การคุมกำเนิดสามารถได้หลายวิธีทั้งที่ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการฉีด หรือการกินยาคุมกำเนิดรายเดือนเอง และจะมีอีกแบบคือ “ยาคุมฉุกเฉิน” จากชื่อก็บอกแล้วว่าฉุกเฉิน การกินและฮอรโมนที่มีอยู่ในตัวยาคุมฉุกเฉินก็จะต่างไปจากการกินยาคุมกำเนิดรายเดือนปกติ แต่ก่อนกินยาคุมฉุกเฉินให้ถูกต้องนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนใช้
สารบัญ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency Contraception Pill)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือ Emergency Contraception Pill นั้น ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศโปรเจสตินชนิดเดียวและยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบฮอร์โมนคู่ ซึ่งยาคุมประเภทนี้สามารถช่วยคุมกำเนิดได้แบบไม่พร้อมที่ 80 – 90% โดยประมาณ ซึ่งประสิทธิภาพในการป้องกันนั้นยังขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่กินอีกด้วย
ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินควรใช้ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์กันโดยที่ไม่ได้ใช้วิธีการคุมกำเนิดประเภทอื่น ๆ หรืออาจมีความผิดพลาดจากการคุมกำเนิด อาทิ ถุงยางแตก หรือรั่ว ขณะที่มีเพศสัมพันธ์ นับระยะที่ปลอดภัยผิด (“หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ” การลืมกินยาคุมกำเนิดรายเดือนเกิน 3 วัน และยังหมายรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ยินยอม หรือการข่มขืน
วิธีการกินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินอย่างถูกต้อง
ขนาดของยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีขนาดเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม จำนวน 2 เม็ด จำเป็นต้องรีบกินให้เร็วที่สุดหลังการมีเพศสัมพันธ์กันโดยที่ไม่ได้ป้องกัน เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งสามารถเลือกกินได้ 2 แบบด้วยกัน ดังนี้
- กินพร้อมกันทีเดียวเลย 2 เม็ด ทันทีหลังการมีเพศสัมพันธ์
- หลังมีเพศสัมพันธ์ให้รีบกินยาเม็ดแรกทันที และกินเม็ดที่สองโดยให้ห่างกัน 12 ชั่วโมง แต่ประเด็นคือ ต้องระวังไม่ให้ลืมกินเม็ดที่สอง ซึ่งส่วนใหญ่จะลืมกินกัน พอลืมกินก็เข้าใจว่ากินแค่เม็ดแรกเม็ดเดียวก็พอ แบบนี้อาจต้องเตรียมเลี้ยงลูกกันเลยค่ะ
- หากในกรณีที่ไม่สามารถกินยาได้ทันที ไม่เป็นไร ยังกินหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กันได้ซึ่งไม่ควรเกิน 3 วัน หรือต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์
- หากมีการอาเจียนหลังจากที่กินยาไปแล้ว 2 ชั่วโมง จำเป็นต้องกินยาซ้ำ
- หากกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว แต่มีเพศสัมพันธ์ซ้ำ ไม่จำเป็นต้องกินยาซ้ำอีก เพราะยาจะไม่มีผลใด ๆ และไม่ได้ส่งผลอะไรเพิ่ม
- ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉิน 2 แผง (หรือ 4 เม็ด) ในรอบเดือนเดียว เพราะยาจะส่งผลให้ระบบสืบพันธุ์สร้างฮอร์โมนที่ผิดปกติได้
- ยาคุมฉุกเฉินควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะการกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ อาจส่งผลให้การคุมกำเนิดไม่ได้ผล และที่สำคัญ ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนการกินยาคุมแบบปกติ หรือแบบรายเดือน
- หากตั้งครรภ์หรือมีการสงสัยว่าจะตั้งครรภ์ ให้หยุดกินยาคุมฉุกเฉินทันที และปรึกษาแพทย์ค่ะ
ผลข้างเคียงของการกินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
สำหรับผลข้างเคียงของการกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะค่อนข้างสูง เนื่องจากฤทธิ์ของยามีผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งภาวะความผิดปกติที่เกิดจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินที่สามารถพบได้บ่อย มีดังนี้
- หลังจากกินยาได้ไม่นาน อาการที่พบคือ คลื่นไส้ และอาเจียน
- ปวดท้อง หรือปวดศีรษะ เนื่องจากในบางรายร่างกายอาจมีการต่อต้านยาคุม หรือร่างกายต้องการปรับตามฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้เกิดอาการดังกล่าว
- ประจำเดือนมาผิดปกติ เนื่องจากไข่ตกไม่ตรงตามปกติที่เคยเป็น
- มีความเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูก
- อาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียมได้อนาคต เนื่องจากเคยมีผลงานการวิจัยระบุไว้ก่อนหน้า
ข้อควรรู้ก่อนกินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
- ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สามารถป้องกันโรคติดต่อได้ ยาประเภทนี้มีฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น ดังนั้น ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งขณะที่มีเพศสัมพันธ์
- ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช้ยาที่ทำให้แท้ง ยาชนิดนี้เป็นยาที่ป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งถ้าหากไข่ได้รับการปฏิสนธิและฝังอยู่ในโพรงมดลูกแล้ว ยานี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
- ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลอันตรายต่อการตั้งครรภ์ในรอบใหม่แต่อย่างใด
- เนื่องจากมีความเข้าใจว่ายาคุมฉุกเฉินมีผลทำให้ทารกในครรภ์พิการ โดยจากรายงานไม่พบว่าการที่ทารกพิการมาจากการกินยาคุมฉุกเฉินโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์
ขึ้นชื่อว่า “ยา” เมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะมีผลต่อร่างกาย ซึ่งยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่มีฮอร์โมนสูง ก่อนกินควรปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีใช้ก่อนนะคะ และไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนการกินยาคุมรายเดือนเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้
ข้อมูลอ้างอิง ram-hosp.co.th, samitivejhospitals.com