มีลูก ๆ บ้านไหนที่ชอบแคะขี้มูกบ้างคะ เรียกได้ว่าว่างเป็นแคะ ว่างเป็นแคะ พฤติกรรมนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ บ้านกลุ้มใจ และกังวลใจไม่น้อย แต่ปัญหานี้แก้ได้ค่ะ เพียงแต่ว่าแม่โน้ตอยากชวนคุณพ่อคุณแม่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับต้นตอกันสักนิดก่อน เพื่อการแก้ไขปัญหาจะได้แก้กันอย่างถูกจุด
สารบัญ
พัฒนาการการแคะขี้มูกของลูกน้อย
พฤติกรรมการแคะขี้มูกถือเป็นพฤติกรรมธรรมชาติของเด็กค่ะ ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อโตขึ้น แล้วอะไรล่ะ…ที่เป็นสาเหตุให้ลูกชอบแคะขี้มูก
ความอยากรู้อยากเห็นตามวัย
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการของเด็กโดยเฉพาะเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไป หรือวัยที่เริ่มคลานได้ เด็กเขาจะมีความสนใจ อยากรู้อยากเห็นโดยเฉพาะกับรูทั้งหลาย ซึ่งนอกเหนือจากรูปลั๊กไฟแล้ว รูจมูกก็เช่นกัน เขาจะสงสัยและอยากรู้ว่าในรูจมูกของเขานั้น ข้างในจะเป็นอย่างไร ซึ่งแม่โน้ตเรียกพฤติกรรมนี้ว่า “พฤติกรรมแหย่ ๆ”
โรคภูมิแพ้
ว่าด้วยเรื่องของภูมิแพ้ อาการเด่น ๆ เลยคือ มีน้ำมูก ซึ่งเป็นตัวการกระตุ้นให้ลูกแคะจมูก เพราะเมื่อมีอะไรมาอยู่ในจมูกตลอดเวลา ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกว่าน่ารำคาญ หายใจลำบาก จึงต้องคอยเอานิ้วแหย่เข้าจมูกตลอดเวลา
มีอาการคันและมีฝุ่นมากในอากาศ
อาการคันที่ว่านี้เกิดจากอากาศที่แห้งเกินไป และอากาศที่ร้อนเกินไปส่งผลให้ลูกน้อยรู้สึกคันได้ และอีกหนึ่งประเด็นคือ ลูกน้อยต้องเจอกับฝุ่นในอากาศมาก ละอองฝุ่นที่เราสูดหายใจเข้าไปก็จะไปติดอยู่กับขนจมูกภายในจมูก ซึ่งทำให้ลูกน้อยรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ และรำคาญนั่นเอง แนะนำถ้าเป็นเรื่องของอากาศ ลองหาเครื่องฟอกอากาศสักเครื่อง อาจเปิดเฉพาะเวลานอนขณะที่เปิดแอร์ก็ได้ค่ะ แม่โน้ตก็ใช้วิธีนี้
เครียด เบื่อ กังวล
อาการเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ลูกน้อยยังอยู่ในวัย 3 เดือนขึ้นไป โดยพฤติกรรมจะแสดงต่างกันออกไปตามแต่ละช่วงวัย อาทิ ชอบกัดเล็บ นอนกัดฟัน ชอบดึงผม รวมไปถึงชอบแคะขี้มูก พฤติกรรมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลไกในการป้องกันตัวเองจากความเครียด รวมถึงเป็นการลดความเบื่อจากกิจกรรมบางอย่าง เช่น การต่อแถวนาน ๆ เป็นต้น
ต้องการเรียกร้องความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่
- สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาสักหน่อยเริ่มนับได้จากเด็กที่อยู่ในช่วงวัย 3 ขวบ ขึ้นไป เด็กวัยนี้จะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ให้ความรักหรือความใส่ใจลูกอย่างเต็มที่ เขาจะเริ่มมีพฤติกรรมที่เรียกร้องความสนใจ เขาจะเรียนรู้ว่าสิ่งไหนที่ทำแล้วคุณพ่อคุณแม่จะหันมาสนใจเขา อาทิ การร้องกรี๊ดในที่สาธารณะ การลงไปนอนดิ้นกับพื้น รวมไปถึง การแคะขี้มูก
- เด็กวัย 5 – 9 ขวบ เด็กในวัยนี้เขาจะรู้แล้วว่าการแคะจมูกในที่สาธารณะเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสม ถ้าทำ…คุณพ่อคุณแม่จะมะพอใจ แต่เขาก็เรียกร้องความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ได้
- เด็กวัย 7 – 10 ขวบ จะใช้วิธีการแคะจมูกเป็นวิธีในการตอบโต้ และต้องการให้คุณพ่อคุณแม่ไม่พอใจ
วิธีรับมือลูกชอบแคะขี้มูก
การแคะจมูกเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้เส้นเลือดฝอยในจมูกแตก หรือดีไม่ดีอาจทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาได้ ซึ่งการแคะจมูกมาก ๆ อาจไปทำลายเยื่อบุโพรงจมูก ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยปรับพฤติกรรมลูกได้ ดังนี้
- เลี่ยงสถานที่ที่มีอากาศแห้งเกินไป ซึ่งถ้าเป็นในบ้าน ลองหาเครื่องทำความชื้นมาเสริม แบบนี้จะช่วยได้มากทีเดียวค่ะ
- พยายามชวนลูกทำกิจกรรมหรือนั่งเล่น นั่งคุยกับลูก พยายามอย่าให้ลูกมือว่าง หรือจะเรียกว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจลูกนั่นเองค่ะ
- ปลูกฝังสุขอนามัยที่ดีให้ลูก ด้วยการล้างมือทุกครั้งหลังจากไปแตะต้องสิ่งสกปรกมา
- ปลูกฝังให้ลูกสั่งน้ำมูกกับกระดาษทิชชู่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมว่าการแคะจมูก ซึ่งบางครั้งอาจเผลอตัวไปแคะจมูกในที่สาธารณะ
- รับมือกับโรคภูมิแพ้ของลูก โดยอาจไปปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อรับคำแนะนำ
- หากยังเห็นลูกแคะจมูกในที่สาธารณะอยู่ ให้คุณพ่อคุณแม่ใจเย็น ๆ แล้วอธิบายให้ลูกฟัง พฤติกรรมนี้ควรทำในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เช่น ที่บ้าน หรือในห้องน้ำ
การที่คุณพ่อคุณแม่จะปรับแก้พฤติกรรมอะไรสักอย่างของลูกนั้น ต้องอาศัยระยะเวลาค่ะ ซึ่งการอาศัยระยะเวลานั้น ด้วยนัยของมันก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็น ค่อย ๆ พูดกับลูกด้วยเหตุผล และแน่นอน คงไม่ใช่แค่พูดครั้งเดียวจบ ลองคิดอย่างนี้ค่ะว่า ถ้าต้องการให้ลูกเป็นเด็กที่มีบุคลิกภาพดี ไม่เป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นเมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มใจเย็นเสียตั้งแต่วันนี้นะคะ แล้วผลลัพท์ที่ได้จะคุ้มค่ามากทีเดียว