เพราะการมีสุขภาพดีเป็นเรื่องใคร ๆ ก็ต้องการ หลายคนไม่ได้ต้องการแค่ร่างกายที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม แต่ต้องการลดน้ำหนักเลยทีเดียว พยายามควบคุมในเรื่องอาหารการกิน และโภชนาการต่าง ๆ เน้นคีโตบ้าง และออกกำลังกายไปคู่กันบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มน้ำเปล่าสะอาดในปริมาณหนี่งแล้ว น้ำก็สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดีเช่นกัน ว่าแต่ต้องดื่มน้ำในปริมาณเท่าไหร่ เวลาไหนถึงจะเห็นผล วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากค่ะ
สารบัญ
6 เคล็ดลับ การลดน้ำหนัก ด้วยการดื่มน้ำ
การลดน้ำหนัก นอกเหนือจากการออกกำลังกาย และควบคุมเรื่องอาหารแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยได้ นั่นคือการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ
ดื่มน้ำหลังตื่นนอน
โดยทั่วไปแล้วร่างกายของผู้ชายจะต้องการน้ำเปล่าสะอาด ประมาณ 13 แก้ว ในขณะที่ผู้หญิงต้องการ ประมาณ 9 แก้ว ต่อวัน ฝึกให้ตื่นเช้าในทุกวัน แล้วร่างกายจะจำเวลานั้น ๆ เมื่อถึงเวลาร่างกายก็จะทำงานตามระบบที่มันเคยได้รับการฝึกไว้
หลังจากตื่นนอนตอนเช้า (06:30 – 07:00 น.) ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดทันที 1 แก้ว เนื่องจากร่างกายเราไม่ได้รับน้ำมาตลอดคืน อาจทำเลือดข้นหนืดได้ เมื่อน้ำเข้าสู่ร่างกายก็จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี และช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้อีกด้วย
ดื่มน้ำช่วงสาย
ถัดมา 08:00 น. ควรดื่ม 1 แก้ว แนะนำว่าควรดื่มก่อนทานอาหารเช้า 1 ชม. ไม่ควรดื่มน้ำแล้วทานข้าวทันที เพราะจะส่งผลให้น้ำย่อยเจือจาง เกิดอาการท้องอืดได้
ดื่มน้ำก่อนมื้อเที่ยง
มื้อเที่ยง คือ 12:00 น. ควรดื่มน้ำ ½ แก้ว ก่อนทานอาหาร 1 ชม. หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ให้จิบน้ำเล็กน้อย ซึ่งไม่ควรดื่มเยอะเพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง
ดื่มในช่วงบ่าย
เวลา 13:00 – 16:00 น. ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาด 2 แก้ว แต่แนะนำว่าควรแบ่งดื่ม หรือจะค่อย ๆ จิบก็ได้ค่ะ การดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสอีกด้วยค่ะ เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานในห้องแอร์ เนื่องจากผิวจะแห้ง และหยาบได้ง่าย
ดื่มก่อนมื้อเย็น
มาช่วงเย็น เวลาประมาณ 17:00 – 19:00 น. ช่วงนี้ถ้าหากได้ออกกำลังกายควบคู่กันไปจะดีมาก และก่อนที่จะทานข้าวเย็น ให้ดื่มน้ำก่อนประมาณ 1-2 แก้ว ล่วงหน้า 1 ชม.
ดื่มก่อนนอน
จะอยู่ในช่วงเวลา 23:00 น. หรือช่วงเที่ยงคืน ซึ่งก่อนนอน 1 ชม. แนะนำให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ แต่ทั้งนี้ไม่ควรดื่มน้ำเมื่อใกล้เวลานอนมากเกินไป เพราะจะทำให้ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกได้
การดื่มน้ำ ทำไมถึงลดน้ำหนักได้
เนื่องจากร่างกายของเราต้องการน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ซึ่งจะช่วยได้ในเรื่องการลดปริมาณไขมันในร่างกายได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 1 ชม. จะเป็นการช่วยลดความอยากในการทานอาหารลงได้อีกด้วยค่ะ รวมไปถึงน้ำก็ยังมีส่วนทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีมากขึ้น
แต่การดื่มน้ำก็ไม่ควรดื่มมากเกินไป หรือไม่ควรเกิน 10 แก้ว ต่อวัน เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก เซลล์จะบวมน้ำ และอาจมีอาการอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนได้
การดื่มน้ำ สามารถรักษาโรคได้ไหม?
การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคได้ดังนี้
ลดความเสี่ยงการเป็นโรคริดสีดวงทวาร
เพราะสาเหตุที่ทำให้ท้องผูก คือ การที่ดื่มน้ำน้อยเกินไป อุจจาระจึงแข็ง ทำให้ขับถ่ายได้ยาก จึงต้องออกแรงเบ่ง เป็นเหตุให้เกิดริดสีดวงทวาร
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง
การดื่มน้ำทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้น และลดภาวะเลือดข้นหนืด ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูงได้
ลดอาการคลื่นไส้
หากใครที่มีอาการคลื่นไส้ ให้จิบน้ำไปเรื่อย ๆ ไม่ควรดื่มรวดเดียวหมด หรือหากอาเจียนไปแล้ว ก็สามารถดื่มน้ำเข้าไปช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้
เพราะร่างกายที่ขาดน้ำ จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากมายจนอาจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ การดื่มน้ำมากเกินไปหรือมากกว่า 10 แก้ว ต่อวัน ก็จะมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายบวมน้ำได้ ดังนั้น หากต้องการรักษาสุขภาพ หรือลดน้ำหนัก ควรออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เท่านี้สุขภาพดีแน่นอนค่ะ