจะมาปล่อย 6 เคล็ดลับที่จะช่วยให้การไปโรงเรียนวันแรกของลูกเป็นไปอย่างง่ายดายและเป็นการเริ่มต้นความทรงจำดีๆ ให้ลูกได้อีกด้วย

ท่องไว้ให้ดีกับ 6 เคล็ดลับส่งลูกไปโรงเรียนวันแรก

1.อย่าเร่งรีบมากในตอนเช้า

อาจจะฟังดูแปลกๆ ก็ตอนเช้ามันเป็นชั่วโมงฉุกเฉินนี่หนา แต่นั่นแหละมันคือหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะทำให้เช้าวันแรกของการไปโรงเรียนไม่เร่งรีบจนทำให้ลูกกลัว เพราะแน่นอนว่าเด็กๆ อาศัยอยู่กับความสบายมาสักพักใหญ่ อยู่ๆ จะให้เร่งรีบขึ้นมาทันทีแถมยังบวกกับต้องไปโรงเรียนวันแรกอีกมันจะกลายเป็นเรื่องยากในวันต่อๆ ไปซะเปล่า

เริ่มจากการปลุกลูกให้เช้ากว่าเดิมจะได้มีเวลาอาบน้ำ ทานข้าวเช้า และเดินทางอย่างสบายๆ ทำให้ลูกรู้สึกว่าการไปโรงเรียนมันง่ายกว่าที่คิด

2.วันแรกถึงโรงเรียนเร็วหน่อย

การไปถึงโรงเรียนก่อนเวลาปกติในวันแรกจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีโอกาสพาลูกไปทำความคุ้นเคยกับโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นการพาไปรู้จักกับคุณครู พาไปเดินเล่นสร้างความคุ้นเคยกับสถานที่ในโรงเรียน สิ่งเหล่านี้หากมีคุณอยู่ด้วยจะช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับลูกได้มากทีเดียว

3.ของรักของลูกพกไปด้วยก็ได้

วันแรกถ้าทางโรงเรียนอนุญาตให้นำของรักของหวงติดไม้ติดมือลูกไปได้คุณก็ควรทำไม่ว่าของชิ้นนั้นจะเป็นตุ๊กตา ผ้าห่ม หมอน หรืออะไรก็ตามพกมันไปด้วย เพราะมันจะเหมือนการพาเพื่อนสนิทของเขาไปกับเขาด้วยจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับลูกได้อีกทางหนึ่ง

4.รอยยิ้มของคุณช่วยลูกได้

เก็บความกังวลไว้ข้างใน ปล่อยรอยยิ้มออกมาให้ลูก ถ้าคุณยิ้มและเข้มแข็งลูกจะทำตามเพราะความเชื่อใจของลูกอยู่ที่คุณ ปกปิดความกังวลต่างๆ ไว้ให้มิดแล้วมาช่วยลูกสร้างความมั่นใจ คลายกังวล เตรียมมาพบกับความสดใสร่าเริงของลูกที่การไปโรงเรียนวันแรกนั้นรอมอบให้ลูกกัน

5.อยู่เป็นกำลังใจให้ลูก

โรงเรียนส่วนใหญ่นั้นในวันแรกของการไปโรงเรียนก็จะอนุญาตให้คุณพ่อคุณแม่อยู่เป็นกำลังใจให้กับลูกได้ คุณก็เพียงยืนดูลูกทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ไกลๆ ให้ลูกได้หันมามองแล้วเห็นคุณยืนยิ้มให้อยู่เสมอก็จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกได้อย่างแน่นอน

คอยสังเกตลูกดีๆ ถ้าเขาเริ่มเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่ทางโรงเรียนกำลังพาทำก็ให้คุณค่อยๆ ถอยกลับและปล่อยให้คุณครูดูแลลูกต่อไป

6.บอกลาอย่างอ่อนโยน

หลังจากเฝ้าดูจนเห็นความเพลิดเพลินและคุ้นเคยของลูกแล้วนั้น ก็ถึงเวลาที่คุณต้องกลับและปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวเองกันแล้ว คุณควรบอกลาอย่างอ่อนโยน แต่ควรสั้นๆ กระชับ พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่าตอนเย็นจะรีบมารับลูกหลังจากนั้นก็ไม่ลีลารีบกลับไปอย่างรวดเร็ว และในแต่ละขั้นตอนคุณจะต้องมีสีหน้าที่แจ่มใส มั่นใจ เพื่อเป็นการส่งมอบความรู้สึกเหล่านี้ให้กับลูก

สิ่งที่ห้ามเด็ดขาดก็คือ ห้าม! แอบออกมาตอนลูกเผลอถ้าทำแบบนั้นลูกของคุณจะระแวง วุ่นวายใจ และทำให้การอยู่โรงเรียนของลูกวันแรกเป็นสิ่งที่น่ากลัวได้ จุดนี้ต้องคอยระวังให้ดี

การไปโรงเรียนถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของลูกและคุณพ่อคุณแม่ที่จะเรียนรู้และรู้สึกไปด้วยกันการหมั่นสร้างความมั่นใจให้กันเป็นเรื่องสำคัญและเป็นพื้นฐานของพัฒนาการอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP