ชีวิตก่อนและหลังมีลูก ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ต้องบอกว่าจากชีวิตคู่ ที่อยากไปไหนมาก็ได้ เพราะมีกันอยู่สองคน สะดวก อยากแต่ตัวสวย แต่งตัวหล่อกันแค่ไหนก็เอาที่สบายใจแต่…ทันที่รู้ว่าตั้งครรภ์…

“เย้….ลูกมาแล้ว”

วินาทีนั้นเอง ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่อาหารการกิน การเดิน นั่ง ยืน นอน ความเจ็บปวดของร่างกายเมื่อท้องโตขึ้น เวียนหัว อาเจียน เท้าบวม แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่พูดมานี่ไม่มีอะไรน่ากลัวนะคะ เพราะมันยังอยู่บนพื้นฐานของ “ความสุข” อยู่นั่นเองค่ะ

อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้วก็ยังไม่เห็นมีอะไรเลย ใช่ค่ะ เพราะตอนท้องนั้นการเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ยังไม่ชัดมาก ถ้าเทียบกับ “หลังคลอด” วันนี้โน้ตจะชวนคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มาดูกันว่า Before – After ก่อนและหลังของการมีลูกแล้วนั้น ไลฟ์สไตล์ของคุณแม่หรือชีวิตคู่นั้นมีอะไรบ้างที่เปลี่ยนแปลงไป

ก่อนและหลังมีลูกกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป

การร้องเพลง

ก่อน : “ฉันจะอยู่เป็นของเธอ จะรัก จะดีกับเธอ ขอให้เธอได้รู้ไว้…”
หลัง : “เดอะวีลออนเดอะ บัส โก ราวน์แอนด์ราวน์ออลทรูเดอะทาวน์…”

รับรองค่ะว่าคุณแม่ต้องร้องเพลงนี้ท้างงง…วัน จนรู้สึกว่าใครก็ได้เอาเพลงนี้ออกไปจากหัวที

ทำความสะอาดบ้าน

ก่อน : โอเคล่ะ กวาดบ้านอาจกวาดได้ทุกวัน ถูบ้าน 2 วันครั้ง
หลัง : กวาดทุกวัน ถูทุกวัน

บางครั้งต้องเช็ดทำความสะอาดฝุ่นตามเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือนอื่นๆ อีกด้วยนะคะ เพราะระบบทางเดินหายใจของเด็กยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่และหลอดลมเค้าเล็กมาก อาจทำให้ระคายเคืองจนเกิดความเจ็บป่วยได้

หลบแดดจากในรถเวลาไปเที่ยว

ก่อน : แม่เองอาจมีเจอกับแสงแดดบ้างทนได้
หลัง : จับลูกย้ายที่นั่งหรือพกที่บังแดดไว้ในรถ เพื่อหลบแดด บางครั้งยอมถือผ้าอ้อมให้ลูกจนถึงจุดหมายปลายทางเลยก็มี

ทำกับข้าว

ก่อน : เมื่อก่อนอยู่กันแค่ 2 คน อร่อยหรือไม่อร่อยก็ได้ เรากินง่าย
หลัง : คุณแม่จะพยายามหาเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกเสมอ เพราะกลัวลูกเบื่อและไม่ยอมกินข้าว ที่สำคัญ ต้องอร่อยด้วย

การเอาลูกเข้าเต้า

ก่อน : นึกภาพไม่ออกว่าลูกเข้าเต้าเราจะเป็นยังไง จะจั๊กจี๋ไหม
หลัง : อยากให้ลูกดูดบ่อยๆ เพราะแม่คัดเต้ามาก ทั้งเจ็บ ทั้งปวด

บางครั้งทำเอาไข้ขึ้นเลยก็มี หรือบางทีลูกดูดแล้ว แต่ด้วยความที่แม่ผลิตน้ำนมได้เยอะ ก็ต้องมานั่งปั๊มนมตอนตี 2

คุยกับสามีเรื่องไปเที่ยว เรื่องกิน เรื่องช้อปปิ้ง

ก่อน : มีกันอยู่ 2 คน วันหยุดก็จะไปหาที่เที่ยว ที่กิน สถานที่ใหม่ๆ แวะช้อปปิ้งระหว่างทางชิลล์ๆ
หลัง : จุดหมายต้องเป๊ะจะเถลไถลได้บ้างแต่ก็ได้ไม่นาน เพราะเดี๋ยวลูกร้องงอแง โดยเฉพาะเวลาที่ง่วง

กระเป๋าคุณแม่

ก่อน : กระเป๋าหนังแฟชั่น สวยๆ เริ่ดๆข้างในมีเครื่องสำอาง มือถือ (แค่เครื่องสำอางก็ครึ่งกิโลกรัมแล้วค่ะ)
หลัง : เป้สะพายหลังที่ข้างในประกอบไปด้วยทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก ขวดน้ำ ขวดนม แซมบัคเบบี้ออยล์ ครีมทากันยุง ผ้าอ้อม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ชุดสำรองลูก 1 ชุด หมวกกันแดด

ส่วนเครื่องสำอางแม่ เหลือแค่ตลับแป้ง 1 ตลับ ลิปสติก 1 แท่ง กระดาษซับมัน 1 ห่อ แค่นั้น 555

เรื่องหนังที่เข้าฉายในโรงหนัง

ก่อน : เรื่องนี้ก็ดีนะ เข้าชิงออสการ์ด้วย อาทิตย์หน้าค่อยดูอีกเรื่องนะ ได้รางวัลลูกโลกทองคำ
หลัง : เรื่องนี้ไงที่ผู้กำกับได้รางวัล ว่าแต่นมลูกพอกินไหม เสื้อผ้าคับไปหรือยัง จุกนมพอใช้ไหม

คุยเรื่องอื่นๆ ได้ไม่เท่าไหร่ วกเข้าเรื่องลูกอีกแล้ว มันจะเป็นแบบนี้อัตโนมัติค่ะคุณแม่ ไม่ต้องตกใจและไม่ต้องพยายามเลี่ยงนะ เพราะลูกเรามีพลังอำนาจเหนือเราจริงๆ^^

จะเห็นได้ว่าชีวิตคู่จะเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากแต่จะบอกว่าไม่เหนื่อยเลยก็ดูจะโกหกไป แต่…เป็นความเหนื่อยที่มีรางวัลตอบแทนเป็น “รอยยิ้มของลูก” เป็นความสุขของคนเป็นพ่อเป็นแม่น้ำหนักของความเหนื่อยมันจึงเบากว่าความสุขไปโดยปริยาย เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวนะคะ