ลูกขาดความมั่นใจ เกิดจากอะไร?

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

เคยไหมคะที่คุณพ่อคุณแม่ยืนมองลูกของคนอื่นเค้ากล้าเล่น กล้าพูด มีความมั่นใจ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่พอหันมามองที่ลูกตัวเอง ถอนหายใจ และคิดในใจ “ทำไมลูกเราไม่มีความมั่นใจได้แบบนี้บ้างนะ?” วันนี้เราจะมาเจาลึกถึงสาเหตุกันค่ะว่าเพราะอะไร

ลูกขาดความมั่นใจ เกิดจากอะไร?

สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเป็นคนที่ขาดความมั่นใจมักมาจากการเลี้ยงดูของคนในครอบครัวค่ะ เพราะเด็กจะได้รับอิทธิพลจากพฤติกรรมของผู้ใหญ่ และผลกระทบที่ส่งต่อมายังเด็ก ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

ทำให้ลูกทุกอย่าง

ในฐานะที่เป็นแม่คนแล้ว โน้ตเข้าใจค่ะว่าแม่รักลูกนั้นเป็นอย่างไร และเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็รักลูกเหมือนกัน แต่มันอยู่ที่การใช้ “ความรัก” ให้ถูกทางต่างหาก คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ออกมาให้ได้ดั่งใจเราที่สุด จึงยอมทำเอง ทำให้ลูกทุกอย่าง ลูกจึงขาดทักษะพื้นฐานในการใช้ชีวิต เช่น การช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวัน และลูกเติบโตขึ้นลูกก็จะยิ่งขาดทักษะในการใช้ชีวิตมากขึ้นไปอีก เมื่อเจอกับปัญหาไม่รู้ว่าจะต้องแก้ไขอย่างไร ไม่รู้จักการวางแผน เมื่อต้องออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ลูกจึงขาดความมั่นใจ ไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจ

ลูกเกิดความกลัวจากคำพูด

คำพูดของคุณพ่อคุณแม่มีผลอย่างมากกับลูกค่ะ การพูดอะไรก็ตามไม่ว่าจะแง่ลบหรือว่าแง่บวก ลูกจะจำได้ขึ้นใจ เช่น ถ้าลูกต้องการจะช่วยตั้งโต๊ะอาหารให้ คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกถือกระบอกน้ำของตัวเองก่อน แล้วบอกกับลูกว่า “ระวังน้ำหกนะ” แบบนี้จะทำให้ลูกรู้สึกว่า ถ้าน้ำหกต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ เพราะฉะนั้น ลองเปลี่ยนคำพูดดูค่ะ เป็น “จับแน่น ๆ นะคะ ประคองไว้สองมือแบบนี้” ทั้งสองประโยคมีนัยเหมือนกันแต่ต่างกันตรงวิธีการใช้คำพูด ซึ่งประโยคหลังฟังดูนุ่มนวลและดูห่วงใยกว่า

เข้มงวดมากเกินไป

ทุกครอบครัวต้องมีกฎกติกาค่ะ แต่การใช้แบบเข้มงวดเกินไป จะกลายเป็นส่งผลให้ลูกไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะกลัวผิดไปเสียทุกอย่าง ลูกจะไม่กล้าคิดนอกกรอบ รวมถึงไม่กล้าสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ซึ่งส่งผลต่ออนาคตแน่นอน

กลัวความผิดหวัง

เด็กบางคนถูกคาดหวังจากครอบครัวเอาไว้มาก เด็กต้องรับแรงกดดันอยู่ตลอดเวลา เด็กจะฝังหัวว่าเขาต้องรับภาระ ทำความหวังของครอบครัวให้สำเร็จ กลายเป็นทุกก้าวย่าง ทุกการตัดสินใจของลูกต้องเดินอย่างระมัดระวัง ซึ่งหากวันนั้นมาถึง ต้องผิดหวังจริง ๆ คราวนี้ความมั่นใจลูกจะยิ่งไม่เหลือเลย ซึ่งเดิมก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว

ลูกขาดที่ปรึกษา

เด็กในวัย 3-5 ขวบขึ้นไป เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ช่างซัก ช่างถาม ยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยเรียนเขาจะต้องไปเจอกับผู้คนที่มากหน้าหลายตา เมื่อเขามีปัญหาขึ้นในชีวิต แม้ว่าบางปัญหาผู้ใหญ่อาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กก็ตาม แต่เด็กน้อยที่ยังขาดประสบการณ์ เขามองไม่เห็นทางออก แต่…หากลูกไม่มีที่ปรึกษา ก็เหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ ให้คิดเอง หาทางออกเองซึ่งอาจเป็นทางออกที่ผิดก็ได้ เมื่อลูกออกทางผิดบ่อย ๆ ก็เป็นธรรมดาที่ลูกจะขาดความมั่นใจ และสุดท้ายอยากเก็บตัวเงียบ

ถูกวิจารณ์ในทุกความคิดและการกระทำ

เพราะเด็กในวัยนี้ยังสนุกกับการเรียนรู้ โลกของเขายังสนุก สดใส ร่าเริง แต่คุณพ่อคุณแม่ลองจินตานาการตามนะคะ หากลูกกำลังเล่นสนุก ๆ อยู่ดี ๆ คุณแม่ก็ดุลูกเพราะด้วยความผิดเล็กน้อย ที่เกิดจากความอยากเรียนรู้ของลูก เมื่อถูกตำหนิบ่อย ๆ โลกของเขาที่เคยสนุก สดใส คงเงียบเหงาลงในไม่ช้า เหล่านี้จะส่งผลต่อจิตใจเด็กได้ ในอนาคต

ลูกถูกเปรียบเทียบ

แทบจะเป็นกฎเหล็กเลยก็ว่าได้ค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่ห้ามนำลูกไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะคิดง่ายๆ นะคะ ถ้าเป็นเราถูกนำไปเปรียบเทียบบ้างเราจะรู้สึกอย่างไร? เอาใจเขามาใส่ใจเรา การนำลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่น นอกจากจะไม่เกิดผลดีแล้ว ยังจะทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่รักเขาอีกด้วยนะคะ

“รักลูก” แต่ต้องใช้ให้ถูกทางนะคะ เพราะผลที่เกิดขึ้นในวันนี้ ย่อมเกิดจากเหตุในอดีตที่คุณพ่อคุณแม่หรือผู้เลี้ยงดูได้ทำไว้ก่อนหน้า ถ้าหากวันนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกกลับมาเป็นเด็กที่มีความมั่นใจ สามารถเริ่มได้จากการนั่งทบทวนตัวเองในเรื่องการเลี้ยงดูที่ผ่านมาว่าเรามาถูกทางหรือยัง แต่ต้องไม่เข้าข้างตัวเองนะคะ แล้วค่อยปรับกันไปทีละเรื่อง ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร แต่ไม่ยากเกินความสามารถของคุณพ่อคุณแม่หรอกค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP