6 เคล็ดลับ การลดน้ำหนัก ด้วยการดื่มน้ำ

ไลฟ์สไตล์
JESSIE MUM

เพราะการมีสุขภาพดีเป็นเรื่องใคร ๆ ก็ต้องการ หลายคนไม่ได้ต้องการแค่ร่างกายที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม แต่ต้องการลดน้ำหนักเลยทีเดียว พยายามควบคุมในเรื่องอาหารการกิน และโภชนาการต่าง ๆ เน้นคีโตบ้าง และออกกำลังกายไปคู่กันบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มน้ำเปล่าสะอาดในปริมาณหนี่งแล้ว น้ำก็สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดีเช่นกัน ว่าแต่ต้องดื่มน้ำในปริมาณเท่าไหร่ เวลาไหนถึงจะเห็นผล วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากค่ะ

6 เคล็ดลับ การลดน้ำหนัก ด้วยการดื่มน้ำ

การลดน้ำหนัก นอกเหนือจากการออกกำลังกาย และควบคุมเรื่องอาหารแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยได้ นั่นคือการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ

ดื่มน้ำหลังตื่นนอน

โดยทั่วไปแล้วร่างกายของผู้ชายจะต้องการน้ำเปล่าสะอาด ประมาณ 13 แก้ว ในขณะที่ผู้หญิงต้องการ ประมาณ 9 แก้ว ต่อวัน ฝึกให้ตื่นเช้าในทุกวัน แล้วร่างกายจะจำเวลานั้น ๆ เมื่อถึงเวลาร่างกายก็จะทำงานตามระบบที่มันเคยได้รับการฝึกไว้

หลังจากตื่นนอนตอนเช้า (06:30 – 07:00 น.) ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดทันที 1 แก้ว เนื่องจากร่างกายเราไม่ได้รับน้ำมาตลอดคืน อาจทำเลือดข้นหนืดได้ เมื่อน้ำเข้าสู่ร่างกายก็จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี และช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้อีกด้วย

ดื่มน้ำช่วงสาย

ถัดมา 08:00 น. ควรดื่ม 1 แก้ว แนะนำว่าควรดื่มก่อนทานอาหารเช้า 1 ชม. ไม่ควรดื่มน้ำแล้วทานข้าวทันที เพราะจะส่งผลให้น้ำย่อยเจือจาง เกิดอาการท้องอืดได้

ดื่มน้ำก่อนมื้อเที่ยง

มื้อเที่ยง คือ 12:00 น. ควรดื่มน้ำ ½ แก้ว ก่อนทานอาหาร 1 ชม. หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ให้จิบน้ำเล็กน้อย ซึ่งไม่ควรดื่มเยอะเพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง

ดื่มในช่วงบ่าย

เวลา 13:00 – 16:00 น. ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาด 2 แก้ว แต่แนะนำว่าควรแบ่งดื่ม หรือจะค่อย ๆ จิบก็ได้ค่ะ การดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสอีกด้วยค่ะ เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานในห้องแอร์ เนื่องจากผิวจะแห้ง และหยาบได้ง่าย

ดื่มก่อนมื้อเย็น

มาช่วงเย็น เวลาประมาณ 17:00 – 19:00 น. ช่วงนี้ถ้าหากได้ออกกำลังกายควบคู่กันไปจะดีมาก และก่อนที่จะทานข้าวเย็น ให้ดื่มน้ำก่อนประมาณ 1-2 แก้ว ล่วงหน้า 1 ชม.

ดื่มก่อนนอน

จะอยู่ในช่วงเวลา 23:00 น. หรือช่วงเที่ยงคืน ซึ่งก่อนนอน 1 ชม. แนะนำให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ แต่ทั้งนี้ไม่ควรดื่มน้ำเมื่อใกล้เวลานอนมากเกินไป เพราะจะทำให้ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกได้

การดื่มน้ำ ทำไมถึงลดน้ำหนักได้

เนื่องจากร่างกายของเราต้องการน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ซึ่งจะช่วยได้ในเรื่องการลดปริมาณไขมันในร่างกายได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 1 ชม. จะเป็นการช่วยลดความอยากในการทานอาหารลงได้อีกด้วยค่ะ รวมไปถึงน้ำก็ยังมีส่วนทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีมากขึ้น
แต่การดื่มน้ำก็ไม่ควรดื่มมากเกินไป หรือไม่ควรเกิน 10 แก้ว ต่อวัน เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก เซลล์จะบวมน้ำ และอาจมีอาการอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนได้

การดื่มน้ำ สามารถรักษาโรคได้ไหม?

การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคได้ดังนี้

ลดความเสี่ยงการเป็นโรคริดสีดวงทวาร

เพราะสาเหตุที่ทำให้ท้องผูก คือ การที่ดื่มน้ำน้อยเกินไป อุจจาระจึงแข็ง ทำให้ขับถ่ายได้ยาก จึงต้องออกแรงเบ่ง เป็นเหตุให้เกิดริดสีดวงทวาร

ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง

การดื่มน้ำทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้น และลดภาวะเลือดข้นหนืด ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูงได้

ลดอาการคลื่นไส้

หากใครที่มีอาการคลื่นไส้ ให้จิบน้ำไปเรื่อย ๆ ไม่ควรดื่มรวดเดียวหมด หรือหากอาเจียนไปแล้ว ก็สามารถดื่มน้ำเข้าไปช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้

เพราะร่างกายที่ขาดน้ำ จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากมายจนอาจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ การดื่มน้ำมากเกินไปหรือมากกว่า 10 แก้ว ต่อวัน ก็จะมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายบวมน้ำได้ ดังนั้น หากต้องการรักษาสุขภาพ หรือลดน้ำหนัก ควรออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เท่านี้สุขภาพดีแน่นอนค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP