มาดูแลสายตาลูกให้ปลอดภัยจาก Smart Phone กัน

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ Smart Phone ในยุคนี้แน่ๆ ว่ามันเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเราตั้งแต่เรื่องส่วนตัวไปจนถึงเรื่องทำงาน และแน่นอนเลยว่าการเลี้ยงลูกในยุคนี้จะปราศจาก Smart Phone ก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากพอสมควรเลยทีเดียว

ลูกเองก็สามารถได้รับประโยชน์จาก Smart Phone มากมายหลายอย่างเลยทีเดียวทั้งในเรื่องของความสนุกสนานจากเกมส์และการ์ตูน การเสริมทักษะและพัฒนาการให้ลูกจากแอพฯ ต่างๆ แต่นั่นแหละทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ และข้อเสียของ Smart Phone นั่นก็คือแสงสีฟ้าที่มีผลเสียตาสายตาของคนเราเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่ดวงตายังไม่ค่อนแข็งแรงมากเท่าไรนักอาจจะทำให้ได้รับผลเสียจากจุดนี้ไปมากพอสมควรเลยทีเดียว

แต่ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ลูกจะต้องเล่นหรือเรียนรู้จาก Smart Phone ดังนั้นเราควรมาเรียนรู้วิธีป้องกันและให้ลูกอยู่ร่วมกับ Smart Phone อย่างเหมาะสมกันจะดีกว่า

เทคนิคการดูแลสายตาลูกน้อยให้ปลอดภัยจาก Smart Phone

1.จัดตารางเวลาในการเล่น Smart Phone ให้ลูก

ความมีระเบียบนี่แหละที่จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมได้ทั้งพฤติกรรมและสุขภาพสายตาของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี

โดยเวลาที่แนะนำสำหรับเด็กที่อายุยังไม่เกิดช่วงประถมฯ ไปควรจะอยู่กับหน้าจอ Smart Phone อย่างต่อเนื่องเพียง 1-2 ชั่วโมงก็ถือว่ามากพอแล้ว หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ควรหากิจกรรมอื่นๆ ให้เขาได้ไปเล่นไปทำเพื่อพัฒนาด้านอื่นๆ และไม่ให้เขายึดติดอยู่กับแค่ Smart Phone นั่นเอง

2.ดื้อมากก็ต้องรับมือด้วยกฎ 20-20-20

แน่นอนว่ามันต้องมีกรณีลูกไม่ยอมฟังและไม่ยอมทำอะไรนอกจากเล่น Smart Phone อย่างแน่นอนหรืออาจจะเกิดจากการที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่มีเวลามากพอที่จะพาไปทำกิจกรรมอื่นดังนั้นก็มีวิธีมาช่วยป้องกันไว้แล้วนั่นก็คือ กฎ 20-20-20 นั่นเอง

เริ่มจากเมื่อลูกอยู่กับหน้าจอครบ 20 นาทีแล้วก็ให้พักเพื่อมองหาธรรมชาติต้นไม้ใบเขียวเพื่อพักสายตาสัก 20 วินาทีและสุดท้ายอย่าลืมให้ลูกกระพริบตาถี่ๆ อีกไม่ต่ำกว่า 20 ครั้งด้วย

3.อย่าลืมมองหาตัวเลือก Eyes Protection เข้ามาช่วยสายตาอีกแรง

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างรวดเร็วและนักพัฒนาก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ใจสายตาของผู้ใช้ด้วยแล้วนั้นจึงมีการพัฒนาตัวเลือกใน Smart Phone ออกมาเพื่อที่จะช่วยปกป้องสายตาของผู้ใช้อีกแรงหนึ่ง

คุณลองมองหาแอพฯ Bluelight Filter ใน App Store หรือ Play Store ใน Smart Phone ของคุณดูสิแล้วก็อย่าลืมใช้มันก่อนที่จะยื่นเจ้า Smart Phone ไปให้ลูกของคุณเล่นกันด้วย

4.ปรับแสงที่หน้าจอให้พอดี

นี่ก็เป็นวิธีพื้นฐานอีกตัวหนึ่งที่ Smart Phone สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการดูแลสายตาของทั้งคุณและลูกน้อยจากการเล่น Smart Phone ได้

แต่แน่นอนว่าทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนความพอดีปรับแสงหน้าจอให้อยู่ในระดับที่คุณรู้สึกสบายตาไม่สว่างไปและไม่มืดจนเกินไป

5.อย่าลืมพาลูกน้อยไปตรวจสุขภาพสายตาและดวงตาเป็นประจำ

นี่เป็นสิ่งที่แม้จะไม่มี Smart Phone เข้ามาเกี่ยวข้องคุณก็ควรทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ สามารถทำได้ตั้งแต่ยังเด็กไปจนถึงวัยรุ่นเลยก็ได้และแน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่เองก็ควรร่วมตรวจด้วยอย่างส่ำเสมอเช่นเดียวกัน

นี่ก็เป็นเพียงเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่หยิบมาฝากกันให้คุณพ่อคุณแม่ได้เอาไปใช้เพื่อดูแลสายตาของลูกน้อยให้ปลอดภัยจาก Smart Phone แต่ที่สำคัญความใส่ใจที่หากิจกรรมอื่นๆ นอกจากการเล่นแต่ Smart Phone ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรละเลยและปล่อยให้เจ้า Smart Phone กลายมาเป็นพี่เลี้ยงของลูกคุณอย่างเต็มตัว

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP