ความเครียด ทำให้มีลูกยากจริงหรือ?

ไลฟ์สไตล์
JESSIE MUM

ในสังคมปัจจุบัน มีสามีภรรยาหลายคู่ที่แต่งงานแล้วยังไม่มีลูก แต่ก็อยากมีลูก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหากปรึกษาแพทย์ ในกรณีที่สุขภาพร่างกายของทั้งคู่ปกติดี แพทย์มักจะแนะนำให้พยายามด้วยวิธีทางธรรมชาติก่อน ซึ่งปัญหาสำคัญที่หลายๆ คนได้ทราบมาคือ ความเครียด เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ยังไม่มีลูก เรื่องนี้จริงหรือไม่ หรือยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก วันนี้โน้ตสรุปมาให้แล้วค่ะ

ความเครียด ทำให้มีลูกยากจริงหรือ?

ความเครียดหากมีอาการแค่ระยะสั้นๆ เพียงไม่กี่วันอาจไม่ส่งผลอะไรต่อร่างกาย ไม่ส่งผลต่อการตกไข่สักเท่าไหร่ แต่หากมีอาการเครียดเรื้อรัง เป็นสัปดาห์ อย่างนี้ไม่ดีแน่ เพราะจะทำให้ยืดเวลาในการที่ไข่ตกออกไปอีก ดังนั้น จากเดิมที่เคยคำนวณวันไข่ตกเอาไว้ก็จะคลาดเคลื่อนได้

วิธีรับมือกับความเครียด

เป็นเรื่องปกติค่ะ ที่ทุกคนจะมีความเครียด เรามีความเครียดได้แต่ก็ต้องรู้จักปล่อยวางให้ได้ค่ะ ทำอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ

ปรึกษากับคนรัก

ให้พูดคุยปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในกันตรงๆ ไม่ประชด หรือพูดถากถางกัน หาวิธีแก้ไขร่วมกัน อาจชวนกันไปดูหนัง ไปเที่ยงตากอากาศ เปลี่ยนบรรยากาศกันสองต่อสอง ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ที่สำคัญ ควรให้ความเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้สามารถลดความเครียดลงได้ค่ะ

ปรับเปลี่ยนวิธีคิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการตั้งครรภ์ ไม่ควรเปรียบเทียบกับคนอื่น ว่าทำไมเราทำทุกอย่างเหมือนที่คนอื่นทำแล้ว แต่เรายังไม่มีลูกสักที ในขณะที่คนอื่นมีแล้ว แบบนี้นอกจากจะไม่ส่งผลดีอะไรแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเครียดให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัวอีกด้วยค่ะ

เขียนลงบนกระดาษ

มีผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านแนะนำว่าถ้าไม่รู้จะใช้วิธีไหนแล้ว ให้เขียนลงบนกระดาษ เขียนลงไปทุกเรื่องเลยค่ะ หลังจากเขียนครบแล้วให้ฉีกกระดาษและโยนทิ้ง วิธีนี้ก็จะช่วยให้บรรเทาอาการเครียดได้ เพราะดีกว่าจะไประบายอารมณ์ใส่ใกล้ตัวหรือคนอื่นๆ

ทำงานอดิเรกที่รัก

ลองมองหา ลองนั่งทบทวนดูว่าเราชอบทำอะไร สนใจในสิ่งไหนบ้าง อะไรที่ทำแล้วเรามีความสุขเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมนั้น เอาที่แบบลืมเวลากันไปเลยยิ่งดีค่ะ เพราะจะทำให้เรารู้สึกว่าเวลาเดินไปไว แต่ก็อย่าถึงขั้นลืมเวลาทานข้าวกันนะคะ

ออกกำลังกาย

จะออกไปวิ่ง ไปเดินเล่น หรือจะไปฟิตเนส ฯลฯ อะไรก็ได้ค่ะที่ได้ออกแรง ออกกำลัง เพราะการที่ให้เหงื่อได้ระบายออกบ้าง การได้ใช้แรงจากกล้ามเนื้อบ้าง ถือเป็นการได้ระบายออกอีกทางหนึ่งค่ะ ซึ่งในการออกกำลังแต่ละครั้งควรใช้เวลามากกว่า 45 – 60 นาที นะคะ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ไม่มากและไม่น้อยเกินไป

ใช้วิธีผ่อนคลายร่างกาย

คือ การให้เวลาตัวเองได้นั่งนิ่งๆ นั่งในท่าที่ผ่อนคลาย หลับตา ปล่อยให้ตัวเองได้ฟังเสียงรอบๆ ข้าง หรือจะทำสมาธิ สูดลมหายใจเข้า-ออก หรือจะทำโยคะ แบบนี้ก็ได้เช่นกัน เหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกได้ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์มากขึ้น

ปัจจัยอื่นที่ทำให้มีลูกยาก

นอกจากความเครียดที่มีผลต่อการตั้งครรภ์แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกด้วยนะคะ ดังนี้

ดื่มแอลกอฮอล์มาก

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ และไวน์ การดื่มเครื่องเหล่านี้มากเกินไปส่งผลให้ลดโอกาสในการมีลูกลงถึง 50% เนื่องจากจะส่งผลต่อปริมาณอสุจิ โดยอสุจิจะลดลง ไม่แข็งแรง เคลื่อนไหวได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือบางทีอาจมีรูปร่างที่ผิดปกติไป นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการดูดซึมอาหารของร่างกายที่จำเป็นต่อความแข็งแรงของตัวอสุจิลดลงได้อีกด้วย

สูบบุหรี่หนัก

ใครที่สูบบุหรี่หนักหรือสูบบุหรี่ไม่หนัก แต่สูบเป็นประจำ พฤติกรรมเหล่านี้ก็ส่งผลทำให้ฮอร์โมนผิดปกติ จำนวนอสุจิลดลง อสุจิไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการลดการตกไข่ของผู้หญิง และลดประสิทธิภาพของผนังมดลูกที่จะใช้เป็นจุดฝังตัวของตัวอ่อนอีกด้วย

อายุที่มากขึ้น

โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุมากกว่า 30 ปี ขึ้นไป เพราะฮอร์โมนก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ไข่ก็อาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าวัยเจริญพันธุ์ อาจทำให้ทารกมีความผิดปกติได้ เช่น โรคตับโต ม้ามโต โรคดาวน์ซินโดรม และโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นต้น

น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์

ปัญหาน้ำหนักที่ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวมากไป เดี๋ยวน้อยไป เหล่านี้ส่งผลให้ร่างกายต้องมีการปรับตัว ซึ่งส่งผลต่อการมีลูกได้ยากมากขึ้น ที่สำคัญอาจมีความเสี่ยงต่อการแท้งได้ง่ายอีกด้วย ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ อาจต้องใช้เวลานานกว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติถึง 4 เท่า ส่วนผุ้หญิงที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ต้องใช้เวลามากกว่า 2 เท่า ในขณะที่ผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินจะมีจำนวนอสุจิลดลงถึง 22% มีความเข้มข้นลดลง 24%

การมีลูกว่าที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำใจให้สบายค่ะ และพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ เพราะนอกจากจะไม่ส่งผลดีต่อตัวเองแล้ว หากวันใดตั้งครรภ์ แต่คุณแม่ยังไม่หยุดกิจกรรมเหล่านี้จะส่งเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วยนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP