กินอย่างไรไม่ให้อ้วน เมื่อต้อง work from home

ไลฟ์สไตล์

หลายคนเริ่มออกปากบ่นแล้วว่าตั้งแต่อยู่บ้าน work from home นี่น้ำหนักขึ้นทุกวัน บางคนคิดบวก บอกว่าไม่เป็นไรกินเข้าไปแหละ เดี๋ยวก็ขับถ่ายออกน้ำหนักก็ลงเอง แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิคะ น้ำหนักมันค้างอยู่ คราวนี้แหละความอ้วนถามหา แล้วจะกินอย่างไรไม่ให้อ้วน เมื่อต้อง work from home ไปติดตามกันค่ะ

ชนิดของโรคอ้วน

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้

อ้วนแบบลูกแอปเปิลหรืออ้วนลงพุง

คือ ร่างกายมีการสะสมไขมันไว้บริเวณกลางลำตัว และอวัยวะภายในช่องท้องที่มากเกินไป และมีความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ เช่น โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

อ้วนแบบลูกแพร์

ร่างกายสะสมไขมันในบริเวณสะโพกและน่องมากเกินไป ซึ่งโอกาสในการเกิดโรคแทรกซ้อนจะน้อยกว่าแบบแรก

กินอย่างไรไม่ให้อ้วน เมื่อต้อง work from home

เน้นกินผัก และผลไม้

เป็นที่รู้กันดีว่าผัก และผลไม้เป็นอะไรที่มีประโยชน์มาก มีใยอาหารสูง แต่การกินผลไม้ก็ควรเลือกผลไม้ที่ไม่มีแป้งหรือน้ำตาลเยอะ ที่สำคัญควรกินสด ไม่ควรกินเป็นแบบน้ำผลไม้ปั่น แบบนี้ก็จะไม่ช่วยอะไร

เลี่ยงอาหารทอด และอาหารติดมัน

เพราะอาหารทอดจะมาคู่กันกับอาหารที่มัน ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความอ้วนได้ ไม่ต่างกับอาหารที่ติดมันมาก ๆ อาทิ กุนเชียง หนังไก่ หมูสามชั้นทอดกรอบ และกากหมู เป็นต้น

ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

คำว่า “เพียงพอ” อาจจะประมาณได้เท่ากับการดื่มน้ำสะอาด 8 – 12 แก้ว/วัน เนื่องจากน้ำจะเป็นตัวเร่งระบบการเผาผลาญในร่างกาย จึงสามารถช่วยขจัดไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย ที่สำคัญหากใครที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอย่างจริงจัง สามารถดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้ออาหาร ก็จะช่วยให้เราอิ่มเร็วขึ้น

อาหารเช้าสำคัญ

อาหารเช้านับเป็นมื้อที่สำคัญของวัน เพราะร่างกายเราไม่ได้รับอาหารมาตลอดทั้งคืน ดังนั้น หากใครที่ไม่ได้กินอาหารเช้าในเวลา 06:00 – 10:00 น. ล่ะก็ อาจจะหิวหนักในมื้อถัดไป ซึ่งจะกลายเป็นว่าทำให้กินมากขึ้นกว่าเดิม

กินเพื่ออยู่

หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่าเราควร “กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” เพราะการลดหรือควบคุมน้ำหนักนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเรากินอะไรเข้าไป แต่มันอยู่ที่ว่าเรากินอะไรเข้าไปต่างหาก มีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่ มากหรือน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นทราบแล้วเปลี่ยน เปลี่ยนพฤติกรรมการกินแบบด่วน ๆ ค่ะ

ออกกำลังกาย

เป็นวิธีที่คนทั่วโลกแนะนำกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะการออกกำลังกายเป็นวิธีที่ช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ได้ในระยะยาว ที่สำคัญ ยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่ให้กลายเป็นพลังงานได้อีกด้วย ลองหาเวลาออกกำลังกายด้วยการเดินวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เท่านี้ร่างกายก็จะไม่มีไขมันสะสมในร่างกายในปริมาณมาก ๆ แล้วล่ะค่ะ

ไม่ตุนอาหารมากเกินไป

เคยไหมคะ เวลาจะไปซื้อของแต่ละทีก็ไม่ค่อยรู้หรอกค่ะว่าจะซื้ออะไรดี แต่ตอนง่ายเงิน ขนม น้ำเต็มรถเข็นเลย และที่สำคัญ ไม่ควรกินไปดูทีวีไป เพราะความเพลินคือหนทางแห่งความอ้วน

เพิ่มการกินข้าวกล้อง

ในข้าวกล้องนอกจากจะมีคาร์โบไฮเดรตแล้ว ยังมีวิตามิน เกลือแร่มากมายหลายชนิดจากเยื่อหุ้มและจมูกข้าวซึ่งไม่ได้ถูกขัดออกไปเหมือนข้าวขาว

ลดชา กาแฟ ครีมเทียม

เพราะการดื่มชาหรือกาแฟมากกว่า 2 แก้ว/วัน จะส่งให้เกิดความอ้วนได้ ซึ่งยังไม่นับรวมผู้ที่ชอบดื่มกาแฟแบบใส่ครีมเทียมซึ่งเป็นการเพิ่มแคลอรี่ในร่างกาย

ไม่อดอาหาร

การอดอาหารเป็นอะไรที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งค่ะ เพราะหากเรายิ่งอดอาหารมากเท่าไหร่ก็จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ที่สำคัญจะทำให้หิวมากขึ้น และก็จะกินมากกว่าปกติ

แบ่งกินเป็นบางส่วน

หลายคนบอกเสียดายที่กินไม่หมด แต่ถ้าในหลักการของการลดหรือควบคุมน้ำหนัก เราควรแบ่งอาหารในจานออกเป็น 4 ส่วนแล้วกิน 3 ส่วน หรืออีกหนึ่งวิธีก็คือ ให้จัดปริมาณอาหารเท่ากับ 3 ส่วนที่เราเคยกิน แบบนี้ก็จะได้ไม่เหลือทิ้งค่ะ

มื้อเย็นกินแต่น้อย

มื้อเย็นกินได้ค่ะ แต่ในปริมาณที่น้อยลงกว่ามื้ออื่น ๆ ซึ่งแน่นอนสิ่งที่ควรงดเลยก็คือ พวกขนมขบเคี้ยว น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมหลังมื้ออาหาร เพราะร่างกายจะเข้าสู่โหมดการพักผ่อน ทางที่ดีคือควรให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการย่อยอาหารสักหน่อย แล้วค่อยไปเริ่มใหม่ในวันถัดไปจะดีกว่า

ใครที่ต้อง work from home ลองนำเทคนิคนี้ไปกันดูนะคะ และที่สำคัญก็คือ “ตั้งสติ” ค่ะ ไม่หยิบโน่น หยิบนี่กินตลอดเวลา เพราะความอ้วนจะถามหาได้

ข้อมูลอ้างอิง bangkokhospital.com, mccormickhospital.com

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP